Stock          S          R       Comment

BCH          18.50      19.00     ปรับค่ารักษาพยาบาลขึ้น หนุนกำไรยังเติบโตแกร่ง

BTS           9.25       9.40     ส่วนขยายสีเขียวใต้เริ่มเดินรถธ.ค.นี้ หนุนยอดค่าโดยสารโต

SPALI        24.30      24.65     เปิดโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ไพรด์ หลากหลายขนาดให้เลือก

 

          EM : ตลาดหุ้นเกิดใหม่ถูกแรงกดดันหลังจากนักลงทุนมีความกังวลต่อประเทศอาร์เจนติน่าและตุรกีมากขึ้น โดยล่าสุดค่าเงินเปโซของอาร์เจนติน่าอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ธนาคารกลางต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับสูงถึง 60% นอกจากนั้นยังได้รับผลกระทบจากคำกล่าวของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์เมื่อคืนนี้ที่ว่าจะเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าต่อจีนเพิ่มเติมอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้านี้

          มุมมองของเรา : ไม่ใช่สิ่งที่น่าตกใจ เนื่องจาก 2 ประเด็นนี้ (EM Turmoil & Trade tension) ถือเป็น 2 ประเด็นความเสี่ยงหลักที่เราย้ำเตือนมาตลอดว่าสามารถปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อและคงไม่จบในเร็ววัน เพียงแต่ว่าในท้ายที่สุดแล้ว ด้วยเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง จะทำให้ไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัยโดยเปรียบเทียบ และเป็นหลุมหลบภัยระยะสั้นได้ ล่าสุดจากการตรวจสอบในรอบ 1 วันที่ผ่านมา พบว่าบาทยังคงเป็นสกุลเงินที่ปรับตัวแข็งแกร่งกว่าสกุลเงินอื่นๆในประเทศเกิดใหม่ สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย (ดูรูป)

          MSCI : ในช่วงปิดตลาดวันนี้ MSCI จะมีการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยในดัชนี MSCI EM ลงเล็กน้อย เพื่อไปเพิ่มน้ำหนักให้กับหุ้น A-Share ของจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อหุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ในดัชนี MSCI Thailand อาทิเช่น PTT, CPALL และ AOT เนื่องจากกองทุนต่างชาติประเภท Passive fund ที่อิงการลงทุนกับดัชนีดังกล่าว จะต้องมีการขายหุ้นเหล่านี้ออกมาในวันนี้นั่นเอง

          มุมมองของเรา : การปรับลดน้ำหนักนี้ ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มนี้ยังปรับตัวไปไหนไม่ไกลนักในช่วงที่ผ่านมา แต่จากการศึกษาของเราในอดีตพบว่า เมื่อผ่านพ้นวัน Effective date ไปแล้ว หุ้นที่ถูกลดน้ำหนักในดัชนี MSCI นั้นมักมีการปรับตัว Rebound ขึ้นโดยส่วนใหญ่

          Fund flow : สอดคล้องกับท่าที่ของนักลงทุนต่างชาติที่มีการขายสุทธิต่อเนื่องกว่า 1.9 หมื่นล้าน นับตั้งแต่ MSCI ประกาศผลการ Review เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเราประเมินว่าส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการปรับพอร์ตเบื้องต้นของนักลงทุนต่างชาติประเภท Active fund นั่นเอง

          How to play : ประเมินว่าเมื่อผ่านพ้นช่วงสิ้นวันนี้ไปแล้ว Sentiment ของหุ้นขนาดใหญ่ในดัชนี MSCI Thailand จะปรับตัวดีขึ้น และมีโอกาสที่จะทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยได้เช่นกัน แนะนำ "สะสม" หุ้นในกลุ่มดังกล่าวทั้ง PTT และ CPALL ซึ่งเป็นหุ้นที่เราแนะนำ "ซื้อ" ในเชิงพื้นฐานด้วย โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 64.30 บาทและ 101 บาทตามลำดับ

          กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET Index ได้รับผลกระทบจำกัดจากปัจจัยความวุ่นวายใน EM และความกังวลสงครามการค้า เนื่องจากเสถียรภาพทางการเงินของประเทศที่ยังคงแข็งแกร่ง และน่าจะได้รับแรงประคับประคองจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ได้ มองแนวรับแรกที่น่าสนใจสำหรับการเข้าสะสมหุ้นที่ 1700 จุดเช่นเดิม โดยจากการที่เรามีมุมมองว่ากนง.จะยังคงดอกเบี้ยไปจนถึงสิ้นปีนี้ รวมถึงปัจจัยการเก็บภาษีดอกเบี้ย 15% ล่าสุดในกองทุนรวมตราสารหนี้ ทำให้เรามองว่ากลุ่มหุ้นปันผลสูงยังคงเป็นกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการเข้าลงทุนในจังหวะที่ดัชนีย่อตัวลง แนะนำ Focus ไปยังหุ้นในดัชนี SETHD (SET High Dividend Index) ที่ยังคงปรับตัว Laggard ตลาดนับตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้แก่ TISCO, BLAND, GLOW, LPN, MAJOR, LH, RATCH, EGCO, SIRI, BBL, TTW, TOP, CPF

          แนวรับ  1,713  แนวต้าน 1,734

 

 

EGCO  XD 6.00 บาท

PTTGC  XD 1.75 บาท

BCPG ลูกหุ้นเข้า 225,000 หุ้น

ECF ลูกหุ้นเข้า 46,436,851 หุ้น