- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 31 August 2018 21:23
- Hits: 2274
บล.ฟินันเซียไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic Play//Accumulate on Weakness
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,730 จุดอีกครั้งในช่วงต้นชั่วโมงซื้อขายจากความคาดหวังว่าสหรัฐฯและแคนาดาจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายเริ่มมีแรงขายออกมาและทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดลบเล็กน้อย ณ สิ้นวัน สถาบันในประเทศยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องและเร่งขึ้นเป็น 3.2 พันลบ. ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่น 2.9 พันลบ. (แต่พลิกมา Long ใน Index Futures ราว 3.5 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่าจะแกว่งตัว Sideways Down พักตัวหลังไม่ผ่านแนวต้าน 1,730 จุดรวมถึงบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบมากขึ้นหลังทรัมป์หนุนเดินหน้าเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านเหรียญและวิกฤตค่าเงินตุรกีและอาร์เจนตินา อย่างไรก็ตามกลุ่มพลังงานคาดว่าน่าจะพยุงตลาดได้บ้างหลังราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวขึ้นจากอุปทานที่ตึงตัว ขณะที่ปัจจัยในประเทศถือว่าค่อนข้างมีเสถียรภาพทั้งเศรษฐกิจและการเมือง จึงยังเน้นลงทุนหุ้นในกลุ่ม Domestic Play เป็นหลัก
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้น Domestic Play//ทยอยสะสมหุ้นเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือนส.ค. : BJC, BKD, INTUCH, RS, SC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$318ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$196ล้าน ขณะที่ไหลออกไทย US$88ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคหลังมีข่าวว่าสหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ส่งผลตลาดกลับมากังวลต่อสงครามการค้าอีกครั้ง
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ASK <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 26.20 บาท
ทั้ง ASK (เราออกบทวิเคราะห์วานนี้) และ THANI จะได้ประโยชน์จากนโยบายเปลี่ยนรถตู้สัมปทานเป็นรถมินิบัส (21 ที่นั่ง) ภายในปี 2022 คาดว่าจะมียอดขอสินเชื่อราว 3 หมื่นลบ. ซึ่ง ASK ดูชำนาญกว่า และถ้าสมมติให้ ASK ได้ส่วนแบ่งตลาด 5% จะได้สินเชื่อใหม่ 1.5 พันลบ. หรือ 5% ของสินเชื่อรวม
ในกรณีปกติกำไรอาจโตไม่หวือหวา แต่เป็นหุ้นปันผลชั้นเยี่ยม แม้วานนี้ราคาหุ้นขึ้นมาแล้ว 4% ยังให้ Dividend yield สูงราว 6.4%
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) เงินบาทอ่อนค่า เงินบาทกลับมาอ่อนค่า จาก Dollar Index ที่เริ่มฟื้น และกระแสเงินที่ไหลออกจากกลุ่ม TIPs โดยสกุลเงินทุกประเทศอ่อนค่าเฉลี่ย 0.5% W-W สาเหตุสำคัญคือตลาด DM ที่ Outperform ตลาด DM ซึ่งถูกกดดันจากประเด็นตุรกีก่อนหน้านี้ ซึ่งเรามองผลกระทบจากการปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงของต่างชาติจะเป็นเพียงระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เงินบาทที่อ่อนค่าจะส่งผลดีต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กทรอนิกส์ (KCE SVI) เกษตรอาหาร (CPF TU) รวมถึง CMAN และ PRM แต่จะเป็นลบกับผู้นำเข้า เช่น SYNEX THMUI FTE และผู้ที่มีหนี้ต่างประเทศมากเช่น THAI
(0) WORK Rating ช่อง WPTV เดือนส.ค.ดีดขึ้น จากการเป็นผู้ถ่ายทอดเอเชียนเกมส์ในช่วง 18 ส.ค.-2 ก.ย.นี้ คาดว่าหลังจบกีฬา Rating จะกลับมาระดับเดิมๆ ซึ่งฟื้นตัวช้า และจากกำไร 2Q18 ที่แย่กว่าคาดมาก ขณะที่แนวโน้ม 3Q18 กำไร 3Q18 ฟื้นตัวช้ากว่าเคยคาดต่อเนื่อง จาก Rating ของรายการใหม่ๆ ที่ต่ำ ขณะที่การควบคุมต้นทุนทำได้น้อยกว่าเคยคาด มีต้นทุนค่าลิขสิทธิรายการเอเชียนเกมส์ใน 3Q18-4Q18 เราจึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 2018-2019 ลง 27-34% ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2018 ปรับลงเป็น 37 บาท จากเดิม 48 บาท (DCF) โดยคงคาดกำไร 3Q18 ลดลงมากต่อเนื่อง Y-Y จากฐานสูงใน 2Q17-3Q17 และติดตามการฟื้นตัวของ Rating หลังการปรับผังรายการรอบใหม่ที่คาดในช่วงต้น 4Q18 คงคำแนะนำขาย
(+) TACC ข้อมูลที่ได้รับจากประชุมวานนี้ โทนบวก รายได้จากลูกค้าหลัก 7-11 ยังเติบโตดีต่อเนื่อง และสามารถชดเชยการหยุดขายที่กัมพูชาได้ ระยะสั้นมีแผนวางขายเครื่องดื่มรสโอเลี้ยงใน 3Q18 และ 4Q18 จะกลับมาวางขายเครื่องดื่มช็อคโกแกลต Hershey’s อีกครั้ง และล่าสุดบริษัทหาลูกค้ารายใหม่ใน Character Business ได้เพิ่ม 7 ราย รวมเป็น 27 ราย ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นจะกลับมายืนเหนือ 30% อีกครั้งใน 2H18 ภายหลังรับรู้รายได้ขายเครื่องดื่มผงสูตรใหม่น้ำตาลน้อยได้เต็มไตรมาสตั้งแต่ 3Q18 จึงคาดกำไรจะฟื้นตัวใน 2H18 โดยเฉพาะ 4Q18 ที่เป็น High Season ยังคาดกำไรสุทธิปีนี้ลดลง 20.8% Y-Y เหลือ 89 ลบ. และคาดกลับมาโต 22.8% Y-Y อยู่ที่ 109 ลบ.ในปีหน้า เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2019 เท่ากับ 4.5 บาท แนะนำซื้อ
(-) CBG มีข่าวรัฐบาลอังกฤษเตรียมห้ามขายเครื่องดื่มชูกำลังที่มีคาเฟอีนมากกว่า 150 มก.ต่อลิตร ให้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี เป็นลบต่อ CBG ที่กำลังบุกตลาดอังกฤษ โดยเครื่องดื่มบำรุงกำลังตัวหลักคือสูตร Original และ Green Apple มีคาเฟอีนเทียบเท่า 321 มก.ต่อ 1 ลิตร (มีเพียงสูตรเดียวจากทั้งหมด 5 สูตรที่น่าจะไม่โดนคือ Green Apple sugat free มีคาเฟอีน 23 มก.) แม้จะกระทบต่อผลประกอบการจำกัดเพราะยังมีรายได้ในอังกฤษน้อย ในขณะที่ประชากรอังกฤษทั้งหมดราว 66 ล้านราว 68% ของประชากรที่อายุ 10-18 ปี นิยมดื่มเครื่องดื่มบำรุงกำลัง แต่ข่าวนี้จึงเป็นลบต่ออุปสรรคการโตในอังกฤษ รวมถึงค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่อาจสูงขึ้น และอาจทำให้ระยะเวลาคุ้มทุนยาวออกไปกว่าปี 2020 ที่เป็นเป้าของบริษัท แนะนำหลีกเลี่ยง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
29-31 ส.ค.- ไทย: Thailand Focus 2018
31 ส.ค.- MSCI: ปรับน้ำหนักการคำนวณดัชนี
- ไทย: ตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือน ก.ค.
- จีน: ดัชนี PMI ภาคการผลิต (ส.ค.)
3 ก.ย.- ไทย: อัตราเงินเฟ้อ
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง หลังสหรัฐยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าทำสงครามทางการค้ากับจีนต่อไป นอกจากนี้ปธ.ทรัมป์ยังขู่ว่าอาจจะถอนตัวออกจากองค์การ WTO เนื่องจากทรัมป์มองว่า WTO ปฏิบัติกับสหรัฐแย่เกินไป
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังจากยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาเรื่อง Brexit เพิ่มเติม นอกจากนี้การขู่ถอนตัวออกจาก WTO ของสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยลบต่อตลาด
(-) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับลดลงจากวิกฤตในตุรีและอาเจนติน่ากลับมากดดันตลาดอีกครั้ง รวมไปถึงการเดินหน้าทำสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังปธ.ทรัมป์ออกมาให้ข่าวว่าจะเดินหน้าเก็บภาษีจีนเร็วกว่าที่ตลาดคาด
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 32.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.74 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 70.25 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขสต็อคน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด และตัวเลขการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านล่าสุดที่ปรับตัวลง
(0) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่บริเวณ 6.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 6.50 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1197.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์สหรัฐ
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO13208