- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 14 August 2018 17:33
- Hits: 2774
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Defensive Play//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับฐานลงตามคาดหลังจากปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา โดยมีแรงขายออกมาในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวและทำให้ปิดลบถึง 16.52 จุด สถาบันในประเทศขายสุทธิหนักถึง 5.1 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติแม้จะยังซื้อสุทธิต่อเนื่อง แต่บางลงเหลือเพียง 272 ลบ. (และยัง Net Short ใน Index Futures เล็กน้อย)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่าจะอ่อนตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับลงค่อนข้างแรงวานนี้จากความกังวลวิกฤตค่าเงินลีราตุรกีที่อ่อนค่าเกือบ 50% ในปีนี้ และผลของการปรับขึ้นภาษีเหล็ก-อลูมิเนียมของสหรัฐฯขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารในยุโรป ขณะที่ปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการ 2Q18 ของบริษัทจดทะเบียนซึ่งโดยรวมถือว่าไม่ได้ดีกว่าคาดอย่างมีนัยยะ เราจึงมองว่าตลาดยังคงอยู่ในช่วงของการแกว่งพักฐานระยะสั้นหลังจากปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงกว่า 1 เดือนทีผ่านมา
กลยุทธ์ : เก็งกำไรงบ 2Q18 และมีธุรกิจ Defensive //ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานคืนในช่วงตลาดพักตัว
หุ้นเด่นเดือนส.ค. : BJC, BKD, INTUCH, RS, SC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$313ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$205ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$1ล้าน (ไทยปิดทำการ) แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคจากความกังวลสถานการณ์ตุรกี
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> BDMS <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 29 บาท
ประกาศงบ 2Q18 วันนี้ เราคาดกำไรปกติ 2,098 ลบ. -28.1% Q-Q, +31.5% Y-Y ซึ่งมีโอกาสออกมามากกว่าคาดหากอิงจากโรงพยาบาลอื่นๆที่ประกาศออกมาก่อนหน้าซึ่งส่วนใหญ่โตโดดเด่น
โมเมนตัมการเติบโตในช่วง 2H18 ยังแกร่ง โดยคาดกำไรทำจุดสูงสุดของปีใน 3Q18 จากอานิสงส์ของ High Season
หุ้นกู้แปลงสภาพล่าสุดมีผู้ทยอยใช้สิทธิและเหลือยอดเงินต้น 6,114 ลบ. หรือราว 29.2 ล้านหุ้น (1.9% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) ซึ่งกระทบจำกัดต่อ Valuation
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) CPF กำไรสุทธิ 2Q18 เท่ากับ 5,893 ลบ. (+93% Q-Q, +45% Y-Y) หากไม่รวมกำไรขายเงินลงทุนหลายรายการ 2,714 ลบ. กำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมพันธ์หมู 1,417 ลบ. และขาดทุนด้อยค่าความนิยม 515 ลบ. เราได้กำไรปกติที่ 2,388 ลบ. พลิกจากที่ขาดทุนใน 1Q18 และเพิ่มจากปีก่อน 28% ถือว่าทำได้ดีกว่าคาด แนวโน้มกำไรปกติ 3Q18 จะดีขึ้นเพราะเป็น High Season และราคาเนื้อสัตว์ในประเทศกลับมาฟื้นตัว ยังคาดกำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 1.42 หมื่นลบ. -6.9% Y-Y และคงราคาเป้าหมายที่ 28 บาท โดยมีปันผลงวด 1H18 ที่หุ้นละ 0.35 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 1.4% ขึ้น XD 28 ส.ค.
(+) STEC กำไรปกติ 2Q18 อยู่ที่ 305 ลบ. (+29% Q-Q, +25% Y-Y) ดีกว่าเราและตลาดคาด 21% มาจากรายได้ที่ทำได้ดีกว่าคาดที่ 5.7 พันลบ. (+7% Q-Q, +29% Y-Y) ขณะที่ GPM ทำได้ใกล้เคียงกับ 1Q18 ที่ 7.7% กำไรหลัก 1H18 คิดเป็น 52% ของประมาณการทั้งปี แนวโน้ม 3Q18 คาดเร่งขึ้น จากการรับรู้รถไฟฟ้าสีชมพู-เหลือง ราคาหุ้นมี Upside มากกว่า 10% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ 23 บาท จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ
(+) EPG กำไรปกติ 1Q19 (เม.ย.-มิ.ย. 2018) ทำได้ 274 ล้านบาท +0.3% Q-Q, -8.0% Y-Y เป็นการฟื้นตัวทั้ง 3 ธุรกิจโดยเฉพาะ Aeroklas และ Aeroflex ที่ดีขึ้นทั้งรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกยังฟื้นตัวค่อนข้างช้าเพราะยังถูกกระทบจากการตัดราคาอยู่บ้าง กำไร 1Q19 คิดเป็น 22% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่1,251 ล้านบาท +26.3% Y-Y ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 12 บาท
(+) SVI กำไรสุทธิ 2Q18 ดีกว่าคาดมากอยู่ที่ 271 ลบ +323% Q-Q, +117% Y-Y (เราคาด 218 ลบ.) แม้ไม่รวม fx gain 64 ลบ. ยังมีกำไรปกติที่ 207 ลบ. (+169% Q-Q, +62% Y-Y) รายได้ทำจุดสูงสุดใหม่ และอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นได้ดีกว่าคาด กำไร 1H18 คิดเป็น 51% ของประมาณการทั้งปี แนวโน้มกำไรจะดีต่อเนื่องใน 2H18 ตามฤดูกาล เรามีแนวโน้มปรับเพิ่มกำไรและราคาเป้าหมายปีนี้จากปัจจุบันให้ไว้ 4.90 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไร
(+) FTE กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 42 ลบ. +152% Q-Q, +54% Y-Y ดีกว่าคาดการณ์ของเราที่ 29 ลบ. อยู่มาก โดยหลักมาจากรายได้ที่เร่งตัวขึ้น พร้อมกับอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว เพราะเป็นการส่งมอบสินค้าในต้นทุนเดิม แนวโน้ม 2H18 อาจชะลตัว Y-Y เพราะฐาน 2H17 สูงเฉลี่ยไตรมาสละ 38 ลบ. และงานโครงการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงให้โรงไฟฟ้าทั้งรัฐและเอกชนยังไม่ฟื้น (ของภาครัฐฯติด พรบ. จัดซื้อจัดจ้าง และ พรบ. วินัยการคลัง) เรายังคงคาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปีที่ 105 ลบ. -20% Y-Y แนะนำซื้อ ในฐานะหุ้นปันผล โดยงวด 1H18 ประกาศจ่ายที่ 0.09 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 4.2% ขึ้น XD วันที่ 23 ส.ค. 18
(+) BKD กำไรสุทธิ 2Q18 ดีมาก อยู่ที่ 38 ลบ. ดีกว่าคาดการณ์ของเราที่ 30 ลบ. ที่ลดลง 54% Q-Q เพราะฐาน 1Q18 สูงจากการบันทึกกำไรงานที่ค้างมาตลอดปี 2017 ส่วนที่เทียบ Y-Y แล้วลดลงถึง 86% เพราะ 2Q17 มีบันทึกกำไรขายที่ดิน 367 ลบ. หากหักออกจะขาดทุน 82 ลบ. เมื่อเทียบที่ผลการดำเนินงานปกติถือว่าพลิกเป็นบวกได้โดดเด่น จากการหันมาโฟกัสที่งานถนัด 2H18 จะเด่นขึ้นอีก โดยคาดว่าจะเริ่มรวมธุรกิจน้ำที่ภูเก็ตได้ใน 4Q18 PE2018-19 ยังต่ำ 17-20 เท่า ถูกกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 25 เท่า แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
14 ส.ค.- ยูโรโซน: 2Q18 GDP ตลาดคาด +1.2% Y-Y
15 ส.ค.- สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีก (ก.ค.)
- อินโดนีเซีย: ดุลการค้า (ก.ค.)
16 ส.ค.- ญี่ปุ่น: ดุลการค้า (ก.ค.)
17 ส.ค.- สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
20 ส.ค.- ไทย: 2Q18 GDP
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องวิกฤตค่าเงินของตุรกีที่อาจลุกลามไปประเทศต่างๆ
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับลง นำโดยหุ้นในกลุ่มธนาคารเนื่องจากเป็นผู้ที่ปล่อยกู้ให้กับธุรกิจส่วนใหญ่ในตุรกี
(+) ภาพรวมตลาดเอเชียเช้านี้ฟื้นตัวขึ้นหลังจากปัจจัยพื้นฐานในประเทศเอเชียส่วนใหญ่ยังไม่น่ากังวลเท่าตุรกี แม้จะมีบางประเทศเช่นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่ดูอ่อนแอกว่าประเทศอื่นๆก็ตาม
(-) ค่าเงินบาทอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.30-33.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 0.43 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 67.20 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเรื่องปริมาณความต้องการใช้ในอนาคต
(+) ค่าการกลั่นสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 0.24 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 7.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลง 20.10 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1198.90 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO12405