- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 August 2018 16:13
- Hits: 1616
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Selective Buy//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าคาดโดยได้แรงหนุนจากตัวเลข GDP 2Q18 ของไทยที่ออกมาสูงกว่าตลาดคาด ส่งผลให้ดัชนีปิดเหนือระดับ 1,700 จุดได้อีกครั้ง โดยแรงซื้อส่วนใหญ่ยังคงมาจากสถาบันในประเทศราว 1.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องอีก 426 ลบ.สอดคล้องกับกระแสเงินทุนที่ยังไหลออกจากภูมิภาค (แต่เริ่มพลิกมา Net Long ใน Index Futures ราว 4.1 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index จะแกว่งตัว Sideways โดยกรอบการบวกคาดว่าจะจำกัดมากขึ้นหลังทรัมป์ออกมาวิจารณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ FED นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างคณะทำงานของสหรัฐฯและจีนเพื่อคลี่คลายข้อพิพาท รวมถึงการประชุมประจำปีที่แจ็คสันโฮลปลายสัปดาห์นี้เกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน จึงมองว่าหุ้นที่ยัง Laggard ตลาดและยังมีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นน่าจะสามารถ Outperform ได้
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่ยัง Laggard และมีปัจจัยบวกหนุน//ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานในช่วงตลาดพักตัว
หุ้นเด่นเดือนส.ค. : BJC, BKD, INTUCH, RS, SC
Fund Flow กระแสเงินทุนไหลวานนี้ออกจากภูมิภาคเล็กน้อย US$21 ล้าน โดยไหลออกจากทุกประเทศ (มากที่สุดคือเกาหลีใต้ US$95 ล้าน) ยกเว้นไหลเข้าไต้หวันประเทศเดียวสูงถึง US$126 ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออกต่อเนื่องอีก US$13 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนในระยะสั้นมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคจากความคาดหวังการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ สถานการณ์ตุรกีที่คลี่คลาย และความคาดหวังจากการประชุม Jackson Hole ปลายสัปดาห์
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CMAN <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.80 บาท
ยอดขายปูนไลม์ปีนี้จะดีมาก จากความต้องการของโรงงานน้ำตาลที่มีผลผลิตออกมาเยอะ และกลุ่มกระดาษที่โตตามบรรจุภัณฑ์ เราคาดกำไรทั้งปี 204 ลบ. +86% Y-Y ส่วนปีหน้าคาดโต +24% Y-Y อยู่ที่ 254 ลบ. เพราะมาร์จิ้นจะดีขึ้นจากการผลิตในโรงงานใหม่ และจะเปิดโรงงานในอินเดียที่บริโภคน้ำตาลมากสุดในโลก อีกทั้งดอกเบี้ยจ่ายจะหายไปครึ่งหนึ่งจากการ Refinance หนี้
ราคาหุ้นตอนนี้ถูกมาก PE2018-19 แค่ 12-15 เท่า ต่ำกว่า SUTHA และกลุ่มที่ 18-20 เท่า
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) 2Q18 GDP ของไทยออกมาดี +4.6% Y-Y เมื่อรวมกับ 1Q18 ที่ +4.9% Y-Y ส่งผลให้เศรษฐกิจใน 1H18 +4.8% Y-Y จากการจับจ่ายใช้สอยในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้นมาก และการลงทุนที่เร่งตัวขึ้น ช่วยเสริมการส่งออกและท่องเที่ยว โดยสภาพัฒน์มีการปรับเพิ่มคาดการณ์การบริโภคขึ้นเป็น 4.1% จากเดิม 3.7% แต่ยังคงเป้า GDP ทั้งปีไว้ที่ 4.2-4.7% เพราะปรับลดการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐฯลง แนวโน้ม 2H18 อาจเห็นการชะลอเพราะฐานสูง และผลกระทบจากน้ำท่วม รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนทีหายไปชั่วคราว แต่การบริโภคในประเทศหลายพื้นที่ยังแข็งแกร่งเป็นบวกต่อ CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC, IT, SYNEX รวมถึงกลุ่มไฟแนนซ์เช่น MTC และ THANI และคาดว่าจะเห็น ธปท. เริ่มขยับขึ้นดอกเบี้ยในปลายปี เป็นบวกต่อธนาคารขนาดใหญ่ และหนุนเงินบาทกลับมาแข็งค่า
(0) BDMS แนวโน้มกำไร 3Q18 อาจไม่ใช่ไตรมาสที่ดีที่สุดของปี แต่คาดว่ายังเติบโตได้แข็งแกร่งทั้ง Q-Q และ Y-Y จากอานิสงส์ของ High Season ขณะที่แนวโน้มการเติบโตระยะยาวยังได้ประโยชน์จากเครือข่ายโรงพยาบาลที่มากที่สุดในประเทศ และการเติบโตที่โดดเด่นของลูกค้าในกลุ่มประกัน รวมถึง Margin ที่ขยายตัวจากการพัฒนา Center of Excellent เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2018-2020 เติบโตเฉลี่ย 15.7% ต่อปี ราคาหุ้นอาจอ่อนตัวเป็นบางช่วงจากผลของการทยอยแปลงสภาพหุ้นกู้ แต่เรามองเป็นโอกาสซื้อ ราคาเป้าหมาย 29 บาท
(0) TVO ระยะสั้นแนวโน้มราคาถั่วเหลืองอาจอ่อนตัวลงได้อีกจนถึงเดือน ต.ค. จากช่วง Harvest Pressure และเมื่อผ่านช่วงเก็บเกี่ยวของสหรัฐฯ คาดเห็นราคาถั่วเหลืองกลับมาปรับขึ้น โดย Upside ในแง่พื้นฐานดูค่อนข้างจำกัดเพราะคาดว่าปีหน้าจะกลับมาเกินดุลอีกครั้ง จากผลผลิตที่จะสูงทั้งสหรัฐและอาร์เจนติน่า ขณะที่ Trade War อาจสร้างความผันผวนให้ราคาถั่วเหลือง แต่มีข่าวบวกคือ จีนจะซื้อน้ำมันถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองจากประเทศในเอเชีย ซึ่งจะทำให้ TVO ได้อานิสงส์เชิงบวกตามไปด้วย ส่วนแนวโน้มกำไร 3Q18 อาจชะลอตัวจากเหตุน้ำท่วมหลายพื้นที่ แต่คาดจะกลับมาโตอีกครั้งใน 4Q18 เราปรับลดกำไรสุทธิปีนี้ลง 7.8% เป็น 2,044 ลบ. +54% Y-Y และปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 35 บาท ยังมี Upside 13% และคาดปันผลปีนี้อีกราว 7% แนะนำซื้อ
(0) PCSGH ประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศกร์ที่ผ่านมา คาดกำไรสุทธิ 3Q18 ยังเติบโตได้ทั้ง Q-Q และ Y-Y เพราะธุรกิจในประเทศดีมากๆ ทั้งรายได้และมาร์จิ้น และทั้งกลุ่ม Auto และ Non-Auto ส่วนธุรกิจในยุโรปยังถ่วงอยู่บ้าง (2Q18 ขาดทุน 15 ลบ.) คาดจะคุ้มทุนใน 4Q18 และมีโอกาสได้งาน EV เพิ่มจากลูกค้าญี่ปุ่นใน 2-3 เดือนนี้ เรามีแนวโน้มปรับประมาณการลงเล็กน้อย (เดิมคาดกำไรปีนี้ 790 ลบ. +23% Y-Y) จากค่าทำดีลที่มากกว่าคาด แต่เบื้องต้นยังคงแนะนำซื้อ (ราคาเป้าหมายเดิม 13 บาท) โดยเรายังเชื่อว่าสถานะของ PCSGH ทั้งในเชิงของธุรกิจและราคาหุ้นอยู่ในช่วง bottom ของ cycle การเติบโตรอบใหม่ ที่จะ outperform กลุ่มได้ตั้งแต่ 2H19
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21 ส.ค.- ไทย: ดุลการค้า (ก.ค.)
22 ส.ค.- ตลาดหุ้นหลายแห่งปิดทำการเนื่องในวันฮารีรายอ เช่น สิงคโปร์ม มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, อินเดีย
23 ส.ค.- Flash PMI ภาคการผลิต (ส.ค.)
23-25 ส.ค.- ประชุมประจำปีของเฟดที่แจ็กสัน โฮล
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังว่าสหรัฐและจีนจะสามารถยุติสงครามทางการค้าได้ อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายตลาดปรับตัวลงหลังปธ.ทรัมป์ออกมาโจมตีจีนและยุโรปว่าพยายาม Manipulate ค่าเงิน
(+) ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้นจากความกังวลเรื่องค่าเงินในตุรกีและสงครามการค้าที่ลดลง
(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสมผสาน จากความไม่แน่นอนทางการเมืองในออสเตรเลีย และการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินเยนกดดันตลาดหุ้นญี่ปุ่น
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 32.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.52 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 66.43 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตลาดกลับมากังวลเรื่องคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง
(-) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ลดลง 0.44 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 6.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 10.40 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1194.60 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐ
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO12719