- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 06 September 2018 22:05
- Hits: 2448
บล.เอเชีย เวลท์ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
วางแผนลงทุนให้ดี อย่าตื่นตะหนก
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ : ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงลงไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งปรับตัวลงค่อนข้างหนัก โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ฮ่องกง จีน ฟิลิปปินส์ ไทย เพราะนอกจากจะเป็นต้องกังวลเรื่องสงครามการค้าที่สหรัฐฯ จะดำเนินการกับนานาประเทศ โดยเฉพาะหนักสุดคือกับประเทศจีน แต่ก็ต้องมีความกังวลใหม่เข้ามาเกี่ยวกับแนวโน้มการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ Emerging Countries โดยเฉพาะความกังวลต่อเศรษฐกิจของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งค่าเงินอินโดนีเซียอ่อนค่ารุนแรงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับฐานะการเงินและการคลังของประเทศไทย พบว่าไทยยังมีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนสำรองทางการ (Official Reserves) สูงถึง 205.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การปรับตัวลงของตลาดในภาพรวม เราแนะนำนักลงทุนถือเงินสดรอและเตรียมโอกาสเข้าซื้อ อย่างไรก็ตามช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นอาจจะยังไม่รีบาวด์กลับแรง แต่แนะนำนักลงทุนหาจังหวะในการเข้าซื้อ กรอบดัชนีวันนี้ 1,675-1,700 จุด หุ้นแนะนำ TOP, CPF, BDMS
Stock Comment
TOP Pick of the day
CPF (ปิด 26.00 บาท; ซื้อ; AWS TP 30.00 บาท) ราคาไก่ หมู ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาข้าวโพด ถั่วเหลืองอ่อนตัวลง เป็นปัจจัยบวกหนุน Gross Profit Margin ของ CPF นอกจากนี้ช่วงไตรมาส 3 มักเป็น High Season ของผลประกอบการ CPF
BDMS (ปิด 26.25 บาท; ซื้อ; AWS TP 29.00 บาท) โรงพยาบาลเข้าช่วง High Season หุ้น BDMS เป็น Top Pick ของเราในกลุ่มโรงพยาบาล
หุ้นเด่นวันนี้ : TOP (ปิด 84.75 บาท; ซื้อ; AWS TP 101 บาท)
รับปัจจัยบวกสองเรื่องคือค่าการกลั่นและราคา Paraxylene (PX) ปรับตัวสูงขึ้น คาดส่งผลดีให้กับผลประกอบการช่วงไตรมาส 3 ซึ่งมักเป็น High Season ของธุรกิจโรงกลั่น ค่าการกลั่นล่าสุดอยู่ที่ 7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ผลจากฤดูกาลพายุกระทบซัพพลายของโรงกลั่นในแถบอเมริกาใต้ และราคา PX ปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในเดือน ส.ค.61 ผลจากซัพพลายหดตัวตามโรงกลั่นที่หดตัว และโรงงานใหม่ที่มีกำหนดการจะเริ่มการผลิต ไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดการที่วางไว้ ซึ่งจากวานนี้ เราได้เห็นมุมมองจาก IVL ว่า Asia PTA Spread ดีขึ้น แต่ Asia PET Spread อ่อนตัวลง เป็นสาเหตุสำคัญที่บ่งบอกว่า ราคา PX ซึ่งเป็น Upstream ของการผลิต PTA มีราคากระโดดสูงขึ้น ในขณะที่ ราคา PET Resin ซึ่งเป็น Downstream ของสายการผลิตนี้ ราคาอ่อนตัวลง ทั้งหมดนี้ คาดว่าให้ผลบวกต่อ TOP ในช่วงไตรมาส 3/61 เพราะ TOP เป็นผู้ประกอบการหลักในธุรกิจโรงกลั่นและ PX
Price Pattern ของ TOP แม้ว่าจะยังมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิด Monthly Sell Signal แต่ Price Pattern ของ TOP กลับมีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 89 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 93.50 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 83.25 บาท (Resistance: 85.25, 85.75, 86.25; Support: 84.50, 84.00, 83.50)
ปัจจัยในประเทศ :
KBANK (ราคาปิด 208 บาท; ซื้อ; AWS TP 237 บาท) เตรียมเสนอคณะกรรมการของธนาคารในเดือน ต.ค. นี้ เพื่อของบลงทุนเพิ่มอีก 1 พันล้านบาทลงทุนในระบบโมบายแบงก์กิ้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรองรับปริมาณธุรกรรมของลูกค้าให้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่สามารถรองรับปริมาณการทำธุรกรรมสูงสุดได้ 6,000 รายการ/วินาที เป็น 10,000 รายการ/วินาที ในเดือน ต.ค. และเป็น 50,000 รายการ/วินาที ภายในสิ้นปี 62 (อินโฟเควสท์) ความเห็น : เราคาดการลงทุนดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของงบลงทุนในไตรมาส 4/61 ซึ่งโดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายการดำเนินงานของบริษัทจะแตะระดับสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายของปี เราประมาณการอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวม (Cost-to-income ratio) ปี 2561 ที่ 42.2% ใกล้เคียงปี 2560 ที่ 42.3% และคงคาดการณ์ EPS growth ปี 2561 ที่ 14%
SIAM ร่วมทุนพันทมิตรญี่ปุ่นและ TTCL ในการผลิตและส่งออกเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง ประเภท wood pellets ส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่น คาดว่าจะสามารถผลิตและส่งออกได้ภายในเดือน ต.ค. 61 นี้ (ข่าวหุ้น) ความเห็น: การร่วมทุนในครั้งนี้จะช่วยหนุนรายได้ของ TTCL (ปิด 9.20 บาท; ขาย; AWS TP 10 บาท) เพิ่มขึ้น อีกทางนอกเหนือจากรายได้จากโรงไฟฟ้า คาดว่ารายได้ดังกล่าวจะช่วยลดการขาดทุนจากธุรกิจก่อสร้างได้บางส่วน แต่คาดว่ารายได้โดยรวมทั้งปีจะยังติดลบอยู่ โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิ ขาดทุน 91 ล้านบาท แนะนำขาย
TRUE (ปิด 6.40 บาท; HOLD; AWS TP 7.10 บาท)TRUE ได้รับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการซึ่งได้มีคำชี้ขาดให้บริษัทฯชำระเงินค่าผิดสัญญาให้แก่ทีโอที ตั้งแต่เดือน กันยายน 2544 ถึงสิงหาคม 2558 เป็นจำนวน 59,121 ล้านบาท และ ดอกเบี้ยจำนวน 16,979 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 6.69 ต่อปี จากต้นเงิน 59,121 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนกันยายน 2558 จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น และ ให้ชำระเงินตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึงธันวาคม 2560 จำนวน 17,077 ล้านบาท และ ดอกเบี้ยจำนวน 1,298 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 6.69 ต่อปีจากเงินต้นอีกจำนวน 17,077 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น (SET) ความเห็น: TRUE แจ้งว่าคดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด และบริษัทฯได้พิจารณาแล้วไม่เห็นพ้องกับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เรามีความเห็นเชิงลบกับข่าวนี้และน่าจะเป็นปัจจัยกระทบราคาหุ้นในระยะสั้น
ตลาดต่างประเทศ :
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 22.51 จุด หรือ +0.09% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ลดลง 96.07 จุด หรือ -1.19% และ ดัชนี S&P500 ลดลง 8.12 จุด หรือ -0.28% นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ขณะที่ดัชนี Nadaq ร่วงลงกว่า 1% เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากผู้บริหารของบริษัทเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว
ตลาดหุ้นย่านเอเชีย : ปรับตัวลงค่อนข้างหนักช่วงวานนี้ โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ฮ่องกง จีน ฟิลิปปินส์ ไทย เนื่องจากมีความกังวลใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ Emerging Markets ซึ่งจะเห็นได้ว่าค่าเงินอินโดนีเซียอ่อนค่ารุนแรงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account Deficit) และขาดดุลงบประมาณ (Fiscal Deficit) สูง อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับฐานะการเงินและการคลังของประเทศไทยแล้ว ยังมีความแข็งแกร่งอย่างมาก การปรับตัวลงของตลาดในภาพรวม เราแนะนำนักลงทุนถือเงินสดรอและเตรียมโอกาสเข้าซื้อ
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบ : WTI ร่วงลง 1.15 ดอลลาร์ หรือเกือบ 1.7% ปิดที่ 68.72 ดอลลาร์/บาร์เรล; เบรนท์ ลดลง 90 เซนต์ หรือเกือบ 1.2% ปิดที่ 77.27 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคน"กอร์ดอน"ได้อ่อนกำลังลง และไม่ได้สร้างความเสียหายต่อแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยนายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้แสดงความกังวลว่า ความขัดแย้งทางการค้าจะส่งผลกระทบต่อุปสงค์น้ำมันในที่สุด
ราคาทองคำ : เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,201.3 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index): อ่อนค่าลง 36 จุด หรือ 2.38% มาอยู่ที่ 1,477 จุด คาดว่าจากผลกระทบของสงครามการค้า ซึ่งเห็นผลกระทบชัดเจนมากขึ้นในเดือน ก.ค.และ ส.ค. จึงปรับตัวลงจากระดับสูงสุด 1,773 จุด และลงอย่างรวดเร็วหลัง 22 ส.ค.เป็นต้นมา
Thailand Research Department
Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 0-2680-5094
OO13460