SET ปิดที่ระดับ 1,680.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด (+0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 57,763.90 ล้านบาท เผยตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ได้ค่อนข้างดีสวนทางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับฐานราว 0.3-0.4% ส่วนหนึ่งขานรับ สนช.ถอนเรื่องแก้กฎหมาย กกต.ส่งผลเลือกตั้งเดินหน้าตามโรดแมพ แนะติดตาม GDP ไทยไตรมาส 2/61 สัปดาห์หน้า รวมทั้งติดตามสถานการณ์ตุรกีและสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ

 

  คาดดัชนีฯ ปรับตัวสูงขึ้น หลังจีน-สหรัฐฯ จะมีการเจรจาการค้า ความกังวลของนักลงทุนลดลง แต่ฝรั่งยังขายหุ้นไทย ...... สองปัจจัยที่มีผลมากต่อทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก คือ สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ซึ่งวานนี้ ทางจีนได้ออกมาให้ข่าวว่า ปลายเดือนนี้ ตัวแทนทั้งสองประเทศน่าจะมีการเจรจาการค้า (ไม่ระบุว่าก่อนหรือหลัง 23 ส.ค. ซึ่งเป็นวันที่ภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้) เป็นข่าวดีของตลาดและหนุนให้ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ดีดตัวจนกลับมาในแดนบวกได้ ปัจจัยที่สอง คือวิกฤตการณ์ตุรกี ข่าวออกมาทั้งบวกและลบ แต่ล่าสุด รมว.คลังของสหรัฐฯ ระบุว่าอาจมี sanction เพิ่มเติมหากตุรกียังไม่ปล่อยตัวคนของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ค่าเงินของประเทศตุรกี เช้านี้ ยังทรงๆตัวที่ 5.85 ลีร่า/ดอลล่าร์ บ่งชี้ว่า นักลงทุนไม่ได้มีความกังวลมากไปกว่าเดิม .......  ราคาน้ำมันดิบ WTI ยืนที่ $65 เหรียญ/บาร์เรล ยังเป็นลบต่อผู้ผลิตน้ำมัน (PTTEP, PTT) แต่ดีต่อโรงกลั่นน้ำมัน .....  ปัจจัยในประเทศ ผ่านช่วงการส่งงบการเงินไปแล้ว มี sell on fact มาระดับหนึ่ง คาดราคาหุ้นส่วนใหญ่จะเริ่มยืนได้แล้ว แต่การนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน-นักวิเคราะห์ ของบริษัทต่างๆ จะมีผลต่อทิศทางราคาหุ้นต่อจากนี้ไป ..  ตัวแปรที่ต้องติดตาม คือสถานการณ์ของตุรกี ที่ยังคงเข้มข้นและมีผลต่อทิศทางตลาด

 

  ความกังวลของตลาดลดลงเพียงเล็กน้อย เรามองตลาดเพียง rebound  ภาพรวมแนะนำ “ถือ” ยกเว้นดัชนีฯต่ำกว่า 1660  จุด จึงลดพอร์ต ...  การเข้าซื้อหุ้นยังเป็ฯแบบ selective buy เน้นหุ้นลงมามากหรือมีข่าวสนับสนุน กรอบเวลาลงทุนเน้นเล่นสั้นจนกว่าสองปัจจัยสำคัญของตลาดที่กล่าวไปจะคลี่คลายลง .....  หุ้น top picks ของวันนี้ ประกอบด้วย TOP , KCE, BEAUTY  โดยเราเพิ่มหุ้น ที่ราคายังขึ้นมาไม่มาก ประกอบด้วย CPALL, ESSO*, WHA, EPG, WICE , BCH

 

Technical : AMATA, EPG, WICE

  * เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์