- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 July 2018 17:42
- Hits: 1599
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Selective Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “สร้างฐาน” ต้าน 1679/1683จุด รับ 1663/1655จุด ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าต่อเนื่อง รับ Trump ไม่เห็นด้วยที่ FED จะปรับขึนดอกเบี้ย ผลักดันให้ค่าเงินเอเชียมีเสถียรภาพมากขึ้น หนุน Fund Flows ไหลเข้าเอเชีย 3 วันติดต่อกัน รวม 465ล้านเหรียญ โดยซื้อสุทธิในไทยวันแรกที่ 29ล้านเหรียญ หลังขาย 2 วันติด ผสาน Long future 3 วันติดต่อกัน รวม 35,705 สัญญา เพิ่ม Sentiment บวกต่อไทย ทั้งนี้ ประเด็นสงครามการค้าอาจกดดันตลาด หลัง Trump จะเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มอีก 5แสนล้านดอลล่าร์ จึงต้องจับตาท่าทีจากจีนเพิ่มเติม วันนี้แนะ Theme “Selective Play” : BBL, CPALL, BH
Nomura : Key Factors
(+) Currency: ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่องสู่ 94.26จุด หนุนค่าเงินเอเชียมีเสถียรภาพ
(+) US: Trump คัดค้านการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED สะท้อนว่าไม่ต้องการเร่งขึ้นดอกเบี้ย
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.44% สู่ $70.46/bbl / BRT +0.68% สู่ $73.07/bbl
(+) Flows: ต่างชาติซื้อสุทธิในไทย 29.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการซื้อสุทธิวันแรกหลังจากขาย 2 วันติดต่อกัน รวมถึง Long Future 3 วันติดต่อกัน รวม 35,705 สัญญา
(+) TH: ตัวเลขส่งออกไทยเดือนมิ.ย.โต +8.19% รับอานิสงค์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
(*) Fund Flow:ล่าสุดซื้อหุ้น+979ลบ,Long Future +11,087สัญญา,ขายBond-4,789ลบ
(-) US: ปธน. Trump จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์
Nomura Daily Top Picks: BBL, CPALL, BH
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “สร้างฐาน” ต้าน 1679/1683จุด รับ 1663/1655จุด ค่าเงินดอลล่าร์ยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 94.26 จุด หลังจากที่ปธน. Donald Trump ไม่เห็นด้วยกับการที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากกังวลว่าจะกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวผลักดันให้ค่าเงินเอเชียมีเสถียรภาพมากขึ้น หนุนทิศทาง Fund Flows ไหลเข้าสู่เอเชีย 3 วันติดต่อกัน มูลค่ารวม 465 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยสำหรับไทย ต่างชาติซื้อสุทธิ 29.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการซื้อสุทธิวันแรกหลังจากขาย 2 วันติดต่อกัน รวมถึง Long Future 3 วันติดต่อกัน รวม 35,705 สัญญา นอกจากนี้ ไทยยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากปัจจัยพื้นฐาน โดยตัวเลขส่งออกไทยเดือนมิ.ย.ขยายตัว +8.19% รับอานิสงค์สงครามการค้า ดันมูลค่าส่งออกไปยังสหรัฐฯสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กว่า 2 หมื่นล้านเหรียญ ในกลุ่มเหล็กและไอที ทดแทนสินค้าจีน เพิ่ม Sentiment บวกต่อการลงทุนในไทย ทั้งนี้ ตลาดอาจได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกจากประเด็นสงครามการค้า หลังปธน. Donald Trump จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ หากมีความจำเป็น จึงต้องจับตาท่าทีจากจีนเพิ่มเติม
Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, ROBINS CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD, ERW, BH, AOT, ERW และ Global Play (PTT, IVL) วันนี้เน้น “Selective Play”
กระทรวงการคลังเตรียมเสนอครม.พักชำระหนี้เงินต้นลูกหนี้ชั้นดี 3ล้านคน วงเงิน 3แสนล้านบาท 3ปี หนุนการบริโภค CPALL, ROBINS เด่น
กลุ่มธนาคาร 8บริษัท กำไร 4.4หมื่นล้านบาท ดีกว่าคาด 10.2% หนุน KBANK, BBL
ราคาน้ำมันดิบ BRENT อยู่ในแนวโน้มแกว่งขึ้น PTT, PTTGC, PTTEP นำตลาด
ททท ปรับเป้ารายได้การท่องเที่ยวปี 2019 ขึ้นจาก 10% เป็น 12% AOT, ERW
Thailand Future Fund 4.5หมื่นล้านบาท กำลังจะเข้าเทรด 1 ตค หนุนแผนลงทุนรัฐฯ เน้น STEC, CK, PYLON, SEAFCO
กลุ่มรพ เริ่มได้ประโยชนืจากช่วง Seasonal แนะนำ BCH, BH, BDMS เด่น
Spread PTA-0.67*PX ทำจุดสูงสุดใหม่ใน 6 ปี ที่ 216.9เหรียญฯ บวกต่อ IVL(TP66)
BRI Play : ภาครัฐย้ำ EEC จะเป็น Engine growth สำคัญผลักดันไทยไปสู่ Valued driven economy และจะเร่งโครงการเร่งด่วน EEC 6.8 แสนลบ.ให้จบทัน 1Q19FและHispeed เชื่อมโยง 3 สนามบิน น่าจะประมูลปลายปีนี้ หนุน BANK(BBL, KBANK),รับเหมา(CK, STEC PYLON, SEAFCO), นิคม(AMATA, WHA)
ICT : กสทช แบ่งคลื่น 4G เพื่อให้เหมาะในการประมูล บวกต่อ ADVANC DTAC
Portfolio Top Picks JULY 2018 แนะนำ AMATA, BBL, CPALL, IVL, STEC, ROBINS, ERW
2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD
Investment Theme:
2Q18 Theme Domestic : Scent of Election & Domestic Confidence
Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA, IVL, IRPC, BH, MONO
1) Consumer & Farm Income Related : CPALL, ROBINS, GLOBAL, MONO, JUBILE, SNC
2) Investment Related : KBANK, BBL, TMB, TOA, SCC, GLOBAL, HMPRO, STEC, CK, PYLON
3) Property : GOLD, LH, AP, SIRI, SC, BLAND
4) Tourism Internal & External Support : BH, BDMS, AOT, ERW, BTS
5) Global Play : IVL, IRPC and eye on PTL, AJ
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
BBL (TP18F 244*) : Support 195.5/192.5 Resistant 201/203
Theme: Domestic Play
Earnings Outlook: กำไรสุทธิ 2Q18 +14% y-y จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยตามสินเชื่อที่โตเด่น +3.1% YTD ในขณะที่ NPL ลดลง ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียม กำไรจาก trading and fx และกำไรจากเงินลงทุนที่ดีกว่าคาด นอกจากนี้คาดว่ากำไรจะเติบโต y-y ได้ในทุกไตรมาสที่เหลือ
Valuation: ราคาหุ้นกลุ่ม BANK ที่ YTD -10% vs SET -5% ถือว่าสะท้อนปัจจัยกดดันไปมากแล้ว มองเป็นจุดซื้อที่มี Downside ต่ำหวัง Rebound โดย BBL มีผลกระทบจากการลดค่าธรรมเนียมน้อยสุดและมี PBV18F เพียง 0.92x (ค่าเฉลี่ย – 0.5 SD) และต่ำกว่ากลุ่มมาก (1.4x)
Catalyst: กำไรสุทธิดีกว่าเราและตลาดคาด + มองกลุ่ม Bank เป็นกลุ่มที่สามารถนำตลาดได้จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น หลังตลาดตอบสนองผลจากการลดค่าธรรมเนียมแรงเกินไป แต่ผลการดำเนินงานยังออกมาดี + ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเอื้อประโยชน์ต่ออัตรากำไรกลุ่มฯ
CPALL (TP18F 102*): Support 74.25/73.5 Resistant 76.0/77.5
Theme: Domestic Play
Earnings Outlook: คาดกำไรสุทธิ 2Q18F โต +14%y-y จากทิศทางธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ที่ยังเติบโตดี โดยSSSG คาด +3.5% ประกอบกับยังคงเปิดสาขาเพิ่มต่อเนื่องคาดเป็น 10,733 แห่ง ณ สิ้น 2Q18F จากโมเดลธุรกิจแข็งแกร่ง สาขาครอบคลุม คืนทุนไว + เน้นด้านอาหาร ซึ่งมั่นคงและ Margin สูง
Valuation: ราคาหุ้นที่ปรับลงมา 15% ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาตามกลุ่ม Big cap และเม็ดเงินต่างชาติที่ขายหนัก ขณะที่เชิงพื้นฐานยังเติบโตดี 20%y-y เรามองเป็นจุดเข้าลงทุนที่ดี ซื้อขาย PER18F 28x เท่า ยังต่ำกว่าช่วงพีคที่เคยสูง 35x และเป็น Big cap ที่ยังเติบโตดี
Catalyst: ธกส.มีแนวโน้มพักชำระหนี้และลดดอกเบี้ยกลุ่มเกษตร (วงเงินที่เป็นหนี้ 3 แสนลบ.) หนุนกำลังซื้อกลุ่มรากหญ้า + นักลงทุนต่างชาติชะลอแรงขายและกลับมาซื้อครั้งแรก + ภาพระยะกลาง ยาว โมเดลร้าน 7-eleven ต่อยอดสู่ Banking agent และE-commerce (Last-mile delivery) หนุนภาพการเติบโต
BH (TP18F 225*) : Support 176/174 Resistant 182/186
Theme: Domestic Play
Earnings Outlook: ชื่อเสียงของรพ.ที่จะดึงดูดทั้งผู้ป่วยและแพทย์มือดี ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่รักษาความสามารถในการแข่งขันระยะยาว และยังมีราคาถูกกว่าการรักษาในต่างประเทศ โดยแนวโน้ม 2Q18F คาดกำไรราว 980 ล้านบาท (+2%y-y -9%q-q) จากผู้ป่วยไทยที่ยังเพิ่มขึ้น ชดเชยช่วง Low season ของกลุ่มตะวันออกกลาง และคาดกลับมาเติบโต y-y และ q-q ใน 3Q18F จาก High season
Valuation: แม้การเติบโตปีนี้จะอ่อนแอกว่ากลุ่ม แต่ราคาหุ้นถือว่าตอบรับไปมากแล้ว Laggard กลุ่มมาก โดย YTD กลุ่ม +9% vs BH -6% มองเป็นจุดทยอยซื้อที่ดีอีกครั้ง และมี Valuation Discount มี PER 18F อยู่ที่ 32x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 36x upside เปิดกว้าง 26% ในขณะที่พื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นรพ.พรีเมียร์ที่เน้นรักษาโรครุนแรง มี GPM, EBITDA margin สูงสุดในกลุ่ม รพ.
Catalyst: เข้าสู่ช่วงฤดูฝนเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มร.พ. + คาด 3Q18F เป็นไตรมาสดีสุดของปี
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO11611