- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 03 September 2018 16:19
- Hits: 3216
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นอีกวันที่ SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นใน BEAUTY, KTC, SAWAD อย่างไรก็ตาม CPALL ยังเผชิญกับแรงขายอย่างต่อเนื่อง และ CBG เช่นกันภายหลังมีข่าวอังกฤษเตรียมออกกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มชูกำลังกับเยาวชน ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,721.5 จุด (+1.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.7 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 4.2 หมื่นลบ.
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 680 ล้านบาท และกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 1,243 สัญญา
Investment theme
สรุปภาพรวมเดือนการลงทุนส.ค. และ กลยุทธ์การลงทุนเดือนกันยายน : ผ่านไปแล้วสำหรับการลงทุนเดือนสิงหาคม ภาพรวม SET แกว่งตัวในกรอบ 1,680-1,720 จุดสอดคล้องกับมุมมองของเรา โดยกลุ่มที่ปรับขึ้นส่วนมากเป็นกลุ่ม Domestic play เช่น กลุ่มธนาคารและการเงิน, กลุ่มอสังหา, กลุ่มก่อสร้าง และสำหรับกลยุทธ์การลงทุนเดือนกันยายน เรามีมุมมองเป็นลบต่อปัจจัยต่างประเทศเหตุผลจาก 1) โอกาสการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าครั้งที่ 3 ระหว่างสหรัฐ-จีนเป็น 2.0 แสนล้าน และ 2) การอ่อนค่าของค่าเงินในตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะประเทศที่เกิด Twin Deficit เป็นปัจจัยกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทางอ้อม และ 3) ความเสี่ยงของ Trump (American First) เปิดความเสี่ยงต่อการเคลื่อนไหวของทุนเอเชียกลับไปยังสหรัฐ อย่างไรก็ตามเรามุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะภาคการบริโภคและการลงทุน สนับสนุนจากกำลังซื้อของกลุ่มคนกำลังซื้อต่ำที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนมาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (กดเงินสด) และผลผลิตภาคเกษตร และการประมูล-ภาคการก่อสร้างเช่นรถไฟทางคู่เข้าครม., ออก TOR ทางด่วนพระราม 3, รับรู้รายได้ก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายใหญ่พร้อมๆกัน อีกทั้งคาด Loan growth กลุ่มธนาคาร 3Q เติบโตเด่นกว่า 6-7% ( จาก 2Q ที่ 5.6%)
Investment Theme : เราประเมินกรอบ SET เดือนกันยายนบริเวณ 1,690-1,730 จุด พร้อมถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% จากเหตุผลด้านบนเป็นเหตุให้เราแนะ Switch กลุ่ม Goods (ที่มีความเสี่ยงต่อสงครามการค้า) เข้าลงทุน Domestic พร้อมจับตาความผันผวนของค่าเงินในประเทศ EM มีผลโดยตรงต่อตลาดทุน และการปรับประมาณการ (Roll-over) ไปใช้ราคาเหมาะสมปีหน้าในหลายบริษัทฯอาจเป็น Catalyst สนับสนุนแนวรับ
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ธปท.เผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ค.เกินดุล 1,086ล้านเหรียญสหรัฐ / การเจรจาการค้าสหรัฐ-แคนาดายังไม่คืบหน้า / ค่าการกลั่นปรับลดลง 10.5% ที่ 5.59 เหรียญ / Trump ไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนที่สิงคโปร์ / Dollar กลับมาแข็งค่าที่ 95.18
Stock pick : N/A
Trading idea – การลงทุนเดือนกันยายน แนะทยอยสะสม PRM (ราคาเป้าหมาย 13.80 บาท/หุ้น) คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุด และฟื้นตัวเด่นใน Q3 จากการรับรู้รายได้ Big sea และถือเป็นหุ้น Underowned บริษัทหนึ่ง / เก็งกำไร PLAT (ราคา 9.20 บาท) ใกล้เข้าสู่เวลาเปิดโครงการ The market (คาดเป็นรายได้มากกว่า 20%) ในขณะที่ PER19 ลงมาต่ำเหลือเพียง 20x / STEC (ราคา 25.0 บาท) คาดกำไร2H18 เด่นจากการับรู้รายได้รถไฟฟ้า 3 สายพร้อมๆ กัน (เหลือง,ชมพู, ส้ม)
Technical View
ยืนเหนือ Neckline 1706 ระยะกลางยังมองขึ้น: ดัชนีอ่อนตัวลงในช่วงเช้า ก่อนจะมีแรงซื้อกลับในช่วงบ่ายจากกลุ่ม Leasing สื่อสาร ทำให้แนวโน้มหลักขณะนี้ยังเป็นการกลับตัวขึ้นแบบ Head and Shulders หัวกลับ และดัชนียังยืนหนือ Neckline จึงยังคาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1730 ภายในวันมองกรอบการแกว่ง 1715-1730 ระยะกลางหากอ่อนตัวไม่หลุด 1706 ยังมองว่าเป็นขาขึ้น จังหวะอ่อนตัวเป็นโอกาสซื้อสะสมหุ้นตามแนวรับ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1715-1730 เน้นรอซื้อที่แนวรับ และขายทำกำไรที่แนวต้านเพื่อเล่นรอบ พิจารณาแรงขายที่ 1730 และ 1750 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุด 1715 แนะนำทยอยสะสมหุ้นเพื่อ Trading ในกรอบ 1715-1730
แนวรับ : 1706, 1715 แนวต้าน : 1730, 1750
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการวันนี้ / ยุโรป, อังกฤษ, สหรัฐรายงาน PMI
ปัจจัยในประเทศ: คลื่น 850Mhz ของ DTAC จะหมดสัมปทาน
หุ้นเทคนิค:
TRUE (B 6.55-6.65, Tp 7.00// 7.20, Cut 6.45)
SCB (B 146.00, Tp 152.00, Cut 143.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO13262