- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 24 July 2018 18:01
- Hits: 2503
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> BDMS, COM7, LPN
Stock S R Comment
BDMS 26.00 27.50 จับมือประกัน เพิ่มยอดฐานผู้ป่วยกลุ่มใหม่
COM7 17.50 18.00 สินค้า Apple ทยอยเปิดตัวใหม่ หนุนยอดขาย 2H61 แกร่ง
LPN 10.40 11.00 ยอดขายบ้าน 365 1.6 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 50% ของโครงการ หนุนยอดโอนปี 2561
Trigger fund, JPY yield
Fund flow : เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยเกิน 1 พันล้านบาทเป็น วันแรก นับตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี แรงส่งจากนักลงทุนสถาบันในประเทศเริ่มชะลอลง หลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว โดยจากการตรวจสอบของเราล่าสุด พบว่ามีกองทุน Trigger fund 1 กองทุนที่เปิดขายไปในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีระดับ NAV ที่เข้าใกล้เป้าหมายแล้ว (ขาดไปเพียง 0.15%) หาก NAV ของกองทุนนี้ปรับตัวถึงเป้าหมายเมื่อไหร่ คาดจะมีแรงขายออกมาในระดับ 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนนี้ล่าสุด
JPY Yield : Bond yield อายุ 10 ปีของญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มกรคมที่ผ่านมา (ดูรูป) สะท้อนความคิดของตลาดที่มองว่า BoJ อาจเริ่มส่งสัญญาณนโยบายการเงินที่ Hawkish มากขึ้น ในการประชุมวันที่ 30-31 กรกฎาคมนี้
มุมมองของเรา: มองเป็นปัจจัยลบเล็กๆต่อกระแส Fund flow ในตลาดทุนไทย โดยเฉพาะ Flow ในตลาดตราสารหนี้ที่อาจมีการไหลออกชั่วคราวกลับไปยังญี่ปุ่นที่มีอัตราผลตอบแทนที่น่าจูงใจมากขึ้น ล่าสุดเงินบาทเริ่มอ่อนค่าอีกครั้งในเช้าวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น
Yield gap : และแน่นอน หาก Flow มีการไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ของไทยต่อ มีโอกาสที่จะทำให้ Bond yield ของไทยปรับตัวสูงขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความน่าสนใจของตลาดหุ้นให้ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ สะท้อนผ่าน Earning yield gap ที่ลดลงนั่นเอง มองจุดทริกเกอร์ที่อาจต้องระมัดระวังในช่วงถัดไปได้แก่ Bond yield 10 ปีของไทยที่ระดับ 3.0%
กลยุทธ์การลงทุน : SET Index ปรับตัวรีบาวด์ทะลุ 1650 จุดภายหลังกลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/61 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดีคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะไม่ทำให้ประมาณการ EPS ของ SET Index ถูกปรับขึ้นอย่างมีนัย ด้วยเหตุนี้ ดัชนีที่ปรับตัวขึ้นมานี้ จึงตามมาด้วย Valuation ที่แพงขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์เรายังคงไม่แนะนำให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าเก็งกำไรในตลาดช่วงนี้ อย่างไรก็ดี จาก Valuation ของตลาดหุ้นไทยที่ถือว่ายังไม่ได้อยู่ในบริเวณที่ตึงตัว จึงแนะนำนักลงทุนระยะกลาง-ยาวสามารถถือหุ้นต่อไปได้ จนกว่าดัชนีจะปรับตัวถึงระดับ 1700 จุด ซึ่งเป็นกรณีดีที่สุดที่เราประเมินไว้ของเดือนนี้
Laggard : สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าลงทุนใหม่ ณ เวลานี้ มองว่าจำเป็นที่จะต้องโฟกัสไปยังหุ้นขนาดใหญ่ (SET50) ที่ยังปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดในเดือนนี้ และเป็นหุ้นที่เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ในเชิงพื้นฐาน ซึ่งได้แก่ TISCO, PTTEP, TMB, TU, LH, CPALL, BBL, SCC (เรียงตามลำดับความ Laggard)
แนวรับ 1,667 แนวต้าน 1,690
Today's Event :
NVD-W1 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (276.1mn sh 1:1 @ Bt8.00)
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO11697