WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
      ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งในกรอบแคบ ปิดที่ 1,579.12 จุด ลบเพียง 2.24 จุด เป็นผลจากการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น PTT เป็นหลัก มูลค่าการซื้อขายเพียง 37,350 ล้านบาท
ด้านกระแสเงินทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 642 ล้านบาท แม้ว่าจะกลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 3,580 สัญญา และคงการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 619 ล้านบาท
      ทิศทางการลงทุนในวันนี้ MBKET ยังคงประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ไว้เท่าเดิม 1,570-1,590 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามการประชุม ครม. นัดที่ 2 ในวันนี้ อาจเห็นการพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งแผนการลงทุนขนาดใหญ่ที่เริ่มทำ Workshop กับผู้รับเหมาก่อสร้างสัปดาห์นี้ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวอาจพิจารณาถึงมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และ ความเหมาะสมของการใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ท่องเที่ยว MBKET เชื่อว่าประเด็นเหล่านี้จะสร้างโอกาสของการเก็งกำไร ขณะที่นโยบายปฎิรูปพลังงานที่กำหนดปรับราคาพลังงานให้สะท้อนถึงต้นทุนและราคาตลาดที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาก๊าซ NGV คาดว่าจะเป็นเป้าหมายแรกของการปรับโครงสร้างราคาก๊าซในรอบนี้ เป็นบวกต่อ PTT ทำให้ราคาหุ้น PTT จะยังคงแข็งแกร่ง รวมถึงการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับฐานตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ Downside risk ของ SET INDEX เป็นไปอย่างจำกัด
      ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนต่างเฝ้ารอการประชุมเฟดที่เริ่มวันนี้ และสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้ ต่อมุมมองอัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate จะมีโอกาสขยับขึ้นในปีหน้าเมื่อใด
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำให้นักลงทุน ทยอยสะสมหุ้นหลักกลุ่มธนาคาร และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่จะได้ประโยชน์จากแผนการลงทุนขนาดใหญ่ที่ รมว.คมนาคมอยู่ระหว่างการพิจารณา รวมถึงเก็งกำไรต่อแผนกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ทยอยสะสม” SIM / KTB
Portfolio Top Pick in 3Q14: AAV /AP/ IFEC/ TRUE
HOLD: SAMART/ SPCG/ IFEC/ BTS/ SIM/ MACO/ CK
Accumulative buy: SIM / KTB

Action and Stock of the Day
SET INDEX หลุด 1,580 จุด จาก XD ของหุ้น PTT
SET INDEX จะยังแกว่งในกรอบ 1,570-1,590 จุด ต่อเนื่องอีกวัน ปัจจัยหลักคือ ความเห็นของเฟดต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate ในคืนวันพรุ่งนี้

อย่างไรก็ตาม ติดตามการประชุม ครม. วันนี้ อาจมีแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ ออกมา
ดังนั้นกลยุทธ์ ทยอยสะสมหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร / รับเหมาก่อสร้าง เพื่อเก็งกำไรต่อแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาล
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปิดลบเป็นส่วนใหญ่ หลังจีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาต่ำกว่าคาด แต่กลับกลายเป็นตลาดหุ้นจีนปิดบวก เก็งกำไรต่อโอกาสเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ด้านตลาดหุ้นไทย แกว่งในกรอบแคบ 1,575-1,585 จุด แม้ว่าจะมีผลกระทบจากการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น PTT ราว 2 จุดก็ตาม แต่แรงสะสมหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร / ICT ช่วยประคองในภาพรวมของ SET INDEX รวมถึงการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นเฉพาะตัว ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,579.12 จุด ลบเพียง 2.24 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 37,350 ล้านบาท
กลุ่มที่ปิดบวกมากที่สุดในวานนี้ได้แก่ กลุ่มเหมืองแร่ +3.38%, กลุ่มเหล็ก +3.15% และกลุ่มกระดาษ +1.90% ขณะที่กลุ่มหลัก กลุ่มธนาคาร +0.15% กลุ่มพลังงาน -0.28% และ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง -0.40%

ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.33 น.) เช้านี้ Nikkei เปิดย่อตัวเล็กน้อย ส่วน Kospi เปิดบวกเล็กน้อย เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้ากำหนดทิศทางการลงทุนเช้านี้
MBKET คงมุมมองต่อการลงทุนที่ “บวก” วันที่ 7 เพราะเชื่อว่า SET INDEX จะพลิกฟื้นจากระยะการพักฐานในช่วง 2-3 วันข้างหน้านี้ โดยให้น้ำหนักกับผลการประชุมเฟดในคืนวันพรุ่งนี้ ขณะที่ Downside risk ของตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจาก
•มุมมองของต่างชาติต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วง 2H57 ต่อเนื่องถึงปี 2558 เป็นบวกมากขึ้น รวมถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนตลาดหุ้นไทยในช่วงเวลาเดียวกัน ดังนั้นการปรับฐานลงหรือหุ้นเป้าหมายราคาซึมตัวเลง เชื่อว่านักลงทุนกลุ่มนี้จะทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย
•เงินลงทุนใหม่จากการขายกองทุน Trigger funds ของบลจ.ไทยพาณิชย์ในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะเริ่มทยอยลงทุนในตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกคือ มุมมองของเฟดต่อการพิจารณาปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 0.25% จะขยับขึ้นเมื่อใด ณ ปัจจุบัน ตลาดประเมินว่าเฟดอาจพิจารณาขึ้นในกลางปีหน้า จนทำให้นักลงทุนทั่วโลก ต่างทยอยลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก / ลดการลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ดังจะเห็นได้จากราคาน้ำมันดิบ และ ราคาทองคำ ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง / ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระยะยาว ปรับตัวลงเช่นกัน สะท้อนถึง นักลงทุนทั่วโลกต่างถือเงินสดรอการลงทุนที่ชัดเจน
MBKET ประเมินว่า ประธานเฟด Janet Yellen จะให้ความเห็นเป็นกลางต่อระยะเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมให้เงื่อนไขการพิจารณาทั้งในแง่ของภาพรวมเศรษฐกิจ / ภาวะการจ้างงาน / ความวุ่นวายทางการเมืองของต่างประเทศ เป็นตัวแปรประกอบการตัดสินใจ หากเป็นไปตามที่คาด เชื่อว่านักลงทุนทั่วโลกจะคลายความกังวล และกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทย มีโอกาสดีดตัวขึ้นทดสอบด่าน 1,590-1,600 จุด และทะลุแนวดังกล่าวได้ในที่สุด MBKET ประเมินกลุ่มที่น่าจะเป็นเป้าหมายของการผลักดันตลาดหุ้นในระลอกใหม่นี้ได้แก่
•กลุ่ม ธนาคาร / กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง : ได้รับประโยชน์จากแผนการลงทุนคมนาคมในงบประมาณปี 2558 และแผนการลงทุนขนาดใหญ่ ระยะ 8 ปี ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของรมว.คมนาคม
•PTT : จากความชัดเจนของแนวทางการปฎิรูปราคาก๊าซ NGV เพื่อให้เกิดความเสมอภาคระหว่างกลุ่มรถแท็กซี่และรถเมย์ และกลุ่มยานยนต์ส่วนที่เหลือ และถัดไปจะเป็นการทยอยปรับราคาก๊าซขึ้นสู่ราคาก๊าซที่แท้จริง เป็นบวกทางตรงกับ PTT
•กลุ่มท่องเที่ยว : ทั้งกลุ่มโรงแรม / กลุ่มสายการบิน / กลุ่มสนามบิน ต่อแนวทางการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว พร้อมกับการเดินหน้าเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจนี้
ดังนั้น MBKET แนะนำให้ นักลงทุน คงเข้าเก็งกำไรต่อหุ้นในกลุ่มหลักที่ได้ประโยชน์จากพัฒนาการทางการเมืองภายในประเทศ เป็นสำคัญ พร้อมควรกำหนดแนว Stop Loss เพื่อปิดความเสี่ยงของการลงทุน หลัง SET INDEX เริ่มเข้าใกล้เป้าหมายและแนวต้านใหญ่ 1,600 จุด
ประเด็นการเมืองภายในประเทศที่สำคัญจากนี้ไป ได้แก่
oการพิจารณาร่างงบประมาณปี 2558 วาระที่ 2 วันนี้ และวาระที่ 3 วันที่ 18 ก.ย. เพื่อให้รัฐบาลสามารถนำร่างงบประมาณปี 2558 เริ่มใช้ได้ทันในวันที่ 1 ต.ค.นี้
oแนวทางการปฎิรูปการเมือง ผ่านสภาปฎิรูปที่อยู่ระหว่างการสรรหา
oแผน Roadmap ที่สำคัญด้านเศรษฐกิจ
แผนการลงทุน 2.4 ล้านล้านบาท
แผนปฎิรูปพลังงาน
แผนกระตุ้นการท่องเที่ยว

ปัจจัยสำคัญวันนี้
1.นักลงทุนในประเทศรอความชัดเจนปัจจัยภายในประเทศตลอดสัปดาห์นี้
•การประชุม ครม.นัดที่ 2 วันนี้ คาดว่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว
•การประชุม สนช. เพื่อพิจารณาร่างงบประมาณปี 2558 วาระที่ 2 วันนี้ และ วาระที่ 3 วันที่ 18 ก.ย. ซึ่งจะมีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า
•ส่วนการประชุม กนง.วันที่ 17 ก.ย.นั้น MBKET และตลาดต่างคาดการณ์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.00% เช่นเดิม
2.คาดหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Set-Top-Box ขยับเด่นวันนี้: กสทช. ประกาศเตรียมแจกคูปองทีวีดิจิตอล เริ่มวันที่ 10 ต.ค. รอบแรก ของผู้รับแลกคูปองทั้งหมด 16 ราย โดยเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่ SAMART, AJD, PCA, FORTH ส่วนผู้ได้รับการคัดเลือกจัดพิมพ์คูปอง 8 ล้านฉบับ 1 ใน 2 รายได้แก่ TKS
3.คาดตลาดหุ้นทั่วโลกแกว่งกรอบแคบ รอผลประชุมเฟดคืนวันพรุ่งนี้: จะเห็นได้จาก ช่วงเช้านี้ ตลาดหุ้น Nikkei – Kospi เปิดแกว่งในกรอบแคบ บวกกับค่าเงินดอลลาร์เริ่มกลับมาอ่อนค่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ สะท้อนมุมมองของนักลงทุนทั้งตลาดทุน และ นักค้าเงินต่างรอดูผลการประชุมเฟดที่เริ่มในคืนนี้ และจะสิ้นสุดลงในคืนวันพรุ่งนี้ โดยมีประเด็นสำคัญคือ ทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate จะขยับขึ้นได้เร็วกว่า กลางปีหน้า ที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลหรือไม่
4.คาดกลุ่มธนาคาร และ PTT จะยังเป็นเป้าหมายของการสะสมของนักลงทุนต่างชาติ: เพราะหากประเมินจากภาพรวมเศรษฐกิจใน 2H57 ที่จะฟื้นตัวแบบ V-Shape บวกกับนโยบายการปฎิรูปโครงสร้างราคาพลังงานที่มีความชัดเจนต่อการปรับราคาให้เข้าสู่ราคาตลาดมากยิ่งขึ้น เราเชื่อว่านักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ จะให้น้ำหนักต่อประเด็นดังกล่าว และทยอยสะสมหุ้นหลักอย่างต่อเนื่อง ช่วยปิดความเสี่ยงของ SET INDEX ช่วงสั้น ระหว่างรอฟังผลการประชุมเฟดในคืนวันพรุ่งนี้

วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 16.10 13.82 16.13 13.85
PSE 20.28 17.51 20.38 17.63
JSE 16.62 14.17 16.61 14.16
KOSPI 10.39 9.44 10.36 9.41
TAIEX 14.52 13.71 14.70 13.72
Straits Time 14.63 13.48 14.77 13.61
SHCOMP 9.26 8.20 9.24 8.18
ที่มา: Bloomberg

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.SIM : ราคาปิด 3.86 บาท ราคาเหมาะสม 4.70 บาท
a)วานนี้ กสทช.ประกาศรายชื่อ 16 บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์รับชมทีวีดิจิตอล ที่ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการแลกกล่องดิจิตอล และ SAMART เป็น 1 ใน 4 บริษัทในตลท.ที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว
b)MBKET ประเมินว่า SIM จะได้ประโยชน์เช่นกัน เนื่องจากเป็นช่องทางการจัดจำหน่าย Set Top Box ของกลุ่ม SAMART จึงคาดว่าจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจัดจำหน่าย และเป็นปัจจัยหนุนกำไรสุทธิตั้งแต่ 4Q57 เป็นต้นไป
c)คาดกำไรสุทธิ 3Q57 จะขยายตัว yoy และ qoq พร้อมทั้งทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสอีกครั้ง จากยอดขายมือถือที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และคาดว่าจะรับรู้รายได้บางส่วนจากการจำหน่ายมือถือล็อตใหญ่ให้ Mobile Operator รายหนึ่ง ใน 3Q57 และ 4Q57
d)ราคาหุ้นยัง Laggard หุ้นในกลุ่ม Samart Group โดย YTD ราคาหุ้น SIM +18% เทียบกับ SAMART +101%, SAMTEL +66%
e)คาดกำไรสุทธิปี 2557 เติบโต +21.1% yoy เป็น 1,046 ล้านบาท และ +17.4% yoy ในปี 2558 เป็น 1,234 ล้านบาท
2.KTB : ราคาปิด 23.60 บาท ราคาเหมาะสม 27.00 บาท
a)MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและส่งผลให้สินเชื่อขยายตัวใน 2H57 และเร่งตัวขึ้นในปี 2558
b)เนื่องจาก KTB มีสัดส่วนสินเชื่อโครงการภาครัฐฯ สูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร จึงคาดว่าจะได้อานิสงค์จากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่กระทรวงคมนาคมจะมีการประกาศ Action Plan ในวันนี้
c)คาดกำไรสุทธิ 3Q57 ขยายตัว qoq จากการตั้งสำรองที่ลดลง และสินเชื่อมีทิศทางขยายตัว qoq ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นใน 4Q57 และปี 2558 จากทิศทางดอกเบี้ยที่คาดว่าจะขึ้นในปีหน้า
d)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +12.9% yoy เป็น 38,054 ล้านบาท และมี Valuation ที่ยังไม่สูงมากนัก โดยซื้อขายระดับ PBV 2558 ที่ 1.3 เท่า ต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น KBANK 1.8x, SCB 2.0x และ BAY 2.2x และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยปีละ 4%

What will DJIA move tonight? การประชุม FOMC เริ่มวันแรก

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ขายสุทธิ เป็นวันที่ 4 อีก US$46 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$301 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX -1.8 -142.0 13,359.6 9,188.0
KOSPI n.a -107.7 8,872.5 4,875.1
JSE -48.9 -65.7 4,716.6 -1,806.4
PSE -18.3 -6.0 1,279.2 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 3.1 -2.4 263.9 263.2
SET INDEX 19.9 22.9 -423.4 -6,210.5

Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติยังเลือกลงทุนทางตรงในตลาดหุ้นไทย
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +642 +737
SET50 Index Futures (สัญญา) -3,580 +1,070
SSF (สัญญา) -1,849 +1,206
Metal Futures (สัญญา) +338 +82
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -619 -2,883

นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 642 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 1,379 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า ขายสุทธิ 399 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 15,411 ล้านบาท
ด้านนักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง มากถึง 3,580 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Short สุทธิอีกครั้ง กดดันให้ S50U14 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็นวันที่ 3 เท่ากับ 3.71 จุด จากวันก่อนหน้า Discount 3.01 จุด
และตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 4 อีกเล็กน้อย 619 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ขายสุทธิ 16,564 ล้านบาท คาดว่าจะเป็นการทยอยลดน้ำหนักการลงทุนในพันธบัตรไทยระยะยาว อายุ 10 ปีผลตอบเพิ่มขึ้นมากถึง 2.73bps ปิดที่ 3.599%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็น 792 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 649 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
KBANK 80.87 7.78% 226.15
PTT 73.05 4.90% 350.69
SCB 45.04 10.87% 186.74
PTTEP 44.89 8.64% 164.05
ADVANC 44.04 5.43% 212.34

NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 15 เน้นกลุ่มพลังงาน และ ICT ต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิ อีก 724 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 358 ล้านบาท รวม 15 วันทำการซื้อสุทธิ 17,009 ล้านบาท สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1.กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิสูงสุด 315 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 134 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 210 ล้านบาท กลุ่มขนส่งซื้อสุทธิ 116 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 181 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 102 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 182 ล้านบาท
2.ด้านกลุ่มอาหาร ถูกขายสุทธิสูงสุด 75 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 92 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ขายสุทธิ 60 ล้านบาท

ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
KTB 197.28 34.25 INTUCH -94.91 18.61
PTT 196.50 12.40 TMB -79.46 17.65
ADVANC 147.97 21.74 BEC -59.00 54.51
LH 114.94 30.81 TUF -54.79 20.98
PTTEP 107.44 27.41 PS -33.71 9.95

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!