- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 28 August 2018 16:31
- Hits: 1245
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เก็งกำไรหุ้น Domestic Play
Smart Pick
สะสม BJC
ราคาปิด 58.50 บาท
ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
เราคงมุมมองบวกและแนะนำ "สะสมต่อเนื่อง" หลังวานนี้ +2.6% เทียบกับ CPALL +0.4% และ SET Commerce +1.1% สะท้อน Momentum ที่แข็งแกร่ง และแรงหนุนการปรับพอร์ตจาก CPALL เข้า BJC แทน
แนวโน้มกำไร 3Q61 เติบโต QoQ จาก SSSG ที่พลิกกลับเป็นบวก YoY จาก 2Q61 ที่ -0.5% YoY และคาดบวก YoY ต่อเนื่องถึง 4Q61 ซึ่งเป็น High Season หนุนกำไรปี 2561 เติบโต +31% YoY เป็น 6.9 พันลบ. เติบโตสูงสุดในกลุ่มค้าปลีก
เก็งกำไร KBANK
ราคาปิด 218.00 บาท
ราคาเหมาะสม 250.00 บาท
เรามองว่ากระแสเงินทุนต่างชาติมีโอกาสไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น EM เมื่อจาก Dollar Index อ่อนค่าต่อเนื่อง จึงมีโอกาสเห็นการซื้อสุทธิของสถาบันต่างประเทศหลังเสร็จสิ้นการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI วันศุกร์นี้
หุ้นกลุ่มธนาคารมีปัจจัยหนุน ได้แก่ (1) รองรับกระแสเงินทุนต่างชาติ (2) โอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยช่วงปลายปี 2561 เป็นบวกต่อ NIM ในปี 2562 และเป็น Upside Risk ต่อประมาณการกำไร (3) สินเชื่อเร่งตัวขึ้นจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ
เก็งกำไร BEM
ราคาปิด 8.50 บาท
ราคาเหมาะสม 10.10 บาท
ราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวผ่านแนวต้านสำคัญที่ 8.35 บาท เป็นสัญญาณบวกทางเทคนิค และมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 8.90 บาท
นอกจากนี้ BEM ยังมีปัจจัยบวกรออยู่ คือ คาด รฟม. เตรียมอนุมัติแผนลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ในวันที่ 31 ส.ค. มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท และกลุ่ม CK มีโอกาสสูงที่จะได้งานเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญงานรถไฟฟ้าใต้ดิน และมี BEM เป็นหัวหอกในธุรกิจเดินรถไฟฟ้า
เก็งกำไร TPIPP
ราคาปิด 6.30 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 6.70 บาท
วานนี้ราคาหุ้นปิดเหนือเส้น 75 วันที่ 6.25 บาท มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบ 6.70 บาท แนวรับ 6.25 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 6.10 บาท
เราคาดประกาศเงินปันผล 2Q61 หุ้นละ 0.10 บาท Yield 1.6% และอีก 0.20 บาท งวด 2H61 ให้ Yield 3.2% ทำให้ Downside Risk จำกัด และกำไรปกติ 3Q61 มีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า TG6 เต็มไตรมาส และเริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า TG7 เป็นไตรมาสแรก
Switch : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง สะท้อนจากมูลค่าการซื้อขายกลับมาสู่ระดับ 4 หมื่นล้านบาทอีกครั้ง สำหรับทิศทางวันนี้ เรามองว่า 1) ดอลล่าร์อ่อนค่าปิดต่ำกว่า 95 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2561 2) ราคาน้ำมันดิบทั้ง NYMEX/ Brent ฟื้นตัวต่อเนื่อง และ 3) ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ เมื่อสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโก ล้วนเอื้อต่อการขยับขึ้นของ SET INDEX เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 1710-1725 จุด
อย่างไรก็ดี เราแนะนำให้ขายทำกำไรตามรอบ (Profit Taking) เมื่อ SET INDEX เข้าใกล้แนวต้าน 1730 จุด โดยเฉพาะกลุ่ม Global Play อย่างกลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี เพราะเรามองว่า ราคาน้ำมันดิบ น่าจะมี Upside ค่อนข้างจำกัด ทั้ง NYMEX บริเวณ US$70/bbl. และ Brent แถว US$77-78/bbl.
กลยุทธ์การลงทุนหลัก เรายังชอบหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศ หรือ Domestic Play ที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตดีใน 2H61 ได้แก่ กลุ่มธนาคาร (KBANK/ BBL/ KKP), กลุ่มสื่อสาร (TRUE/ ADVANC), กลุ่มค้าปลีก (BJC), กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS), กลุ่มขนส่ง (BEM) เป็นต้น สำหรับหุ้นปันผลเด่นที่ยังไม่ได้ขึ้นเครื่องหมาย XD และยังมีเวลาให้สะสม คือ KKP ขึ้น XD วันที่ 5 ก.ย. จ่ายปันผล 2 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ราว 2.6%
บทวิเคราะห์พื้นฐานวันนี้ ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 2Q61 ของกลุ่มสื่อสาร โดยกลุ่มผู้ประกอบการมือถือ รายงานกำไรออกมาดีตามคาด ขณะที่กลุ่ม System Integrator (SI) และหุ้นขนาดเล็กในกลุ่มฯ ยังไม่ฟื้น แนวโน้ม 2H61 กลุ่ม Mobile Operators ยังเติบโตเด่นต่อเนื่อง เราเลือก TRUE เป็นหุ้นเด่น และแนะนำหลีกเลี่ยงหุ้น SI
HOT Topic
Hot Topic วันนี้
1. สหรัฐฯบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโก ส่งผลให้สงครามการค้าเริ่มคลายตัว
2. SET Index จะผ่าน 1720 จุดได้หรือไม่?
3. หุ้นกลุ่ม Domestic Play ยังเป็นหุ้นกลุ่มเด่น ได้แก่ ธนาคาร, ค้าปลีก, ขนส่ง, โรงพยาบาลและสื่อสาร
4. สรุปภาพรวมกลุ่ม ICT หุ้นใดยังเป็นตัวเด่นของเรา
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 13.42 จุด ปิดที่ 1717.24 จุด มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 4.7 หมื่นล้านบาท โดยมีรายการ Big Lot หุ้น BJC มูลค่าสูงถึง 3.9 พันล้านบาท ราคาเฉลี่ย 58.54 บาท/หุ้น
กระแสเงินทุน: สถาบันในประเทศยังเป็นผู้ซื้อสุทธิหลัก เป็นวันที่ 8 หนาแน่นถึง 3.8 พันล้านบาท รวม 8 วันทำการซื้อสุทธิสะสมกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท แต่กลุ่มสถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Short สุทธิใน SET50 Index Futures ราว 1.1 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีนักลงทุนกลุ่มนี้สถานะ Short สุทธิราว 2.2 หมื่นสัญญา ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 แต่เล็กน้อยเพียง 585 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิราว 2 พันล้านบาท แต่พลิกกลับมามีสถานะ Long สุทธิในตลาด SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 1.5 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Long สุทธิราว 7.3 หมื่นสัญญา โดย S50U18 มี Discount จาก SET50 Index ราว 3.29 จุด
ตลาดตราสารหนี้: นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีกราว 8.8 พันล้านบาท รวม 5 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 4.2 หมื่นล้านบาท และค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโก และเตรียมเจรจากับแคนาดาในลำดับถัดไป
ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เผยหากแคนาดาไม่ลงนามในข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ สหรัฐฯอาจพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดา โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของแคนาดาจะเดินทางไปยังสหรัฐฯเพื่อเจรจาข้อตกลง วันนี้
ทางการสหรัฐฯ เผยกำลังพิจารณาแผนช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ในวันที่ 4 ก.ย.2561
อิหร่าน เข้าให้การต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้ออกคำสั่งระงับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ
ผู้ว่า รฟม. เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด รฟม. วันที่ 31 ส.ค.นี้ จะมีการพิจารณา 2 โครงการ คือ (1) แผน PPP โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ วงเงิน 1.3-1.4 แสนล้านบาท และ (2) โครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า โมโนเรลสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี
ติดตามการรายงาน GDP 2Q61 ครั้งที่ 2 ของสหรัฐฯ ตลาดคาดขยายตัว 4.0%YoY วันที่ 29 ส.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ ตลาดคาดขยายตัว 2.0%YoY วันที่ 30 ส.ค.
ติดตามการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย เดือน ก.ค.2561 โดย ธปท. วันที่ 31 ส.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้ออียู และการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI วันที่ 31 ส.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO13023