- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 05 September 2018 19:58
- Hits: 2555
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวันกลยุทธ์วันนี้
เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง
Smart Pick
เก็งกำไร SPRC
ราคาปิด 14.60 บาท
ราคาเหมาะสม 16.70 บาท (Consensus)
เราคงมุมมองบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่นเป็นวันที่ 3 ค่าการกลั่นบวกเด่นเป็นวันที่ 2 อีก 4.9% dod เป็น US$6.60/barrel และ 3QTD +63.4% QoQ จากสิ้น 2Q61 ที่ US$4.04
SPRC ได้ประโยชน์โดยตรงจากสัดส่วนรายได้ 100% มาจากธุรกิจโรงกลั่นเทียบกับโรงกลั่นอื่นๆ ในกลุ่มมีสัดส่วนรายได้บางส่วนจากธุรกิจปิโตรเคมี/โรงไฟฟ้า ขณะที่ Valuation น่าสนใจ ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ PER2561 เพียง 8.0 เท่า และผลตอบแทนจากเงินปันผล 7%
เก็งกำไร CPF
ราคาปิด 26.25 บาท
ราคาเหมาะสม 28.60 บาท
การเกิดโรคระบาดอหิวาต์สุกรแอฟริกัน (ASF) ในจีน ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้เมื่อใด ทำให้เรามองว่าราคาเนื้อหมูในภูมิภาคสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวียดนาม เป็นบวกต่อ CPF ทั้งในแง่ของราคาและปริมาณการส่งออก
แนวโน้มกำไรปกติ 3Q61 เราคาดเติบโตสูง QoQ จากการฟื้นตัวของราคาเนื้อหมูเฉลี่ยใน 3QTD ราว +9% QoQ เป็น 65.9 บาท/กิโลกรัม และเนื้อไก่ +14% QoQ เป็น 37.5 บาท/กิโลกรัม
เก็งกำไร RS
ราคาปิด 18.40 บาท
ราคาเหมาะสม 25.00 บาท
หุ้นกลุ่มเครื่องสำอางอย่าง DDD ฟื้นตัว 9% ใน 2 วันที่ผ่านมา แต่หุ้น RS ทรงตัว ขณะที่ภาพตลาดหุ้นทั่วโลกแกว่งในกรอบแคบเพื่อรอความชัดเจนเรื่องการค้าของสหรัฐฯ ทำให้เรามองว่าหุ้นขนาดกลาง/เล็กจะกลับมาเด่น
เราประเมินแนวโน้มกำไรปกติของ RS ใน 3Q61 คาดเร่งตัวขึ้น QoQ จากธุรกิจสุขภาพและความงามที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เทียบกับ 2Q61 ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกตรวจสอบจากอย.
เก็งกำไร SCB
ราคาปิด 145.00 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 148.00 บาท
ภาพทางเทคนิคมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบ 148.00 บาท แนวรับ143.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 141.00 บาท
เราคงมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน 4Q61 นี้ เป็นบวกต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยให้เร่งตัวขึ้น
Profit-Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
เรายังคงมุมมองเป็น "กลาง" ต่อการลงทุนในช่วงนี้ ประเมินกรอบแกว่งระหว่าง 1,705-1,720/25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ต่ำกว่า 5.0 หมื่นล้านบาท/วัน เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศขาดความโดดเด่น ดังจะเห็นได้จากการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น / ราคาน้ำมันดิบ NYMEX / ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ / ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ต่างแกว่งในกรอบแคบทั้งสิ้น คาดว่านักลงทุนทั่วโลกต่างรอดูความชัดเจนของผลลัพธ์จากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและแคนาดาในวันนี้ รวมถึง การตัดสินใจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังเสร็จสิ้นการรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน ต่อมาตรการกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีน วงเงิน US$ 2 แสนล้านปลายสัปดาห์นี้
เมื่อภาพการลงทุนขาดความโดดเด่น ทำให้หุ้นขนาดใหญ่ (SET50 Index) แกว่งในกรอบแคบ ขณะที่หุ้นขนาดกลาง/ เล็กที่ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้านี้ / กลุ่มที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวอย่างกลุ่มโรงกลั่น/ กลุ่มส่งออกไก่-หมู เราเชื่อว่าจะเห็นแรงเก็งกำไรเข้ามาเด่นกว่าภาพรวม
บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้เป็น Sector Update ต่อประเด็นความกังวลต่ออุปทานส่วนเกิน (Oversupply) ของตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม อาจกระทบต่อแนวโน้มสินเชื่อและการตั้งสำรองของกลุ่มธนาคารหรือไม่ ติดตามฉบับเต็มได้ในเช้าวันนี้
สำหรับประเด็นสำคัญของตลาดเกิดใหม่ ณ ขณะนี้ยังคงเป็นเรื่องการเคลื่อนไหวค่าเงินเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเราให้ความกังวลต่อค่าเงินรูเปียห์อินโดนีเซีย /เงินรูปีอินเดีย/เงินเปโซอาร์เจนติน่า/เงิน Lira ตุรกี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาร์เจนติน่ากับการตัดสินใจให้เงินช่วยเหลือของ IMF จะได้ข้อสรุปเร็วมากน้อยเพียงใด หากสถานการณ์เหล่านี้ทรงตัวดีขึ้น เรามองว่าการลงทุนในตลาดเกิดใหม่จะกลับมาเป็นกลางถึงบวกได้อีกครั้ง
HOT Topic
Hot Topic วันนี้
1. จับตาการเจรจาสัญญา NAFTA ระหว่างสหรัฐฯและแคนาดา
2. พายุ Gordon กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งสหรัฐฯ ส่งผลให้แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเริ่มหยุดการผลิต เป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน เช่น โรงกลั่น
3. เงินบาทอ่อนค่าเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออก เราชอบ CPF
4. วิเคราะห์เชิงลึก ตลาดอสังหาฯไทย Oversupply หรือยัง และกลุ่มธนาคารต้องรับมืออย่างไร
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX แกว่งตัวในกรอบบริเวณ 1710-1720 จุด ปิดที่ 1714.41 จุด ลดลง 6.8 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.4 หมื่นล้านบาท ถูกกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ นำโดย AOT (-1.5%), PTT (-0.95%), PTTGC (-1.83%), CPALL (-1.11%) และ IVL (-1.69%) มีผลต่อดัชนีราว 4.7 จุด
กระแสเงินทุน : สถาบันบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นเป็นวันแรกในรอบ 14 วันทำการราว 494 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิเป็นวันที่ 8 เพียง 181 ล้านบาท รวม 8 วันทำการขายสุทธิราว 9.6 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มสถาบันในประเทศและบัญชีบล.มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 2.6 พันสัญญา รวม 2 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 5.4 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 2.1 หมื่นสัญญา ขณะที่นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 5.1 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 7.1 หมื่นสัญญา โดย S50U18 มี Discount จาก SET50 Index เพิ่มขึ้นเป็น 6.8 จุด จากวันก่อนหน้าที่ 3.8 จุด
ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิวันแรกในรอบ 11 วันทำการราว 2.2 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. 61 ที่ 83.2 ทำจุดสูงสุดในรอบ 64 เดือน
วันนี้มีการประชุม กสทช. เพื่อพิจารณาผลการตรวจสอบรายได้ของ TRUE และ ADVANC ที่ต้องนำส่งรัฐฯ บนการให้บริการช่วงเยียวยา และพิจารณาการขอใช้สิทธิ์ช่วงมาตรการเยียวยาของ DTAC
2 บริษัทขุดเจาะน้ำมันที่อ่าวเม็กซิโกประกาศปิดทำการชั่วคราว เพื่อรับมือพายุเฮอร์ริเคน Gordon
อินโดนิเซียเผยอาจระงับโครงการโรงไฟฟ้ามูลค่าราว 2.5 หมื่นล้านเหรียญฯ เพื่อควบคุมการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
วันนี้ มีหุ้น IPO คือ TPLAS เข้าซื้อขายวันแรกในตลาด MAI ราคา IPO 1.48 บาท
ติดตามการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-แคนาดา และการรายงานค่า PMI ของ EU วันนี้
ติดตามการรายงานค่า PMI สหรัฐฯ วันที่ 6 ก.ย.
ติดตามการรายงานภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯเดือน ส.ค. วันที่ 7 ก.ย.
ติดตามการประกาศเรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญฯ หลังจากวันที่ 6 ก.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO13392
