บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 20-08-18

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Monday, 20 August 2018 18:36; Hits: 1764

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้

เน้นเก็งกำไรหุ้น Domestic Play

Smart Pick

สะสม KBANK

ราคาปิด 215.00 บาท

ราคาเหมาะสม 250.00 บาท

เราคงคำแนะนำ "สะสม" กลุ่มธนาคารต่อจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะมองว่าราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นได้ต่อจาก (1) รายงาน GDP 2Q61 ของไทยเช้าวันนี้ คาด +4.4% YoY (2) กกต.กำหนดวันเลือกตั้งเบื้องต้นวันที่ 24 ก.พ.2562 Sentiment บวกต่อกลุ่ม Domestic Play

สำหรับแนวโน้มกำไร 2H61 ของ KBANK คาดโต HoH จากการตั้งสำรองลดลงบนคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น และการเลื่อนใช้ IFRS9 ออกไป หนุนกำไรปีนี้ เติบโต +16% YoY เป็น 4.0 หมื่นล้านบาท

เก็งกำไร TRUE

ราคาปิด 6.20 บาท

ราคาเหมาะสม 8.50 บาท

ผลการประมูลคลื่น 1800MHz วานนี้ ตามคาดของเรา โดย ADVANC, DTAC ได้ใบอนุญาตคนละ 1 ใบ ราคาประมูล 1.25 หมื่นล้านบาท ช่วยปลดล็อก Overhang ของกลุ่มสือสาร

TRUE ยังคงโดดเด่นสุดในกลุ่ม เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการประมูลรอบนี้ และการตั้งสำรองด้อยค่า 1.4 หมื่นล้านบาท ใน 2Q61 ทำให้ค่าเสื่อมราคาลดลง 800-900 ลบ./ไตรมาส ตั้งแต่ 3Q61 ทำให้ TRUE มีโอกาสกลับมามีกำไรปกติได้เร็วขึ้น

เก็งกำไร BJC

ราคาปิด 56.50 บาท

ราคาเหมาะสม 72.00 บาท

เรามองว่ากลุ่มค้าปลีกเป็นอีกกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากความเชื่อมั่นในประเทศที่เพิ่มขึ้นจาก (1) รายงาน GDP 2Q61 เช้านี้ และ (2) ความคืบหน้าการเลือกตั้งตาม Roadmap ของรัฐบาล

BJC มีความเด่นเหนือกลุ่มค้าปลีก หลัง CPALL ส่งสัญญาณกำไรชะลอตัวต่อเนื่องใน 3Q61 ทำให้เรามองว่ามีโอกาสกองทุนปรับพอร์ตเข้า BJC แทน ด้วยกำไรที่โตเด่นหลังงบ 2Q61 เติบโต +32% YoY และทั้งปี 2561 คาดเติบโต +29% YoY เทียบกับ CPALL +4.1% YoY

เก็งกำไร IRPC

ราคาปิด 6.55 บาท

แนวต้านทางเทคนิค 6.90 บาท

ราคาปิดวันศุกร์ที่ผ่านมา 6.55 บาทเป็นแนวต้านสำคัญบนเส้น 200 วัน ดังนั้น หากราคาผ่านแนวดังกล่าวได้จะเป็นสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.90 บาท แนวรับ 6.50 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 6.30 บาท

เราประเมินว่า Dollar Index ที่อ่อนค่าลงวันที่ 3 ติดต่อกัน ช่วยหนุน Sentiment ให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัวได้ นอกจากนี้การประชุมระหว่างจีน-สหรัฐฯ วันที่ 22-23 ส.ค.นี้ หากออกมาเป็นบวก จะเป็นอีกปัจจัยหนุนที่รออยู่ในสัปดาห์นี้

Switch : N.A.

กลยุทธ์วันนี้

เราประเมินว่า SET INDEX มีโอกาสแกว่ง 1,700 จุด +/- ในช่วงที่เหลือของส.ค. โดยมี Downside risk จำกัด จากปัจจัยบวกที่หนุนการทรงตัวที่แข็งแกร่งของ SET INDEX ในช่วงสั้นนี้ได้แก่

1. ผลการประมูลคลื่น 1800MHz เสร็จสิ้นลงไปแล้ว ทำให้หุ้นหลักในกลุ่ม ICT กลับมาเคลื่อนไหวปกติ เราคาด ADVANC / TRUE ขยับขึ้นเด่นในวันนี้

2. การประกาศ GDP ใน 2Q61 ของไทยเช้าวันนี้ Bloomberg consensus คาด 4.4%YoY หากออกมาใกล้เคียงหรือดีกว่าคาด เชื่อว่าจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่ม Domestic Play อย่างกลุ่มธนาคาร/ ค้าปลีก

3. กรอบเวลาการเลือกตั้งชัดเจนอีกครั้ง หลังประธานกกต.ส่งสัญญาณพร้อมเลือกสส.วันที่ 24 ก.พ. 2562 อย่างช้าไม่เกินเดือนก.ค. 2562 ทำให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมาดีขึ้นได้

4. และการประชุมระหว่างตัวแทนจีนและสหรัฐฯ ในวันที่ 22-23 ส.ค. เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปเบื้องต้นที่ต้องกลับไปหารือกับผู้นำของแต่ละประเทศ แต่น่าจะมีน้ำหนักมากเพียงพอที่ทำให้สหรัฐฯ เลื่อนการพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรอบใหม่มูลค่า US$2.0 แสนล้านออกไประยะหนึ่ง

จากปัจจัยข้างต้นทำให้เรายืนยันภาพการลงทุนในช่วงที่เหลือของเดือนส.ค. ว่ากลุ่ม Domestic Play จะเด่นกว่า Global Play ที่ราคาน้ำมันดิบแกว่งออกด้านข้าง เพราะขาดปัจจัยบวกใหม่ในช่วงสั้นนี้ จึงเป็นที่มาของกลยุทธ์การลงทุนที่ยังคงแนะนำให้ "เก็งกำไร" หุ้นกลุ่ม Domestic Play กลุ่มธนาคาร /ค้าปลีก / อสังหาฯ / Mobile Operator/ โรงพยาบาล หรือพักเงินในหุ้นปันผลเด่นงวด 1H61 สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้จำกัด

HOT Topic

1. ผลการประมูลคลื่น 1800MHz ออกมาตามคาด ใครคือผู้ชนะที่แท้จริงในเกมส์นี้?? อย่าลืมติดตามบทวิเคราะห์กลุ่ม ICT ของเรา

2. กกต.กำหนดวันเลือกตั้งเบื้องต้นวันที่ 24 ก.พ. 2562 ช่วยหนุนกลุ่ม Domestic Play

3. ติดตาม GDP 2Q61 ของไทยเช้านี้ คาด +4.4% YoY

4. บทวิเคราะห์เชิงลึก ได้แก่ BANPU, CENTEL, SIRI, TOP, EPG, GULF

ตลาดหุ้นไทยวานนี้

วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ฟื้นตัวเป็นวันที่ 2 อีก 9.08 จุด ปิดที่ 1690.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นล้านบาท หนุนด้วยการฟื้นตัวของหุ้นขนาดใหญ่ นำโดย PTT (+1.98%), ADVANC (+1.29%), SCC (+1.35%), KBANK (+1.42%) และ IVL (+1.78%) มีผลต่อดัชนีราว +5.51 จุด

กระแสเงินทุน : สถาบันในประเทศยังคงเป็นผู้ซื้อสุทธิหลักในตลาดทุนวันที่ 2 อีกราว 3.6 พันล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิสะสม 5.2 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 743 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ขายสุทธิสะสมราว 7.9 พันล้านบาท เช่นเดียวกันกับในตลาด SET50 Index Futures ที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิวันที่ 3 อีกราว 6.1 พันสัญญา รวม 3 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิสะสม 1.8 หมื่นสัญญา ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 6 อีกราว 4.8 พันสัญญา รวม 6 วันทำการมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 3.6 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิคงเหลือ 5.7 หมื่นสัญญา

ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิราว 1.1 พันล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิราว 629 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้

DTAC และ ADVANC ชนะประมูลคลื่นบริษัทละ 1 ใบอนุญาต ด้วยราคา 1.25 หมื่นล้านบาท/ใบ โดย กสทช. จะนำคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ที่เหลือมาพิจารณาและปรับแนวทางการประมูลต่อไป

กกต. กำหนดวันเลือกตั้งเบื้องต้นเป็นวันที่ 24 ก.พ.2562

S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของตุรกี ลงจาก BB- สู่ระดับ B+ จากความผันผวนของค่าเงินลีรา และคาดเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ในปีหน้า

การเจรจาระหว่างเยอรมันและรัสเซียในประเด็นสำคัญต่างๆ อาทิ ความขัดแย้งในยูเครน, ซีเรีย, และอิหร่าน รวมถึงโครงการท่อส่งก๊าซของรัสเซียที่ไม่มีความคืบหน้า

Baker Hughes รายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่มีการใช้งานอยู่ที่ระดับ 869 แท่น เท่ากับสัปดาห์ก่อนหน้า

อียูรายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ขยายตัว 2.1% YoY เท่ากับที่ตลาดคาด

ติดตามการรายงาน GDP ประเทศไทย 2Q61 ตลาดคาดขยายตัว 4.4% เช้าวันนี้

ติดตามการรายงานนำเข้า - ส่งออกไทย เดือน ก.ค. ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 10.98%YoY วันที่ 21 ส.ค.

ติดตามการรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ รอบวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค. ในวันที่ 22 ส.ค.

ติดตามการทำประชาพิจารณ์ของสหรัฐฯ ต่อสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 2 แสนล้านบาท ระหว่างวันที่ 20 - 27 ส.ค.

ติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ วันที่ 22 - 23 ส.ค.

ติดตามการเริ่มเก็บภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท วันที่ 23 ส.ค.

ติดตามการรายงานเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือนก.ค. ตลาดคาดขยายตัว 0.9% YoY วันที่ 24 ส.ค.