- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 31 July 2018 16:49
- Hits: 10974
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> AP, BDMS, PTTEP
Stock S R Comment
AP 8.95 9.20 คาดกำไร 2Q61 พีคสุด ยอดโอนแนวราบ New High
BDMS 26.50 28.25 เข้าฤดูฝน พายุเข้า High Season โรงพยาบาล
PTTEP 136.00 141.00 คาดไตรมาส 3 โตแรง แรงหนุนส่วนเพิ่มบงกช
Fund flow, PTTEP, BoJ, BANK
Fund flow : มีสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่อง โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ถึง 8 พันล้านบาท ถือเป็นยอดสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน สอดคล้องกับธุรกรรมในตลาดหุ้นที่กลับมาซื้อสุทธิกว่า 2 พันล้านบาท และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ SET Index สามารถกลับมาปิดยืนเหนือระดับ 1700 จุดได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Oil : ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหนุนได้แก่ ความกังวลต่อระดับอุปทานในตลาดที่อาจะได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน มองเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มพลังงานและ SET Index ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ โดยในกลุ่มพลังงาน ณ ขณะนี้ เรายังคงชื่นชอบ PTTEP และ TOP ในฐานะที่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังคง Laggard ตลาดในรอบนี้ พร้อมทั้งคาดมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอีกด้วย (PTTEP ประกาศจ่ายแล้วที่ระดับ 1.75 บาท) แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 144 และ 101 บาทตามลำดับ
PTTEP : เราออกบทวิเคราะห์วันนี้ แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 144 บาท (เดิม 125 บาท) โดยมีการปรับสมมติฐานในส่วนของราคาน้ำมันดิบปีนี้และปีหน้า รวมถึงสัดส่วนในบงกชที่เพิ่มขึ้น สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/61 ที่ออกมานั้น ถึงแม้กำไรสุทธิจะร้อยกว่าที่เราคาด แต่หากดูกำไรปกติจะพบว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดีและมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ประเมินไตรมาส 3 กำไรสุทธิจะปรับตัวดีขึ้นมายืนอยู่ในระดับ 14,000 ล้านบาทได้
Factors : ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) การประชุม BoJ ซึ่งจะทราบผลในวันนี้ ล่าสุดหากดูจาก Bond yield ญี่ปุ่นที่ปรับขึ้นมา บ่งชี้ว่าเริ่มมีนักลงทุนบางส่วนคาดการณ์การส่งสัญญาณในเชิง Hawkish มากขึ้น แต่หากไม่เกิดขึ้นจริง มองมีโอกาสที่ Bond yield จะย่อตัวลงมาได้ และจะส่งผลบวกต่อ Fund flow ทางอ้อม
2) การครบกำหนดชำระหนี้ของอิตาลีก้อนใหญ่ที่สุดของปีในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ แนะนำจับตาท่าทีของบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หากมีการออกมาลดอันดับ Credit rating ของอิตาลีลง มองจะเป็นปัจจัยสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้
กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำนักลงทุนที่สะสมหุ้นไปตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมตามที่เราแนะนำถือหุ้น Let profit run ต่อไปได้ แต่เนื่องด้วย Valuation ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามมาด้วยนั้น ทำให้เรามองว่าจะต้องกำหนดจุดขายทำกำไรที่ชัดเจน โดยหากดัชนีปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับแนวต้านแรกที่ 1720 จุด แนะนำให้ขายทำกำไรออกมาส่วนหนึ่ง และหากดัชนีปรับตัวขึ้นต่อไปยังบริเวณ 1750 จุด มองว่าจำเป็นที่จะต้องขายหุ้นออกมาและถือเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Laggard : สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าลงทุนใหม่ ณ เวลานี้ มองว่าจำเป็นที่จะต้องโฟกัสไปยังหุ้นขนาดใหญ่ (SET50) ที่ยังปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดในเดือนนี้ และเป็นหุ้นที่เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ในเชิงพื้นฐาน ซึ่งได้แก่ TISCO, PTTEP, TMB, RATCH, CPALL, BBL, TU, TOP ทั้งนี้ จะเห็นว่ามีกลุ่มธนาคารติดโผรายชื่อถึง 3 ตัว ซึ่งในเชิงเทคนิคนั้น ราคาหุ้นกลุ่มนี้เริ่มมีความน่าสนใจภายหลังจากปรับตัวขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แนวรับ 1,685 แนวต้าน 1,711
บทวิเคราะห์วันนี้ :
PTTEP (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 144 บาท) กำไรสุทธิเหลือ 3,590 ล้านบาท ผลกระทบเงินบาที่อ่อนค่า
Today's Event :
DTAC XD 1.01 บาท
CHUO XR 10.1:1 @ 0.40 บาท
SPALI ลูกหุ้นเข้า 176,901,945 หุ้น
TSI ลูกหุ้นเข้า 22,425 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO11892