- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 06 August 2018 22:47
- Hits: 2425
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ปรับขึ้นต่อ แต่อัพไซด์มีไม่มากนัก
KGI คาด SET Index วันจันทร์ปรับขึ้นต่อ... นักลงทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อ ตามปัจจัยหนุนได้แก่ i) ทางการจีนเข้าสกัดการอ่อนค่าของเงินหยวน โดยเมื่อวันศุกร์ได้ประกาศสัดส่วนเงินสำรอง 20% กับธุรกรรมขายชอร์ตเงินหยวน ข่าวดังกล่าวหนุนให้สกุลเงินเอเชียเช้านี้แข็งค่าเช่นกัน เป็นบวกต่อทิศทางฟันด์โฟลว์ ii) ความกังวลต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ ผ่อนคลาย หลังตัวเลขค่าจ้างแรงงาน ก.ค. +2.7% YoY เท่ากับตัวเลขเดือน มิ.ย. ส่งผลให้บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ถอยลงจากระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 3.0% ประเด็นระดับ macro ต่างๆ ข้างต้นผนวกกับแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2/2561 น่าจะส่งผลให้ SET Index แกว่งตัวขึ้นต่อได้ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดีอัพไซด์ของดัชนีฯ มีจำกัด เทียบกับเป้าหมายดัชนีฯ สิ้นปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ 1,740 จุด อิงเป้า PE ใหม่ที่ 15.4 เท่า และ EPS ปีนี้ 113.0 (ฝ่ายวิจัยฯ ได้ออกบทวิเคราะห์ลดเป้าดัชนีฯ ลงจาก 1,840 สู่ 1,740 ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา) ขณะที่ข่าวสารด้านสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยังไม่ชัดเจนและไม่มีข้อสรุป ปลายสัปดาห์ที่แล้วจีนได้ประกาศเพิ่มขนาดของมาตรการภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จาก 3.4 หมื่นล้านเป็น 6.0 หมื่นล้านเหรียญฯ หลังจากสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าขู่เก็บภาษีสินค้าจากจีนมูลค่าถึง 2 แสนล้านเหรียญฯ ในอัตราสูงถึง 25%
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร AMATA*, COM7*, SGP*
AMATA* (เป้าพื้นฐาน 30 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 2Q61 = 320 ล้านบาท (+25%YoY แต่ลดลง -23%QoQ) โดยฝ่ายวิจัยฯยังคงประมาณการฯกำไรปีนี้ไว้ที่ 1.99 พันล้านบาท (โต +41% YoY) ... คาดยอดขายที่ดินเร่งตัวขึ้นใน 2H61 2) Valuation ไม่แพง PE ปี 2561 = 11.2 เท่า (ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 11.9 เท่า) 4) ประเมินแนวรับ 20.6 บาท / แนวต้านเทรนไลน์ 21 บาท หากผ่านได้ประเมินขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 22 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 20.4 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 21.07 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 18.3 บาท และ 18.0 บาท / แนวต้าน 19.0 บาท และถัดไปที่ 20.3 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 17.8 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเป็นบวก YoY ต่อเนื่องใน 2Q61 - 3Q61 (Consensus คาดกำไร 2Q61 โต 35 - 40% YoY) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง + การเป็นพันธมิตรกับ KBANK* (เปิดแฟรนไชส์ Banana IT) และเป็นพันธมิตรกับ TRUE* (บริหารร้าน True shop)
SGP* (เป้าพื้นฐาน 13.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.0 บาท และ 11.8 บาท / แนวต้าน 12.6 บาท และลุ้นปิดแก็บราคาที่ 13.6 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 11.4 บาท) 2) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q61 จะฟื้นตัว QoQ และ Turnaround YoY จากราคาก๊าซ LPG ในช่วง 2Q61 ที่ปรับขึ้น +16.7% (เทียบกับ 1Q61 ที่ราคาก๊าซ LPG ปรับลงถึง -17%) 3) Valuation ไม่แพง PE 2561 = 10.7 เท่า (บนประมาณการ EPS 1.15 บาท/หุ้น) โดยประมาณการฯและราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัยฯมี Upside จาก i) กรณีที่กำไร 2Q61 มากกว่าที่คาดไว้ที่ 600 ล้านบาท และ ii) ฝ่ายวิจัยฯใช้สมมติฐานที่อนุรักษ์นิยม โดยใช้เป้าหมาย PE บนธุรกิจก๊าซเพียง 11 เท่า และสมมติฐาน WACC 10% + ไม่มี Terminal value สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้า ทำให้ยังมี Upside จากราคาเป้าหมายของฝ่ายฯอีก
หุ้นมีข่าว
(-) อนันต์ยกเลิกดีลเทนเดอร์ LH* อนันต์ อัศวโภคิน แจ้งขอยกเลิกการเสนอซื้อหุ้น LH บางส่วนแบบมีเงื่อนไข หลังธนาคารไทยพาณิชย์ได้ขอยกเลิกวงเงินสินเชื่อระยะยาวด้วยเหตุผลที่นายอนันต์ไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงใหม่ที่มีการขอเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นนายอนันต์จึงขอแจ้งยกเลิกการทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วนแบบมีเงื่อนไขของบริษัท มุมมองของเรา: แม้ว่าข่าวการยกเลิกการทำคำเสนอซื้อหุ้นจะไม่ได้มีผลกระทบในเชิงพื้นฐานต่อบริษัท แต่แน่นอนว่าข่าวดังกล่าวจะมีผลในเชิงลบกับราคาหุ้นและตัวบริษัทอย่างมากเนื่องด้วยนักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเราเชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวจะทำให้ราคาหุ้นอาจปรับตัวลงตอบสนองกับข่าวลบดังกล่าวในระยะสั้น นักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำหลีกเลี่ยง แต่อย่างไรก็ดีสำหรับนักลงทุนที่สามารถลงทุนได้ระยะกลางถึงยาวเราแนะนำการปรับตัวลงแรงของราคาหุ้นอาจเป็นโอกาสเข้าสะสม ราคาเป้าหมายของเรา 13.4 บาท
(+) DCC ปรับโมเดลธุรกิจ ” (โพสต์ทูเดย์) มารุต แสงศาสตรา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและการขาย และกรรมการ บริษัท DCC เผยว่า บริษัทได้ลงนามกับพันธมิตร ZIGA เพื่อวางขายสินค้าในสาขาของ DCC ซึ่งจะเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจเป็นคอมมูนิตี้มอลวัสดุก่อสร้าง โดย DCC ยังคงตั้งเป้ารายได้เติบโตที่ 10% ในขณะที่ความชัดเจนในการควบรวมกิจการกับ RCI จะต้องรอข้อสรุปภายในปีหน้า (ปัจจุบัน DCC ถือหุ้น 17% ใน RCI) ความเห็น : เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการปรับโครงสร้างธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ DCC รับรู้รายได้ค่าเช่า และมีลูกค้ามาใช้บริการสูงขึ้น ในขณะที่การควบรวมกิจการกับ RCI จะทำให้ DCC มีกำลังการผลิตรวมเป็น 92 ล้าน ตรม. /ปี จาก ปัจจุบันที่ 80 ล้าน ตรม./ ปี ซึ่งใกล้เคียงกับ COTTO ที่ 94 ล้าน ตรม./ปี แต่ DCC เป็นผู้ผลิตที่มีต้นทุนต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม เรายังคงคำแนะนำ ถือ ด้วยราคาเป้าหมาย 2.78 บาท
(+) TTCL ขายพีพีให้ SOJITZ ระดมเงินกว่า 436 ล้าน (ข่าวหุ้น) บอร์ด TTCL ไฟเขียวขายหุ้นเพิ่มทุนพีพี จำนวน 56 ล้านหุ้น ให้กับ “Sojitz Corporation” บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จากญี่ปุ่น ในราคาหุ้นละ 7.795 บาท มูลค่ารวม 436.52 ล้านบาท หวังเสริมสภาพคล่องทางการเงิน-รองรับขยายธุรกิจ
(0) GULF จ่อเสียบถือหุ้นใหญ่ WEH หลังเคลียร์ข้อพิพาทผู้ถือหุ้นจบ (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) กัลฟ์ฯ เร่งเคลียร์ข้อพิพาทกลุ่มผู้ถือหุ้น "วินด์ เอนเนอร์ยี โฮลดิ้ง (WEH)" ก่อนเสียบเข้าถือหุ้นหุ้นใหญ่ใน WEH แทน ชี้เป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์ดี โดยมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมอีก 5 โรงทยอย COD ในปีหน้า
(+ กลุ่มธนาคาร / - กลุ่มอสังหาฯ) ดอกเบี้ยบ้านขยับ (โพสต์ทูเดย์) ไทยพาณิชย์นำร่องขึ้น 0.05% ยันไม่กระทบสินเชื่อกสิกรแนะใช้แบบลอยตัว: แบงก์พาณิชย์ทยอยปรับดอกเบี้ยกู้บ้าน ไทยพาณิชย์ประเดิม ขึ้น 0.05% กสิกรไทยเน้นชวนลูกค้าเลือกดอกเบี้ยลอยตัวถูกกว่าคงที่ นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดปฏิบัติการ ผู้บริหารสูงสุดชำระเงินรายย่อยและผลิตภัณฑ์รายย่อย ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทยพาณิชย์ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยบ้านแล้วประมาณ 0.05% ในบางแคมเปญ ตั้งแต่ไตรมาส 2 แล้ว ตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ประกอบกับลูกค้าส่วนใหญ่ 3 ปี รีไฟแนนซ์ออก ทำให้ต้องปรับดอกเบี้ยขึ้น
(+) VGI* ผนึกช่อง 7 เอ็กซ์คลูซีฟ รุกโฆษณาทุกแพลตฟอร์ม (กรุงเทพธุรกิจ) วีจีไอ เดินเกมผนึก "ช่อง 7" เอ็กซ์คลูซีฟ เดินหน้าขยายบริการด้านกลยุทธ์ ทำตลาดวางแผนสื่อโฆษณา กวาดเรียบทุกแพลตฟอร์มทีวีดิจิทัล ออนไลน์ฯ
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ASAP (เป้า Consensus 9.46 บาท) ประเมินแนวรับ 6.15 บาท / แนวต้าน 6.7 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 6.0 บาท)
IVL* (เป้าพื้นฐาน 70 บาท) ประเมินแนวรับ 60 บาท / แนวต้าน 61.5 บาท หากผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 63 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 59 บาท)
CMAN (เป้าพื้นฐาน 4.0 บาท) ประเมินแนวรับ 3.40 บาท / แนวต้าน 3.80 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 3.36 บาท)
BCP* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) ประเมินแนวรับ 35 บาท / แนวต้าน 36.5 บาท และถัดไปที่ 38 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 34.5 บาท)
BANPU* (เป้าพื้นฐาน 26 บาท) ประเมินแนวรับ 20.6 บาท / แนวต้าน 21.5 บาท และ 22 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 20.5 บาท)
TISCO* (เป้าพื้นฐาน 118 บาท) ประเมินแนวรับ 78 บาท / แนวต้าน 80 บาท และ 84 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 76.75 บาท)
CPF* (เป้า Consensus 29 บาท) ประเมินแนวรับ 26.5 บาท / แนวต้าน 28.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 26.5 บาท)
BBL* (เป้าพื้นฐาน 240 บาท) ประเมินแนวรับ 202 บาท / แนวต้าน 212 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 200 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
HMPRO* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 15.3 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก i) คาด Same store sales growth (SSSG) จะเติบโตราว 3-4% ใน 2H61 โดยเฉพาะในพื้นที่ กรุงเทพฯ ii) แผนการขยายอัตรากำไรโดยการเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้า Private brand iii) แผนการขยายสาขา HomePro S แต่ด้วย Upside ที่จำกัดจึงแนะนำเพียง "ถือ"
PTT* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 52.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q61 = 2.88 หมื่นล้านบาท (-8% YoY, -28% QoQ) การลดลงของกำไรเป็นผลจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนราว 6.4 พันล้านบาทในไตรมาสนี้ ยังคงแนะนำ "ถือ" โดยประเมิน Key driver ของ PTT* ในอนาคตคือการเตรยมนำ PTTOR เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ
กลุ่มอสังหาฯ น้ำหนักการลงทุน "มากกว่าตลาดฯ" กิจกรรมในตลาดที่อยู่อาศัยค่อนข้างซบเซาใน 1H61 เนื่องจากโครงการเปิดใหม่ลดลงถึง 15% HoH แต่อัตรา take-up rate ก็ยังแข็งแกร่งถึง 42.5% นอกจากนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของการเปิดโครงการใหม่ใน 2Q61 ซึ่งน่าจะช่วยหนุนให้กำไรของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น QoQ โดยประเมินกำไรรวมของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ใน 2Q61 ไว้ที่ 9.1 พันล้านบาท +40% QoQ แต่ลดลงเล็กน้อย -3% YoY คาดผลการดำเนินงานของ ANAN* จะโตเด่นสุดในไตรมาสนี้ ขณะที่ QH* และ LPN* คาดจะไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มฯ เลือก ANAN* และ LH* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ
กลุ่มขนส่ง น้ำหนักการลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" สำหรับกลุ่มขนส่งภาคพื้นดิน คาด BEM* และ BTS* จะมีผลการดำเนินงานที่โตเด่นในไตจรมาสนี้ จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง / อย่างไรก็ดีสำหรับกลุ่มสายการบิน คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานจะอ่อนแอในช่วง Low season (2Q-3Q) ผลจากต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและการแข่งขันที่ยังรุนแรง เลือก AOT* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยต้าน 1715 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1715 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1715-1735 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1715 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1715-1701 จุด
แนวรับวันนี้: 1708/1702 แนวต้านวันนี้: 1715/1729
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
OO12122