- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 14 August 2018 18:08
- Hits: 5616
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary 10/08/2018
Close 1,705.96 Volume Bt55004M
Change -16.52 P/E 17.32
%Change -0.96% P/BV 1.95
หุ้นแนะนำพิเศษ
XO (ราคาปิด 9.70 ซื้อ ราคาเหมาะสม 11.70)
ปรับเป้ารายได้ปีนี้โตสูงขึ้น 10-15% จากเดิม 5-10% ผลงานทำนิวไฮ-ทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าใน Q3-Q4/61 (ที่มา อินโฟเควทส์)
ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อ XO หลังรายงานกำไร 2Q61 ที่ 43 ล้านบาท +175%YoY แต่ -8%QoQ โดยกำไร 1H61 อยู่ที่ 89 ล้านบาทคิดเป็น 65% ของประมาณการ นอกจากนี้คาดว่าจากกำไรปกติ 2H61 น่าจะโตเมื่อเทียบ YoY เนื่องจากราคาน้ำตาลและกระเทียมลดลง อีกทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนค่าหนุน GP ให้เพิ่มขึ้นจาก 34% สู่ 37% รวมถึงคาดว่าการใช้กำลังการผลิตของโรงงานใหม่จะเพิ่มขึ้นสู่ 50% ส่งผลให้เริ่มมีการประหยัดจากขนาด (Economies of scale)
Market View : วิกฤตค่าเงินตุรกี
หุ้นแนะนำพิเศษ : XO
หุ้นมีข่าว : BANPU PTT PSH KBANK
Technical Insight : SVI PORT
SET Index วานนี้ปรับตัวลง 16.52 จุด จากความวิตกกังวลในประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ประกอบราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงกดดันกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม หลังมีการประกาศผลประกอบการไตรมาส2 ถูกแรงเทขายในหุ้นค้าปลีกนำโดย CPALL ที่ผลประกอบการเติบโตต่ำกว่าที่ตลาดคาด ตามมาด้วยกลุ่ม ENERG นำโดย PTT BANPU PTTEP ภาพรวม SET Index ปิดที่ 1,705.96 จุด (-16.25 จุด) Volume 5.5 หมื่นลบ. จาก Foreign Net +272.14 ลบ. TFEX Net -477 สัญญา ตราสารหนี้ -2,106 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นขณะที่ราคาบ้านพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค.
-ดาวโจนส์ปิดร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงของค่าเงินตุรกีและผลกระทบที่จะลุกลามไปยังประเทศต่างๆ
-น้ำมันดิบปิดปรับตัวลงหลังจากมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน พุ่งขึ้นกว่า 1 ล้านบาร์เรล
-วิกฤตค่าเงินตุรกีดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จากความกังวลเศรษฐกิจของตุรกีหลังสหรัฐเพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีก 2 เท่าเป็น 50% และ 20% ตามลำดับ ขณะที่ธนาคารกลางตุรกีปรับลดสัดส่วนกันสำรองเงินสกุลลีรา 2.5%
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.81 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 33.37 บาท/US
ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงตามตลาดเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกันจากความกังวลวิกฤตค่าเงินตุรกีที่เป็นผลจากสงครามการค้าโลก อีกทั้งราคาน้ำมันปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม Fund flow ต่างชาติที่ยังซื้อสุทธิเป็นตัวช่วยพยุงดัชนี คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,680-1,705 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
-หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 2Q61 เติบโตดี LH ROJNA
- ค่าการกลั่นเริ่มปรับตัวขึ้น SPRC IRPC
- CPALL ROBINS HMPRO BEM ครม.คง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี
- KCE SVI CPF GFPT กลุ่มส่งออก ค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ 33.37 บาท/US
หุ้นมีข่าว
+BANPU (ราคาปิด 20.40 บาท Bloomberg Consensus 26.98 ) รายงานกำไร 2Q61 ที่ 3.97 พันล้านบาท +75%YoY และ+414%QoQ เนื่องจากในไตรมาสนี้ไม่มีค่าปรับจากคดีความหงสา ขณะที่ธุรกิจถ่านหินที่อินโดนีเซียและออสเตรเลียมีการผลิตถ่านเพิ่มขึ้นเนื่องจากผ่านฤดูฝนไปแล้ว ด้านราคาจำหน่ายถ่านหินปรับตัวขึ้นตามราคาขายถ่านหินโลกที่เพิ่มขึ้น 25%จากไตรมาส 1 สู่ระดับ 115$/Ton ธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จีนผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นจากราคาจำหน่ายไฟฟ้าต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 0.02 หยวนสู่ 0.39 หยวน โรงไฟฟ้า BLCP และโรงไฟฟ้าหงสาผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นจาก 1Q61 โดยได้แรงหนุนจากกำไรค่าเงินบาท พร้อมกันนี้ BANPU ได้เข้าซื้อเหมืองถ่านหินแห่งใหม่ในอินโดฯ มูลค่าลงทุนราว 990 ลบ. เริ่มผลิตปี 65
+BPP (ราคาปิด 25.25 บาท Bloomberg Consensus 29.09) รายงานกำไร 2Q61 ที่ 1.89 พันล้านบาท +1%YoY และ +302%QoQ เนื่องจากไม่มีค่าปรับคดีความหงสาและได้รับแรงหนุนจากำไรค่าเงินบาท
-PTT (ราคาปิด 51.75 บาท Bloomberg Consensus 57.82) รายงานกำไร 2Q61 ที่ 3 หมื่นล้านบาท -25%QoQ และ -4%YoY โดยผลประกอบการปรับตัวลงจากธุรกิจผลิตและสำรวจที่กำไรลดลงจากผลกระทบของค่าใช้จ่ายทางภาษีที่เพิ่มขึ้นจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า นอกจากนี้ธุรกิจโรงกลั่นกำไรปรับตัวลงเล็กน้อยแม้ว่าค่าการกลั่นที่ลดแต่ได้แรงหนุนจากกำไรสต๊อกน้ำมันเข้ามาหนุน อย่างไรก็ตามธุรกิจก๊าซธรรมชาติผลประกอบการดีขึ้นตามปริมาณจำหน่ายที่ปรับตัวขึ้น 3% สู่ 1.78 ล้านตันอีกทั้งราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้ง HDPE และ PP ปรับตัวสูงขึ้น 1% และ 3% ตามลำดับ
+SVI รายงานกำไร 2Q61 ที่ 270 ล้านบาท +115%YoY และ +321%QoQ
+CPF รายงานกำไร 2Q61 ที่ 5,893 ล้านบาท +458%YoY และ +93%QoQ
+ORI รายงานกำไร 2Q61 ที่ 1,019 ล้านบาท +238%YoY และ +108%QoQ
-WHAUP รายงานกำไร 2Q61 ที่ 295 ล้านบาท -58%YoY และ -59%QoQ
ประเด็นบวก AIT INET ITEL “กสทช.” จัดประมูลเน็ตพื้นที่ห่างไกล Zone C จำนวน 15,723 หมู่บ้าน 8 สัญญา วงเงินรวม 19,674.78 ล้านบาท จ่อประกาศประกวดราคา 20 ส.ค.-14 ก.ย. 2561 กำหนดยื่นเอกสารเสนอราคา 17-21 ก.ย. 2561 พร้อมแจงโปร่งใสทุกขั้นตอน
+BGRIM เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 257 เมกะวัตต์ (MW) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ขนาด 70 MW คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในเดือน มิ.ย. 2562 โดยกำหนดอัตราผลตอบแทนการลงทุนจากเงินลงทุนในส่วนทุน (EIRR) ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 12%
CPN (ราคาปิด 80.50 Bloomberg Consensus 85.81) วันนี้จะส่งงบ Q2 Bloomberg Consensus คาดกำไรเฉลี่ย 2.9 พันล้านบาท +2%
LH (ราคาปิด 11.90 Bloomberg Consensus 12.96) วันนี้จะส่งงบ Q2 Bloomberg Consensus คาดกำไรเฉลี่ย 2.8 พันล้านบาท +14%
TPBI จะเข้าซื้อกิจการ EDCAWI บรรจุภัณฑ์กระดาษในอังกฤษ -ITPA บรรจุภัณฑ์พลาสติกในออสเตรเลีย คาดทำสัญญา Q3/61
PSH (ราคาปิด 21.40 Bloomberg Consensus 24.16) รายงานกำไร 2Q61 เท่ากับ 1,563 ล้านบาท -10%YoY+81%QoQ พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.55 บาท XD 23 ส.ค. วันจ่าย 7 ก.ย. ทั้งนี้บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายรายได้ในปี 61 เหลือ 4.7 หมื่นล้านบาท จากเดิม 5.05 หมื่นล้านบาท แต่บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ 5.37 หมื่นล้านบาท แม้ปรับลดจำนวนโครงการเปิดใหม่เหลือ 68 โครงการ มูลค่ารวม 6.14 หมื่นล้านบาท จากเดิม 77 โครงการ มูลค่ารวม 6.78 หมื่นล้านบาท จากการเลื่อนเปิดโครงการแนวราบ 9 โครงการ โดยเน้นการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ของคอนโดมิเนียม ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ราว 3.21 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในครึ่งปีหลัง 1.32 หมื่นล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปถึงปี 64 งวด 1H61 มีกำไรสุทธิ 2,425 ล้านบาททรงตัว YoY
+KBANK (ราคาปิด 217 Bloomberg Consensus ) เปิดเผยว่า แผนงานดิจิทัลแบงกิ้งล่าสุด คือ ปรับโมเดลเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้น โดยเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะฐานลูกค้าในประเทศกลุ่มภูมิภาคอาเซียน (CLMV) เพื่อเป็นช่องทางในการหารายใหม่ ๆ ให้กับธนาคาร ในการจับมือกันกับฟินเทค หรือสตาร์ตอัพที่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อช่วยธนาคารให้เข้าไปทำตลาดด้านดิจิทัลแบงกิ้งในต่างประเทศได้คล่องตัวมากขึ้น โดยเชื่อว่าการเข้าไปเจาะตลาดต่างประเทศผ่านดิจิทัลแบงกิ้งจะทำให้เข้าถึงฐานลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น เมื่อเทียบกับการหาลูกค้าผ่านช่องทางสาขาของธนาคารเหมือนในอดีต
+SKY เผยกิจการร่วมลงทุนจีฟินน์-สกาย เซ็นสัญญารับงานโครงการจัดทำ Digital Platform ตามนโยบาย AOT 4.0 เป็นเวลา 10 ปี โดยมีหน้าที่ดำเนินการพัฒนาระบบสื่อสารออนไลน์ในรูปแบบ Mobile Application
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
OO12413