- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 15 September 2014 17:02
- Hits: 1689
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “ แกว่งตัว ”
SET สัปดาห์ก่อนแกว่งตัวผันผวน เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นรวมถึงความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในการประชุมวันที่ 16 – 17 ก.ย. ส่งผลให้ภาวะตลาดโดยรวมเป็นการซื้อเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง – เล็ก ก่อนที่ SET จะปิดที่ 1,581.36 จุด (+0.49 จุด) vol 5.1 หมื่นลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) BOT ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวในลักษณะวีเชฟ ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว คาดเริ่มเห็นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาส 3 ปีนี้ ขณะที่ดัชนีการอุปโภคบริโภคเอกชนเป็นบวกครั้งแรกรอบ 11 เดือน
(+) Fund Flow ต่างชาติไหลกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง โดยมี Net Buy 800 ล้านบาท หลังการ Net Sell 2 วันติดต่อกันก่อนหน้า
(-) ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการคาดหมายการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED กดดันบรรยากาศการลงทุน
(-) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลัง IEA ปรับลดคาดการณ์ Demand โลกในปี 58 ลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาที่ 93.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
(-) ความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 58 ว่าอาจไม่สามารถขยายตัวได้ตามเป้า จากการปฎิรูปโครงสร้างประเทศ รวมไปถึงการรายงานตัวเลขการผลิตอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคมที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาด
(+/-) “สวนดุสิตโพล" สำรวจประชาชน 84% ในการยุติการเคลื่อนไหว ชุมนุม และ 43% มีความพึงพอใจต่อการสร้างความปรองดอง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประชุม FOMC ในช่วงกลางสัปดาห์ ติดตามประเด็นแนวโน้มดอกเบี้ยว่าจะมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นหรือไม่ จากที่มีการคาดหมายว่า FED จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในกลางปีหน้า
การประชุมกนง.ในวันที่ 17 กันยายนคาดหมายการคงอัตราดอกเบี้ย ติดตามประเด็นเศรษฐกิจว่ากนง.จะปรับลดการคาดการณ์ GDP หรือไม่ จากเดิมที่ประเมินการขยายตัวที่ 1.5% และ 5.5% ในปี 57 และ 58
กลยุทธ์การลงทุน “มีแรงกดดันมากขึ้น”
ประเมินแนวโน้มดัชนีมีโอกาสผันผวนต่อระหว่างวันและมีโอกาสปิดปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐก่อนการประชุม FOMC ในช่วงกลางสัปดาห์จากเดิมที่มีการคาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอ้างอิงในช่วงกลางปีหน้า พร้อมแนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัว ด้านในประเทศภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาล และครม. ชุดใหม่ รอความชัดเจนในเรื่องของการดำเนินนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นการลงทุนเป็นรายตัวมากขึ้นในช่วงนี้ เน้น สื่อสาร ก่อสร้าง ท่องเที่ยว
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
KTB : ราคาปิด 23.50 บาท ราคาพื้นฐาน 28 บาท/หุ้น
คาดกำไร 2014 ที่ 3.5 หมื่นลบ.(+3%YoY) จากสินเชื่อที่ขยายตัวขึ้นราว 8% QoQ นำโดยสินเชื่อ Corporate และ SME รวมทั้งโครงการภาครัฐที่กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง
ราคาหุ้น laggard P/E 9.6 เท่า , P/BV 1.6 เท่า ต่ากว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคาร และ yield 4%
JAS : ราคาปิด 7.15 บาท ราคาพื้นฐาน 11.25 บาท
คาดกำไรปี 57 ที่ 3.6 พันลบ. (+22%yoy) เติบโตขึ้นตามธุรกิจ Broadband รวมถึงความต้องการใช้งานด้าน data จาก Smartphone และ Social media สูงขึ้น
ซื้อหุ้นคืนวงเงิน 1 พันลบ. เริ่มตั้งแต่ 25 มิ.ย.
คาดเดินหน้าตั้งกองทุน IFF ขนาด 7 หมื่นลบ.ต่อไป
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ