เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบางอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงมีแรงซื้อต่อเนื่องในกลุ่มนิคมอย่าง WHA, AMATA และกลุ่มก่อสร้างอย่าง ITD, CK และหุ้นขนาดเล็ก-กลางบางตัวเริ่มกลับมามีแรงซื้ออีกครั้งอย่างเช่น VGI, MACO, TEAMG อย่างไรก็ตาม CPALL, PTT ยังคงเผชิญกับแรงขายต่อเนื่องเป็นผลให้ท้ายตลาดกดให้ SET พลิกกลับมาติดลบ  ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,720.4 จุด (-1.8 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.2 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 3.8 หมื่นลบ.

นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 2,884 ล้านบาท แต่ยังคงเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 3,513 สัญญา

 

  วันนี้ MSCI มีการ Rebalance , ค่าเงินกดดัน EM  :  ในวันนี้จะมีการปรับพอร์ต MSCI ตลาดเกิดใหม่ โดยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน A-Share จาก 2.5% เป็น 5.0% คิดเป็นทั้งหมด 236 บริษัทซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 0.75% ของ MSCI Emerging market Index เป็นผลให้ประเทศอื่นๆรวมถึงประเทศไทยถูกปรับน้ำหนักลง (ประเทศไทยถูกปรับลดลงประมาณ 0.2%) ซึ่งเราประเมินผลกระทบจำกัดเมื่อเทียบกับการปรับพอร์ตรอบเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในช่วงบ่าย อาจมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่บางตัวจากประเด็นดังกล่าว เรามองว่าเป็นโอกาสในการทยอยสะสมเช่น  PTT, CPALL ในขณะที่ปัจจุบัน SET ขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่จากทั้งต่างประเทศและในประเทศ เป็นเหตุให้เรามองว่าตลาดจะยังแกว่งในอยู่ในกรอบแคบ 1,705-1,720 จุด  เพื่อรอดูความชัดเจนประเด็นรายละเอียดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์หน้า ล่าสุด Trump แถลงพร้อมนำสหรัฐออกจาก WTO หากไม่ได้รับความเป็นธรรม อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยเพิ่มแรงกดดันต่อการลงทุนในตลาดทุน 

  Investment Theme :  วันนี้ตลาดหุ้น Emerging market อาจได้รับแรงกดดันจากค่าเงินหลายสกุลเช่น Peso, Rupiah, Lira , Rand และอื่นๆอ่อนค่าทำระดับสูงสุดในรอบ 3-5 ปี เราประเมินแนวรับ 1,705 จุด

 

  เมื่อคืนที่ผ่านมา –  สนช.ผ่านร่างงบประมาณปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท / คุณวิรไท เผยเงินบาทแข็งเร็วกว่าภูมิภาคจากแรงซื้อพันธบัตรระยะสั้น / รัฐบาลอังกฤษเตรียมออกกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มชูกำลังกับเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี / สหรัฐรายงานเงินเฟ้อ PCE เติบโต 2.3% YoY สูงสุดในรอบ 4 ปี /  BDI ลดลง 47 จุด ที่ 1,614 จุด

 

  Trading idea – จับตาผลกระทบ CBG ภายหลังมีข่าวระบุรัฐบาลอังกฤษเตรียมออกกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มชูกำลังกับเยาชวอายุต่ำกว่า 16 ปี (หรือ 18 ปี) / ทยอยสะสมหุ้น Domestic ที่คาดได้รับผลกระทบจำกัดจากประเด็นสงครามการค้านำโดย BEM (ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท) GOLD (ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท)

 

 

  ในวันกรอบ 1715-1730 ระยะกลางไม่หลุด 1706 ยังมองขึ้น  :  ในช่วงเช้าดัชนีเปิดโดดทำ Gap และปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1730 อีกครั้งแต่ยังไม่สามารถยืนได้ และปรับตัวลงปิด Gap ที่เปิดไว้ในช่วงเช้าตอนช่วงท้ายตลาด แต่เนื่องจากยังมีสัญญาณบวกใน MACD และเทรนหลักที่ยังเป็นขาขึ้น ทำให้ยังคาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1730 ภายในวันมองกรอบการแกว่ง 1715-1730 ระหว่างวันหากอ่อนตัวไม่หลุด 1715 ยังมองว่าเป็นโอกาสซื้อเพื่อลุ้นการดีดตัวกลับ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1715-1730 เน้นรอซื้อที่แนวรับ และขายทำกำไรที่แนวต้านเพื่อเล่นรอบ พิจารณาแรงขายที่ 1726 และ 1730  2)  ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุด 1715 แนะนำทยอยสะสมหุ้นเพื่อ Trading ในกรอบ 1715-1730

  แนวรับ : 1706, 1715 แนวต้าน : 1726, 1730

 

  ปัจจัยต่างประเทศ:  MSCI ปรับน้ำหนักไทยลง 0.2% วันนี้ 

  ปัจจัยในประเทศ:  งานสัมมนา Thailand Focus 29 - 31 ส.ค.

 

  IVL (B 58.50-59.50, Tp 61.50// 63.00, Cut 58.00)

  KCE (B 44.00, Tp 47.50, Cut 43.00)