บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 10-08-18

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Friday, 10 August 2018 21:11; Hits: 1897

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้

เก็งกำไรหุ้นรายตัว

Smart Pick

เก็งกำไร BDMS

ราคาปิด 27.00 บาท

ราคาเหมาะสม 31.40 บาท

ผลประกอบการหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลอย่าง BCH, EKH, CHG ออกมาดีกว่าคาด เชื่อว่าจะเกิดแรงเก็งกำไรในกลุ่มโรงพยาบาลต่อเนื่องในวันนี้

BDMS จะรายงานงบ 2Q61 ในวันที่ 14 ส.ค. เราคาดกำไรปกติเติบโตสูง +32% YoY เป็น 2,106 ล้านบาท หากออกมาดีกว่าคาดจะเป็นบวกต่อราคาหุ้น ทั้งนี้สัญญาณทางเทคนิคเป็นบวกหากทะลุ 28 บาทซึ่งเป็นไฮเดิม

สะสม LPN

ราคาปิด 9.95 บาท

ราคาเหมาะสม 11.60 บาท

แม้ LPN รายงานกำไร 2Q61 ต่ำกว่าคาดของเราราว 8% ที่ 249 ล้านบาท -16% QoQ และทรงตัว YoY ประกาศเงินปันผล 1H61 หุ้นละ 0.20 บาท คิดเป็น Yield 2.0%

นอกจากนี้เรามองว่ากำไรใน 2Q61 ถือเป็นจุดต่ำสุดของปี และฟื้นตัวเด่นใน 2H61 คาดกำไรโตถึง +63% HoH เป็น 895 ล้านบาท บน Backlog ที่รองรับไว้แล้วถึง 95% ของประมาณการเรา สูงสุดในกลุ่ม

เก็งกำไร BANPU

ราคาปิด 20.80 บาท

ราคาเหมาะสม 32.00 บาท

เรามองว่าตลาดจะกลับมาเก็งกำไรงบ 2Q61 ของ BANPU ที่จะรายงานวันนี้ เราคาดกำไรสุทธิ 2Q61 ที่ 3.4 พันล้านบาท +50% YoY จากขาดทุน QoQ

ขณะที่ราคาหุ้นลดลง 2.4% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา สวนทาง SET INDEX ที่ทรงตัว ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ PER2561 เพียง 7 เท่า และคาดเงินปันผลงวด 1H61 หุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็น Yield 1.5%

เก็งกำไร ROBINS

ราคาปิด 64.00 บาท

แนวต้านทางเทคนิค 66.00 บาท

ราคาหุ้นวานนี้ปิดเหนือเส้น 200 วัน ที่ 63.75 บาทได้ เป็นสัญญาณบวกทางเทคนิค คาดว่ามีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 66.00-67.00 บาท

ROBINS รายงานงบ 2Q61 วันนี้ คาดกำไรปกติที่ 688 ล้านบาท +14% YoY อีกทั้งราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายบน PER2561 เพียง 22.6 เท่า ถูกกว่า CPALL ที่ 29.6 เท่า และ BJC ที่ 33.5 เท่า

Switch : Short IRPC / PTTGC Long BANPU

กลยุทธ์วันนี้

เราประเมินว่า SET INDEX วันนี้เคลื่อนไหวบนเรื่องผลการดำเนินงานของบจ.ไทยเป็นสำคัญ โดยสรุปภาพรวมของกำไรใน 2Q61 ที่สำคัญได้ดังนี้

CPALL / IRPC / PTTGC / WORK: ต่ำกว่าที่ตลาดและเราคาดการณ์ และมีโอกาสถูกปรับประมาณการลง

กลุ่มโรงพยาบาลอย่าง EKH: ออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย

กลุ่มอสังหาฯ อย่าง LPN / PSH: ออกมาใกล้เคียงคาด แต่เรามองว่าผลการดำเนินงานของ LPN ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ส่วน PSH จุดเด่นเรื่องของปันผลเป็นสำคัญ

เบื้องต้นเรามีมุมมองเป็น "บวก" ต่อกลุ่มธนาคาร /อสังหาฯ /โรงพยาบาล / Mobile Operator / ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ต่อภาวการณ์ลงทุนในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ ซื้อขายบน Valuation ที่น่าสนใจ รวมถึงเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลเด่นอย่างอสังหาฯ และ Mobile Operator ขณะที่เรามีมุมมองเป็น "กลาง" ต่อกลุ่มพลังงาน /ปิโตรเคมี ที่ผลการดำเนินงานใน 2H61 มีแนวโน้มลดลง HoH ได้ การลงทุนในกลุ่มนี้จึงเป็นเพียง selective buy นำโดย PTT/ BANPU และมุมมองเป็น "ลบ" ต่อกลุ่มทีวีดิจิตอลที่กำไรต่อกว่าคาดทุกบจ. ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนช่วงที่เหลือของปีนี้ เราแนะนำให้นักลงทุนควรปรับน้ำหนักของพอร์ตการลงทุนเข้าสู่กลุ่มที่เราให้มุมมองเป็นบวก

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น เราคงแนะนำ "เก็งกำไรต่อผลประกอบการ (Earnings Season) โดยเฉพาะBDMS/ BANPU/ CPF หรือพักเงินในหุ้นปันผลเด่น (Dividend Play) ได้แก่ INTUCH/ KKP/ PSH คาด Yield งวด 1H61 ราว 2.4%

HOT Topic

1. โค้งสุดท้ายของการรายงานงบ 2Q61 หุ้นที่ยังไม่รายงานงบและคาดว่าจะออกมาดี CPF, BANPU, ORI, BDMS

2. CPALL รายงานงบ 2Q61 ต่ำคาดและราคาหุ้นลงมาวนทางกับตลาด ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เรามองอย่างไร?

3. MSCI จะประกาศทบทวนดัชนีในวันจันทร์ที่ 13 ส.ค.

4. กระแสเงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 9 ทิศทาง Fund Flows เป็นอย่างไร

ตลาดหุ้นไทยวานนี้

วานนี้ SET INDEX แกว่งตัวในกรอบ 1716-1730 จุด ก่อนมาปิดที่ 1722.48 จุด เพิ่มขึ้น 0.84 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4.8 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นในกลุ่มธนาคาร (SETBANK) ยังแข็งแกร่งกว่าตลาด และปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 1.37% นำโดย SCB (+3.15%), BAY (+1.84%), BBL (+0.97%), KTB (+1.04%) และ KBANK (+0.46%)

กระแสเงินทุน : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 9 อีกราว 741 ล้านบาท รวม 9 วันทำการซื้อสุทธิสะสมกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 930 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 2.8 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 2.9 พันสัญญา จากวันก่อนหน้าที่มีสถานะ Long สุทธิหนาแน่นถึง 5.7 พันสัญญา ส่วนหนึ่งเราคาดว่าเป็นการปิดสถานะ Long บางส่วนเพื่อปิดความเสี่ยง เนื่องจาก QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิหนาแน่นถึง 9 หมื่นสัญญา ขณะที่กลุ่มสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 อีกราว 870 สัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิราว 3.6 หมื่นสัญญา

ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 287 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 1.3 พันล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้

นายกรัฐมนตรี เผยยังไม่มีข้อสรุปกรณีสมาชิก สนช. เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ประเด็นการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง แต่ยืนยันไม่กระทบต่อโรดแมพการเลือกตั้ง

คณะกรรมการ PPP เร่งรัดกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออกและตะวันตก ให้เสนอคณะกรรมการ ภายในปี 2561

รัสเซียกล่าวหาสหรัฐฯ ว่า การคว่ำบาตรต่อรัสเซียเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และทางรัสเซียได้เริ่มมาตรการตอบโต้หลังจากค่าเงินรูเบิลได้อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี

จีนรายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ค. 2561 ขยายตัว 2.1%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดขยายตัวเพียง 2.0%YoY

ญี่ปุ่นรายงาน GDP 2Q61 ขยายตัว 1.9%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 1.4%YoY

ติดตามการรายงาน GDP อังกฤษ ตลาดคาดขยายตัว 1.3%YoY และการรายงานเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐฯ เดือน ก.ค. ตลาดคาดขยายตัว 2.9%YoY วันที่ 10 ส.ค.

ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า

ติดตามการประกาศปรับน้ำหนักดัชนี MSCI วันที่ 13 ส.ค.

ติดตามการรายงาน GDP อียู ในวันที่ 14 ส.ค.

ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ อังกฤษ เดือนก.ค. ในวันที่ 15 ส.ค.

ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ อียู เดือนก.ค. ในวันที่ 17 ส.ค.

ติดตามการรายงานผลประกอบการ 2Q61 ในช่วงวันที่ 10 - 15 ส.ค.

Strategist Team

Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050