- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 August 2018 16:42
- Hits: 4335
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เน้นพักเงินในหุ้นปันผลเด่น
Smart Pick
สะสม KKP
ราคาปิด 74.25 บาท
ราคาเหมาะสม 80.00 บาท
เรามีมุมมองระมัดระวังต่อการลงทุนครึ่งหลังของเดือน ส.ค. ทั้งความเสี่ยงในตุรกี, สงครามการค้าจีนและสหรัฐฯ และปรับน้ำหนักดัชนี MSCI การพักเงินในหุ้นปันผลเป็นทางเลือกที่ดี
เราคาด KKP จ่ายเงินปันผลงวด 1H61 หุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็น Dividend Yield 2.7% และกำไร 2H61 โดดเด่นจากการรับรู้รายได้ธุรกิจ IB ได้แก่ กองทุน TFF, หุ้น IPO เช่น โอสถสภาและร.พ.พระราม 9 เป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ
สะสม SIRI
ราคาปิด 1.61 บาท
ราคาเหมาะสม 1.66 บาท
SIRI เป็นอีกหุ้นปันผลเด่นในงวดนี้ ประกาศปันผลงวด 1H61 หุ้นละ 0.04 บาท คิดเป็น Yield สูงถึง 2.5% ขึ้น XD วันที่ 28 ส.ค.
อีกทั้งผลประกอบการ 2H61 เราคาดว่าเติบโต QoQ ทุกไตรมาสในช่วงที่เหลือของปี จากการโอนโครงการ The Line อโศก-รัชดา และ The Base พระราม 9 ขณะที่ราคาหุ้นลดลง 26.2% YTD vs SET Property -3.5% จำกัด downside risk ราคาหุ้น
เก็งกำไร SPRC
ราคาปิด 14.80 บาท
ราคาเหมาะสมอิง Consensus 17.25 บาท
SPRC ขึ้น XD เงินปันผลหุ้นละ 0.59 บาท ในวันที่ 27 ส.ค. ให้ Yield สูงถึง 3.9%
เรามีมุมมองบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่นสำหรับการลงทุนใน 3Q61 จากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวโดดเด่นเป็น US$7.99/barrel เพิ่มขึ้นถึง +97% ใน 3QTD จากสิ้นสุด 2Q61 ที่ต่ำเพียง US$4.04 และมี Upside จากราคาเหมาะสมอิง Consensus อีก 16.5%
เก็งกำไร BBL
ราคาปิด 201.00 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 235.00 บาท
ราคาหุ้นปรับตัวลง 3 วันทำการติดต่อกัน จึงมีโอกาสเกิด Technical Rebound หากวันนี้อ่อนตัวลงสู่แนวรับที่ 199.50 บาท เป้าหมายดีดกลับทางเทคนิคที่ 207.00 บาท และ Stop loss หากปรับตัวลงต่ำกว่า 198.00 บาท
Switch : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
วานี้ SET INDEX อ่อนแรงกว่าที่เราคาดหลุดแนว 1,680 จุด ตลอด 3 วันทำการปรับฐานลงรวม 46 จุด พร้อมแรงขายต่างชาติ 2 วันทำการรวมกว่า 4 พันล้านบาท ยิ่งทำให้ Sentiment การลงทุนไม่สดใส นอกจากนี้ภาวการณ์ลงทุนตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยบวกใหม่เข้าหนุน หลังสิ้นสุดการประกาศผลการดำเนินงาน 2Q61 ซึ่งเรามองว่าเป็นรอบประกาศงบที่ขาดสีสัน โอกาสปรับประมาณการขึ้น-ลง จำกัด ขณะที่ปลายเดือนนี้ MSCI จะปรับน้ำหนักตลาดหุ้นเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย เพื่อเพิ่มน้ำหนัก A-Share อีกครั้ง นอกจากนี้ความกังวลต่อสถานการณ์ในตุรกี และปลายเดือนนี้สหรัฐฯ เตรียมประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก ล้วนแล้วแต่กดดันภาวการณ์ลงทุนตลาดหุ้นไทยทั้งสิ้น แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ และ EPS61 ของตลาดหุ้นไทยยังทรงตัว 108-109 บาท/หุ้นก็ตาม แต่เราคงหลีกหนี Sentiment เชิงลบระยะสั้นไม่ได้เช่นกัน
เรามองว่า SET INDEX ระยะสั้นมีโอกาสลงไปทดสอบแนว 1,650 จุด ทั้งนี้นักลงทุนควรระมัดระวังหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 Index ที่ฟื้นตัวดีที่สุด 5 อันดับแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.ถึงวานนี้ ได้แก่ SCB +19.9%, DELTA +18.6%, DTAC +17.0%, MINT 16.2% และ MTC +15.7% ที่อาจเผชิญกับแรงขายทำกำไรรอบสั้น รวมถึงหุ้นหลักใน MSCI Thailand อย่าง PTT / CPALL /AOT / KBANK / SCB ที่อาจมีแรงขายลดน้ำหนักในช่วงปลายเดือนนี้
ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์รอบสั้นนี้ เราแนะนำให้นักลงทุนกลับมาถือเงินสดมากขึ้นราว 20-25% เพื่อรอซื้อหุ้นหลักกลับในช่วงปลายเดือนนี้ หรือพักเงินไว้ในหุ้นปันผลเด่น อย่าง SIRI / PSH / KKP/ TTW เป็นต้น หรือเทรดดิ้งกับหุ้นโรงกลั่นที่ค่าการกลั่นหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ขึ้นเด่นในช่วงนี้
HOT Topic
1. SET Index ปรับฐานแรง 3 วันทำการลดลงถึง -46 จุด เรามองแนวรับที่บริเวณใด?
2. ความคืบหน้าสถานการณ์ในตุรกี
3. ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นเด่น +13% dod ปิดที่ US$7.99 หุ้นโรงกลั่นใดน่าสนใจเก็งกำไร
4. ติดตามการประมูลคลื่น 1800MHz ในวันที่ 19 ส.ค.
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงแรงถึง 19.06 จุด (-1.12%) ปิดที่ 1676.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.4 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแรงขายในหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่เป็นหลัก สังเกตุได้จากดัชนี SET50 และ SET100 ปรับตัวลงราว 1.3% ขณะที่ sSET -0.35% และ MAI -0.89%
กระแสเงินทุน : มีเพียงนักลงทุนทั่วไปที่ซื้อสุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 3 อีกราว 3.2 พันล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 1.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 2 พันล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิสะสมกว่า 4.1 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่ขายสุทธิ 105 ล้านบาท และ 1.1 พันล้านบาท ตามลำดับ ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 4 อีกราว 5 พันสัญญา รวม 4 วันทำการมีสถานะ Short สุทธิสะสม 2.3 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิสะสมคงเหลือ 7 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิหนาแน่น 8.8 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 2.7 หมื่นสัญญา
ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 หนาแน่นถึง 1.3 หมื่นล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 1.6 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตุรกีประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ได้แก่ รถยนต์ 120%, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 140%, และใบยาสูบ 60%
รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีเผยว่าทางตุรกีพร้อมที่จะพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหากับสหรัฐฯ ตราบใดที่ไม่มีการข่มขู่
ธนาคารกลางอินโดนิเซียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 5.50% นับเป็นการขึ้นครั้งที่ 4 ตั้งแต่เดือน พ.ค. 61
EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
อังกฤษรายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ขยายตัว 2.5%YoY ตามคาดการณ์ของตลาด
INTUCH ขึ้นเครื่องหมาย XD วันนี้ จ่ายปันผล 1.35 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 2.4% ประเมินมีผลกระทบต่อ SET INDEX ราว -0.43 จุด
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ อียู เดือนก.ค. ตลาดคาดขยายตัว 2.1% YoY วันที่ 17 ส.ค.
ติดตามการประมูลคลื่นความถี่ 1800MHz วันที่ 19 ส.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist 662-009-8059
OO12519