WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

GBXบล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
Market Summary 29/08/2018
Close                  1,722.26                    Volume         Bt38,137M
Change                    4.11                       P/E                17.12
%Change                  0.24%                   P/BV              1.95
หุ้นแนะนำพิเศษ
SABINA Analyst Meeting  (มุมมองบวกแนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว)
รายได้ 4 ปีเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 5% ส่วนกำไร 4 ปีเติบโตเฉลี่ย 20%  2Q61 มีรายได้จากการขาย 783 ลบ. +15.12% กำไรสุทธิ 96 ลบ. +53%  1H61 รายได้จากการขาย 1,469 ลบ. +17%YoY กำไร 176 ลบ. +54%YoY มีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเติบโตของรายได้จากช่องทางออนไลน์ (NSR) ที่เติบโตสูงถึง 278%  แม้อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวที่ 51.7% จาก 51.2% ใน 1H60  แต่มี EBIT margin 15% สูงขึ้นจาก 11.5% ใน 1H60  ขณะที่อัตรากำไรสุทธิปรับดีขึ้นสู่ 12% จาก 9% ใน 1H60  
ผลการดำเนินงานและความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นต่อเนื่องมาจากการลดสัดส่วนการรับผลิต (OEM) เพิ่มการผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ “ซาบีน่า” ทำให้สัดส่วนเปลี่ยนจาก 90:10 ในปี 2549 เป็น 10:88 ในปี 2560 ขณะที่งาน OEM ปัจจุบันเป็นงานผลิตยากมีมาร์จิ้นสูงกว่าในอดีต และเพิ่มงาน sourcing ที่ผลิตง่าย ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มจาก 27% เป็น 51%
ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อการเติบโตของรายได้และกำไรของ SABINA จากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายมาสู่ออนไลน์ แบรนด์ซาบีน่าที่แข็งแกร่ง การปรับปรุงกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพช่วยลดคชจ.ในการดำเนินงาน  ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER 40.8 เท่าสูงกว่ากลุ่มที่ระดับ 14 เท่า ขณะที่เงินปันผลในปี 2560 หุ้นละ 0.82 บาทมี payout ratio 117% คิดเป็น yield 2.3% แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว
ข้อมูล Public Presentation หุ้นที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย “C”
SPORT แจงแผนแก้หลุด "C" เน้นลดค่าใช้จ่าย-เพิ่มรายได้-เพิ่มทุน เล็งเพิ่มธุรกิจบริหารจัดการตั๋วออนไลน์-จัดทัวร์ชมกีฬา  สำหรับการเพิ่มทุน จะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2.56 พันล้านบาท จากเดิม 550.37 ล้านบาท  โดยจะออกหุ้นใหม่ 2.01 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท แบ่งจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 1.37 พันล้านหุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.20 บาท ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-2 พ.ย.61 โดยจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 456.37 ล้านหุ้น สำหรับรองรับการแปลง SPORT-W7 และไม่เกิน 186.14 ล้านหุ้น สำหรับรองรับการปรับสิทธิ SPORT-W5
NEP เน้นแผนเพิ่มช่องทางสร้างรายได้-ลดต้นทุนหนุนสร้างผลกำไร ผถห.เสนอลดพาร์แก้ปมเครื่องหมาย "C" โดยในปี 60 บริษัทได้มีการเพิ่มสายการผลิตบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน และ ปี 61 ได้ขายกำลังผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทมีแนวโน้มผลการดำเนินงานดีขึ้น รวมถึงมีบริษัท วาวาแพค จำกัด เข้ามาเป็นพันธมิตร ช่วยสนับสนุนการผลิต และแนะนำลูกค้าให้ ประกอบกับบริษัทร่วมอย่าง NNCL มีผลประกอบการดีขึ้น จากการเปิดโรงไฟฟ้า และรายได้จากสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น ทำให้ได้รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น ประกอบกับปรับปรุงศักยภาพด้านการผลิต โดยการลดต้นทุนการผลิต-ลดของเสีย รวมถึงควยคุมค่าใช้จ่ายและงบประมาณต่างๆ ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังรับพิจาณาแนวทางการลดมูลค่าหุ้น ตามคำเสนอของผู้ถือหุ้น
EFORL โชว์แผนปลด C เล็งร่วมทุนกับ ตปท. คาดสรุปช่วง Q4 โดยมีแนวทางการแก้ไขดังนี้
1. เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทในช่วงต้น 3Q61 ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนทุนชำระแล้ว เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 61
2. เพิ่มรายได้จากการขายและบริการจากธุรกิจหลัก 2 ประเภท คือ ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ และธุรกิจความงาม อีกทั้งมีแผนร่วมทุน ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือแพทย์บางรายการกับบริษัทต่างประเทศชั้นนำของโลก ซึ่งคาดว่าการร่วมทุนดังกล่าวจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 4Q61 รวมถึงมีแผนขยายแฟรนไชส์ บ.วุฒิศักดิ์ (Wuttisak) ไปยัง CLMV
Market View  : ปัจจัยบวกหนุน
หุ้นแนะนำพิเศษ : SABINA
หุ้นมีข่าว : ASK BCP IRPC PACE
Technical Insight : JWD  UNIQ
  SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่เป็นบวกสลับลบ ปัจจัยบวกได้แก่ สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับเม็กซิโก แต่ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ลดลงราว 0.5% ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,722.26 จุด (+4.11 จุด) Volume 3.8 หมื่นลบ. จาก Foreign Net –1,068 ลบ. TFEX Net -4,063 สัญญา ตราสารหนี้ +898 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย 
+ดาวโจนส์ปิดบวกจากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของตัวเลข GDP ในไตรมาส 2 ของสหรัฐ
+น้ำมันปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเดือน หลังพบคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯลดลงเกินคาด อีกทั้ง GDP สหรัฐที่ปรับกาศออกมาดีกว่าครั้งก่อนเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม
+GDP สหรัฐประจำไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 4.2%สูงกว่าครั้งก่อนที่ 4.1% และสูงสุดในรอบ 4 ปี
+พาณิชย์ เผย ส.ค.61 อนุมัติต่างชาติลงทุน 18 ราย เงินลงทุนเพิ่ม 121% จากเดือนก่อน
+เวที Thailand Focus แสดงศักยภาพประเทศไทยดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติลงทุนใน EEC พร้อมเร่งต่อยอดสู่ SEC 
-ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายลดลง 0.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน  
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.98 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.66 บาท/US
**29 – 31 ส.ค. ประเทศไทยจัดงาน Thailand Focus 2018
**สหรัฐ-แคนาดาเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA)
ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยบวกหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศปิดบวกแข็งแกร่งขานรับตัวเลข GDP สหรัฐในช่วง 2Q61 สูงสุดในรอบ 4 ปี  ราคาน้ำมันปิดบวกแตะระดับสูงสุดในรอบเดือน  รวมทั้งสงครามการค้ามีแววผ่อนคลาย โดยยังมีปัจจัยกดดันจาก  fund flow ไหลออก คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,713-1,732 จุด
กลยุทธ์การลงทุน  
- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI 
-  PTT, AOT, CPALL, ADVANC, SCC, SCB, MINT, TOP, BEM, TMB และ TU เข้าร่วม roadshow ในงาน Thailand Focus (ที่มา ข่าวหุ้น)
- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE XO CPF SSP SVI
- ค่าการกลั่นเริ่มปรับตัวขึ้น SPRC IRPC TOP BCP
- ROBINS HMPRO ครม.คง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี
หุ้นมีข่าว  
ASK Analyst meeting (ราคาปิด 22.8 บาท Bloomberg consensus 26.60 บาท มุมมอง Neutral)
ASK ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อแฟคตอริ่ง และสินเชื่อ
ลีสซิ่ง คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 82% , 1.7% และ 1.6% ตามลำดับ  สินเชื่อรถยนต์ส่วนใหญ่กว่า 60% เป็นรถบรรทุก เป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อทั้งปี 61 ราว 12-15% จากการเติบโตของสินเชื่อรถบรรทุกเป็นหลักราว 15%  และประเภทอื่นราว 10-12% 2Q61 มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 3,628 ลบ. +4%yoy ส่วน BGPL ซึ่งเป็นบริษัทย่อยมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 1,182 ลบ. -14%yoy เนื่องจากกลุ่มลูกค้า Factoring ลดลงทำให้ยอดปล่อยสินเชื่อรวม 2Q61 อยู่ที่ 4,810 ลบ. -1%yoy
1H61 มีรายได้รวม 1,508 ลบ. +5%yoy  และกำไรสุทธิ 372 ลบ. +3%yoy ด้าน %NPL ลดลงจาก 2.76% ใน 2Q60 เหลือ 2.25% ซึ่งผู้บริหารคาดว่าจะลดลงอีกจากการใช้มาตรการคัดกรองผู้ขอกู้ที่เข้มงวดเพื่อรองรับ IFRS9
ความเห็น ฝ่ายวิจัยประเมินว่า ASK ยังสามารถเติบโตได้ตามทิศทางการเติบโตของยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ Bloomberg consensus คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 805 ลบ. +8.05%  ASK เป็นหุ้นปันผลดี PE ต่ำ โดยมี yield สม่ำเสมอราว  6–7%ต่อปี  ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 10 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มการเงินที่ระดับ 20 เท่า แนะนำ ซื้อรับเงินปันผล
+BCP คาด EBITDA ปี 2561 ใกล้เคียงปีก่อนที่ 13,000 ล้านบาท จากครึ่งปีแรก ทำได้แล้ว 6,358 ล้านบาท ส่วนปริมาณการกลั่นปี 2561 คาดปรับขึ้นมาอยู่ที่ 120,000 บาร์เรลต่อวัน หลังปิดซ่อมบำรุงไตรมาส 2/2561 จ่อบุ๊กกำไรจากกาล็อต ในฟิลิปปินส์ มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3/2561(ทันหุ้น)
+IRPC ศาลฎีกาฯเสียงข้างมาก ยกฟ้อง "ทักษิณ" ไม่ผิดมาตรา 157 กรณีอนุมัติคลังบริหารแผนฟื้นฟู TPI
+PACE เซ็นสัญญาขายสิทธิแฟรนไชส์ร้าน Dean & Deluca ในจีนให้แก่บริษัทย่อยเครือซีพี วางเป้าตั้ง 500 สาขาใน 5 ปี พร้อมขายหุ้นเพิ่มทุน PP 500 ล้านหุ้นให้กองทุน Asia Alpha Equity Fund 2 ที่ราคา 0.58 บ./หุ้น
+DIGI เผยได้รับชำระเงิน 730 ลบ.จากขาย ABOVE 39 นำไปไถ่ถอนตั๋ว B/E แล้ว
อนุฯ กลั่นกรองโทรคมนาคม ยังไร้ข้อสรุปมาตรการเยียวยาลูกค้า DTAC บนคลื่น 1800-850 MHz ชี้หากไม่มีผู้มาชำระค่าธรรมเนียมภายใน 90 วัน DTAC ได้รับเยียวยา 25 MHz ด้านสมาคมทีวีดิจิทัลเสนอ กสทช. 4 ประเด็นแก้ปัญหาทีวีดิจิทัล (ที่มาข่าวหุ้น)
ประเด็นบวกกลุ่มท่องเที่ยว รัฐบาลเล็งยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าชาวจีนชั่วคราว หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว ช่วง Golden Week ตุลาคมนี้ (ทันหุ้น)
ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา คลัง ยื่นไฟลิ่งตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ 4.5 หมื่นลบ.แล้ว คาดเสนอขายต้นต.ค.-เทรด 1พ.ย.ผลตอบแทนเบื้องต้นสูงกว่า 3%
นักวิเคราะห์  02-672-5999                 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง  ext.5937             ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์  ext.5936                    สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร  ext.5940             ทศพล วิไลประภากร
OO13156

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!