บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 24-07-18

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Tuesday, 24 July 2018 17:22; Hits: 1208

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้

เก็งกำไรหุ้นขนาดกลางต่อผลการดำเนินงาน 2Q61 ที่คาดว่าเด่น

Smart Pick

เก็งกำไร IVL

ราคาปิด 59.75 บาท

ราคาเหมาะสม 84.00 บาท

เราคาดกำไรปกติ 2Q61 จะทำ New High ที่ 7.2 พันล้านบาท +100% YoY และ +37% QoQ จาก PET Spread ที่ทำระดับสูงสุดใหม่ หากกำไรออกมาใกล้กับคาด คิดเป็น 53% ของประมาณการของเราและ 55% ของ Consensus มีโอกาส Upgrade หลังรายงานงบ 2Q61

แนวโน้มกำไร 3Q61 ลุ้นทำ New High รายไตรมาสอีกครั้ง จากภาวะอุปทานตึงตัว เนื่องจากโรงงาน Alpek ในเม็กซิโกกำลังการผลิต PTA 1.0 ล้านตัน เกิดเหตุไฟไหม้ช่วยหนุน Spread ต่อเนื่อง

เก็งกำไร BDMS

ราคาปิด 26.50 บาท

ราคาเหมาะสม 31.40 บาท

เราคาดกำไรปกติ 2Q61 โตถึง 32% YoY ที่ 2.1 พันล้านบาท จากแรงหนุนของฤดูฝนที่มาเร็วกว่าคาด ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยเงินสดเพิ่มขึ้น ด้านผู้ป่วยต่างชาติในกลุ่มเอเชียยังโตได้ดี เช่น จีน, ญี่ปุ่น ทำให้ Occupancy Rate เพิ่มเป็น 66% จาก 2Q60 ที่ 58% และหนุน EBITDA Margin ขยายตัว

ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายระดับ PER2561 ที่ 36.7x เป็นระดับ -0.5SD ย้อนหลัง 5 ปี และคาดกำไรปกติปี 2561 โตสูงสุดในกลุ่มถึง +39.5% YoY เป็น 1.1 หมื่นล้านบาท

เก็งกำไร BJC

ราคาปิด 55.00 บาท

ราคาเหมาะสม 72.00 บาท

หากราคาหุ้นปรับตัวผ่าน 56.00 บาทได้ จะเป็นสัญญาณบวกทางเทคนิค เพื่อขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 57.50-58.00 บาท

ปัจจัยหนุนระยะสั้น คือ กำไรปกติ 2Q61 คาดเติบโต +34% YoY เป็น 1.3 พันล้านบาท ขยายตัวสูงสุดในหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่อยู่ใน Coverage ของเรา เทียบกับกำไร 2Q61 ของกลุ่มเติบโต +17% YoY ขณะที่ Valuation น่าสนใจที่ระดับ PBV2561 เพียง 2.0 เท่า ต่ำกว่า CPALL และ HMPRO ที่ 7.6 เท่า และ 8.5 เท่าตามลำดับ

เก็งกำไร ROBINS

ราคาปิด 60.00 บาท

แนวต้านทางเทคนิค 62.00 บาท

สัญญาณทางเทคนิค ราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 62.00 บาท แนวรับ 59.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 58.50 บาท

ROBINS เป็นหุ้นค้าปลีกที่ Valuation ค่อนข้างถูก ซื้อขาย PER2561 เพียง 21.2 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 30.0 เท่า และกำไรปกติ 2Q61 คาดเติบโต +14% YoY เป็น 688 ล้านบาทมีการเติบโตของกำไรที่ต่อเนื่อง

Pair Trade : N.A.

กลยุทธ์วันนี้

เราประเมินว่า ยิ่งสหรัฐฯ มีความเสี่ยงเชิงนโยบายมากขึ้นเท่าไร เม็ดเงินทุนต่างชาติจะไหลเข้าตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่มากขึ้นเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากกระแสเงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ (Emerging Markets) เป็นวันที่ 4 โดยซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2

อย่างไรก็ตามช่วงปลายสัปดาห์นี้เป็นวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย และแนวต้าน 1680-1700 จุดเชื่อว่าจะเป็นกรอบที่เกิดแรงขายทำกำไรมากขึ้น ทำให้เรามองว่าภาวการณ์ลงทุนในช่วง 3 วันทำการจากนี้จะเกิด Sector Rotation ไปยังกลุ่ม Domestic อื่นๆ อย่างกลุ่มค้าปลีก / กลุ่มอสังหาฯ / กลุ่ม ICT ที่พักฐานมาก่อนหน้านี้ และ/หรือเกิด Stock Rotation จากหุ้นขนาดใหญ่ไปยังหุ้นขนาดกลางที่มีความเป็น Laggard ทำให้ downside risk ของ SET INDEX โดยรวมจำกัด

สำหรับบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจวันนี้ (1) IVL เราคาดกำไรปกติ 2Q61 เติบโตแข็งแกร่ง 37% QoQ, 100% YoY ทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาส (2) BDMS เราคาดกำไรปกติขยายตัวเด่นถึง 32% YoY หนุนด้วยฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติ รวมถึง จำนวนผู้ป่วยต่างชาติเติบโตดี ส่งผลให้ Occupancy Rate เพิ่มขึ้นจาก 58% ใน 2Q60 เป็น 66% ใน 2Q61 และ (3) SIRI เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อเก็งกำไร" ต่อกลยุทธ์ธุรกิจและยอด Presales ใน 1H61 ที่ทำได้ดีกว่าคาด กำไรผ่านจุดต่ำสุดในรอบปีนี้ไปแล้วกับ 1Q61

ภาพรวมเชิงกลยุทธ์ เราคงแนะนำให้ทยอยขายทำกำไรหุ้นหลักของกลุ่มบริเวณ 1680-1700 จุด และหมุนเข้าเก็งกำไรต่อหุ้นขนาดกลางที่ผลการดำเนินงานใน 2Q61 ขยายตัวเด่นแต่ราคาหุ้นยังฟื้นตัวได้จำกัด

HOT Topic

1. SET Index เข้าใกล้ 1680 จุดซึ่งเป็นเป้าหมายเดือน ก.ค.ของเราแล้ว นักลงทุนควรปรับกลยุทธ์อย่างไร

2. Preview งบ 2Q61 ของ IVL, BDMS, SIRI หุ้นตัวใดงบจะออกมาสวย?

3. เช้านี้เราปรับเพิ่มเป้าหมายหุ้นกลุ่มธนาคารอีก 1 ตัว เป็นหุ้นตัวใด

4. ต่างชาติซื้อสุทธิวันที่ 2 ติดต่อกัน เรามองทิศทางกระแสเงินทุนอย่างไร

ตลาดหุ้นไทยวานนี้

วานนี้ SET INDEX ปิดบวกเป็นวันที่ 4 อีก 4.69 จุด ปิดที่ 1675.75 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4.9 หมื่นล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนหลักจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง BBL (+2.28%), PTTGC (+2.21%), BDMS (+1.92%), KBANK (+1.43%) และ TOP (+4.40%) มีผลต่อดัชนีราว 3.82 จุด

กระแสเงินทุน : นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิหนาแน่นมากขึ้นอีกราว 1.6 พันล้านบาท และมีสถานะ Long สุทธิ ในตลาด SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีกราว 5.3 พันสัญญา รวม 4 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิราว 4.1 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 7.2 หมื่นสัญญา โดย S50U18 มี Discount จาก SET50 อยู่ที่ 8.93 จุด แต่ยังคงขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีกราว 457 ล้านบาท รวม 4 วันทำการขายสุทธิราว 7.9 พันล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศขายสุทธิเล็กน้อยเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการราว 418 ล้านบาท และนักลงทุนกลุ่มสถาบันในประเทศ และบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิในตลาด SET50 Index Futures เป็นวันที่ 5 เพียง 27 สัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 1.6 หมื่นสัญญา

ปัจจัยสำคัญวันนี้

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตือนอิหร่านว่าอย่าข่มขู่สหรัฐฯอีก มิเช่นนั้นจะต้องได้รับผลกระทบในระดับที่รุนแรงมาก หลังอิหร่านขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุช ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญในการขนส่งน้ำมันดิบ หากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯกระทบต่อการส่งออกอิหร่าน

USTR ของสหรัฐฯ ประกาศทำประชาพิจารณ์กรณีเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 1.6 หมื่นล้านเหรียญฯ ระหว่างวันที่ 24 - 25 ก.ค.

คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) เผยการเดินทางเข้าพบประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ จะไม่มีการยื่นข้อเสนอทางการค้าใดๆเป็นพิเศษ

ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบธนาคารจำนวน 7.43 หมื่นล้านเหรียญฯ ผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (Medium-term Lending Facility) วานนี้

จีนเผยไม่มีแผนลดค่าเงินเพื่อช่วยกระตุ้นการส่งออก โดยค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าเกิดจากกลไกของตลาด

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นออกมาต่อต้านนโยบายขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่สหรัฐฯ อยู่ระหว่างพิจารณาเรียกเก็บ

ผู้ว่าการรถไฟไทย เผยเตรียมยื่นโครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เข้าที่ประชุม ครม. ในวันที่ 31 ก.ค. นี้

ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 26 ก.ค.

ติดตามการประกาศ GDP ใน 2Q61 (รอบแรก) ของสหรัฐฯ วันที่ 27 ก.ค. ตลาดคาดขยายตัว 4.0%

ติดตามการเจรจาระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยกับสหรัฐฯ กรณีการยกเว้นเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม ระหว่างวันที่ 24-27 ก.ค.

Strategist Team

Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050

Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060