- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 07 August 2018 17:06
- Hits: 2172
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Laggard Play//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในช่วงครึ่งเช้าตามคาดก่อนที่ช่วงบ่ายจะมีแรงขายออกมาหนาแน่นในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวโดยเฉพาะที่ปรับตัวขึ้นเด่นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น IVL BDMS เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดพักฐาน แรงขายส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศซึ่งหนาแน่นถึง 3.9 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 1.2 พันลบ. (แต่ยัง Net Short ใน Index Futures ต่อเนื่องอีก 4 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่ายังอยู่ในช่วงการแกว่งตัวพักฐานหลังจากปรับตัวขึ้นแรงในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา โดยระยะนี้ยังต้องติดตามการประกาศผลประกอบการ 2Q18 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะออกมาหนาแน่น อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าราคาหุ้นได้ตอบรับความคาดหวังไปพอสมควรซึ่งหากไมได้ออกมาดีกว่าที่คาดไว้อย่างมีนัยยะคาดว่าจะเห็นการ Sell on Fact ระยะสั้น เรายังเน้นเก็งกำไรหุ้นที่มีกำไร 2Q18 โดดเด่นและยัง Laggard ตลาด ส่วนจังหวะปรับลงของดัชนีเรามองเป็นจังหวะในการสะสมหุ้นพื้นฐานคืนบริเวณ 1,680 จุดบวกลบหลังจากที่ขายทำกำไรระยะสั้นบางส่วนไปแล้ว
กลยุทธ์ : เก็งกำไรงบ 2Q18 และยัง Laggard //สะสมหุ้นพื้นฐานคืนในช่วงตลาดพักฐาน
หุ้นเด่นเดือนส.ค. : BJC, BKD, INTUCH, RS, SC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภคา US$45ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$70 ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทย US$37 แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคจากความกังวลต่อสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SC <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท
คาดกำไรสุทธิ 2Q18 ที่ 440 ลบ. +70% Q-Q, +66% Y-Y จากการเน้นโอนแนวราบที่ตัวเองถนัด และมีโอนคอนโดใหญ่อย่าง Saladeaeng One มูลค่า 4.7 พันลบ.
แนวโน้มกำไร 2H18 ยังดีต่อเนื่อง จากการโอนคอนโด Luxury 1 แห่ง และเปิดตัวแนวราบมากถึง 15 แห่ง รวมถึงคอนโดอีก 1 แห่ง มูลค่ารวม 1.6 หมื่นลบ.
PE2018-2019 ต่ำเพียง 7-8 เท่า และปันผลสูง 5-6% ต่อปี
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ราคาน้ำมันดิบฟื้นกลับ เกือบ 1% หลังจากสหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่านรอบแรก โดยจะจำกัดธุรกรรมในการซื้อขายเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือการออกพันธบัตร และการซื้อขายทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งเป็นมาตรการที่นำกลับมาใช้หลังจากอิหร่านบรรลุข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับกลุ่ม P5+1 ก่อนหน้านี้
(+) กลุ่มอสังหาฯ บริษัทในกลุ่มจะประกาศงบ 2Q18 ตั้งแต่ 9-15 ส.ค. คาดกำไรทั้งกลุ่ม +36% Q-Q, +1.3% Y-Y โดยคาด Earnings Momentum เป็นบวกต่อเนื่อง และทำจุดสูงสุดใน 4Q18 จากยอด Presales แนวราบที่ไปได้ดี และการเร่งโอนคอนโดหลายแห่ง สำหรับหุ้นที่เราชอบ และกำไร 2Q18 คาดโตแกร่งทั้ง Q-Q และ Y-Y คือ ORI (ราคาเป้าหมาย 25.40), SC (ราคาเป้าหมาย 4.80), AP (ราคาเป้าหมาย 10)
(0) TU กำไรสุทธิ 2Q18 เหลือ 10 ลบ. หากไม่รวมตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพิเศษทางกม. 1,427 ลบ. (สุทธิภาษีเป็น 1,359 ลบ.) และรายการพิเศษอื่น จะมีกำไรปกติ 1,002 ลบ. ต่ำกว่าคาดที่ 1,142 ลบ. เมื่อเทียบกับ 1Q18 ถือว่าฟื้นแรงจาก 139 ลบ. เพราะเงินบาทอ่อนและราคาปลาทูน่าปรับขึ้น ส่วนเทียบ Y-Y ที่กำไรลงเพราะบาทแข็ง แนวโน้ม 3Q18 จะดีขึ้นจาก High Season แต่ยังต้องติดตามราคาปลาทูน่า ถ้าเริ่มปรับขึ้นในเดือน ส.ค. จะเป็นบวกกับ TU เพราะสต็อกไว้มากในช่วงราคาต่ำเดือน ก.ค. ยังคาดกำไรปีนี้ที่ 4,790 ลบ. (-20.4% Y-Y) คงราคาเป้าหมายที่ 17 บาท ราคาหุ้นขึ้นมาจนเต็มมูลค่า แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
(+) PCSGH คาดกำไรสุทธิ 2Q18 โต 22% Y-Y อยู่ที่ 196 ลบ. จากการเติบโตที่ดีของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ การขยายตัวของกลุ่มลูกค้า Non-Auto และการเริ่มรวมงบของโรงงานในยุโรป ซึ่งเราคาดว่าจะเข้ามาเป็นส่วนเพิ่มเพราะได้แรงหนุนจากเงินบาทที่พลิกมาอ่อนค่าเร็ว ส่วนเมื่อเทียบ Q-Q คาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 2% ตามผลของฤดูกาลที่มีวันหยุดมาก ทั้งนี้ เรายังคาดว่าจะเห็นการเติบโตแบบ Y-Y เร่งตัวขึ้นอีกใน 2H18 จากการใช้กำลังการผลิตของโรงงานในยุโรปที่เพิ่มขึ้น และเป็นช่วงส่งมอบชิ้นส่วนกลุ่ม Non-Auto ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง คงคาดกำไรสุทธิทั้งปีนี้ที่ 790 ลบ. +23% Y-Y ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE2018-19 เพียง 12-14 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 20 เท่า อยู่มาก จึงยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายเท่ากับ 13 บาท
(0) MVP เป็นที่รู้จักในนามผู้จัดงาน Thailand Mobile Expo ซึ่งจัดปีละ 3 ครั้ง แต่ด้วยประสบการณ์ในการจัดงานที่มีมากกว่า 11 ปี และมีการกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้ดี ทั้งการจัดงานอีเว้นท์ การจัดงานวิ่ง และการให้บริการรถคาราวานที่ รวมถึงธุรกิจ e-Commerce ที่ขายสินค้าให้แบรนด์ Samsung ทำให้กำไรสุทธิปี 2015-2017 เติบโตเฉลี่ย (CAGR) สูงถึง 188% ต่อปี และผลจากการกระจายแหล่งที่มาของรายได้นี้เอง ทำให้ผลประกอบการรายไตรมาสผันผวนน้อยกว่าผู้ประกอบธุรกิจจัดงานอีเว้นท์อื่นในตลาด เช่น ARIP CMO GPI และ K เราคาดกำไรสุทธิปี 2018 โต 14% Y-Y อยู่ที่ 33 ลบ. ส่วนปี 2019-2020 คาดโตเฉลี่ย 16% ต่อปี จากการขยายพื้นที่จัดงาน TME, การจัดงานวิ่งเพิ่มขึ้น, และการเพิ่มรถคาราวาน เราประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2018 โดยอิง PE Multiplier 15 เท่า ซึ่ง Implied จาก PEG 1 เท่า ได้เท่ากับ 2.50 บาท (FSS เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ MVP)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
7 ส.ค.- เยอรมัน: ดุลการค้า (มิ.ย.)
8 ส.ค.- จีน: ดุลการค้า (ก.ค.) ตลาดคาดยอดส่งออก +10% Y-Y
- ฟิลิปปินส์: ดุลการค้า (มิ.ย.)
9 ส.ค.- จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
- ฟิลิปปินส์: 2Q18 GDP ตลาดคาด 6.8% Y-Y
10 ส.ค.- ญี่ปุ่น: 2Q18 GDP ตลาดคาด+1.4% Y-Y
(+) ตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นโดยได้แรงสนับสนุนจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้าผู้บริโภค
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่าน เนื่องจากจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนบริษัทในยุโรป
(+) ภาพรวมตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย บนความคาดหวังว่าทางการจีนจะออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 33.30-33.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.52 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 69.01 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่าน หลังสหรัฐเริ่มใช้มาตราการที่รุนแรงขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
(+) ค่าการกลั่นสิงคโปร์พุ่งขึ้น 0.29 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 6.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 5.50 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1217.70 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO12185