- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 July 2018 17:00
- Hits: 1122
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นเด่น นำโดยแรงซื้อกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, BBL, SCB ภายหลังรายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด และในระหว่างชั่วโมงการซื้ขายมีแรงซื้อในกลุ่มปิโตรอย่าง PTTGC, IVL และกลุ่มอาหารอย่าง TU, CPF, CBG, TKN อย่างไรก็ตามมีแรงขายต่อเนื่องใน TMB, CPALL ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,671.0 จุด (+24.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.2 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยที่ 979 ล้านบาท (สถาบันซื้อสูงกว่า 4,637 ล้านบาท) และคงสถานะ Long SET50 index future ที่ 11,087 สัญญา
Investment theme
สัปดาห์นี้คาด Upside จำกัด (1,680+/-) แนะจับตา Yuan : กลุ่มธนาคาร ( 8 ธนาคารภายใต้ coverage) รายงานผลประกอบการรวมกำไร 2Q18 สูงกว่าเราและตลาดคาด 14-15% ที่ 4.62 หมื่นล้านบาท (+19%YoY, +2%QoQ) นำโดย KBANK, KTB, BBL สนับสนุนจากการเติบโตของสินเชื่อ (Loan growth%) ที่สูงกว่าคาด โดยเราประเมินว่ามีโอกาสที่นักวิเคราะห์ในตลาดจะปรับเป้าหมายกำไรปีนี้ขึ้น ในขณะที่เรามองว่าภาพรวมครึ่งปีหลัง กลุ่มธนาคารจะเติบโตต่อเนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจสะท้อนภาพการเติบโตของสินเชื่อระดับ 7-8% (บริษัทขนาดใหญ่เริ่มหันมาใช้สินเชื่อแทนการออกพันธบัตร โดยเฉพาะ KTB) ในขณะที่เราแนะนักลงทุนติดตามค่าเงินหยวนอย่างใกล้ชิด เพราะการอ่อนค่าของหยวนถือเป็นการลดความสามารถในการแข่งขันของหลายประเทศในเอเชียรวมถึงไทยลง ล่าสุดทำระดับสูงสุดในรอบ 12 เดือนที่ 6.75หยวน/ดอลลาร์ (+7.4% ภายหลังเริ่มมีการพูดคุยเรื่องสงครามการค้าในช่วงต้นไตรมาสสองที่ผ่านมา) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ จนทำให้ภาคธนาคารกำลังเร่งหาวิธีลดดอกเบี้ย ต่างๆ เพื่อกระตุ้นการลงทุนในประเทศ และอาจเกิดจากการลดความเสี่ยงของผลกระทบคู่ค้าอย่างสหรัฐ ในระยะกลาง การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน อาจส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาต่อการลงทุนใน EM
Investment Theme: สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ1,650-1,680 จุด มี Sentiment ที่ดีจากการรายงานผลประกอบการธนาคารที่ดีกว่าคาด สะท้อนมุมมองบวกต่อการลงทุนในกลุ่ม Domestic นำโดย กลุ่มธนาคาร BBL, TISCO กลุ่มค้าปลีก BJC ก่อสร้าง (CK, STEC) และจับตาการ Preview และรายงานผลประกอบการของ 2 หุ้นใหญ่อย่าง SCC, PTTEP
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ADB ปรับเพิ่ม GDP ประเทศไทยปีนี้โต 4.2% (จากเดิมที่ 4.0%) / พาณิชย์รายงานส่งออกเดือน มิ.ย.ขยายตัว 8.19% เกินดุล 1.57 พันล้านเหรียญสหรัฐ รวม 6 เดือน ส่งออกเติบโต 10.95% / Trump ขู่พร้อมปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงกว่า 5.0 แสนล้านเหรียญ / Dollar ปรับลงเหลือ 94.2
Stock pick : PTTGC
PTTGC : PER 7.9x , ปันผล 6% แนะซื้อราคา 116.0 บาท/หุ้น
PTTGC ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่เข้า Theme การลงทุนของเราช่วงนี้กล่าวคือ กำไรดี, จ่ายปันผลระหว่างกาล และราคาถูก โดยเราคาดกำไรสุทธิ 2Q18 เติบโตดีกว่า +90%YoY ที่ 1.25หมื่นล้านบาท สนับสนุนจากกำไรจากธุรกิจ Olefins (HDPE ราคาเฉลี่ย 1,380เหรียญ/ตัน), Butadiene ที่คาดปรับขึ้น 15%QoQ
ปัจจุบัน PTTGC ซื้อขายบน PER ต่ำเพียง 7.9เท่า (ต่ำกว่า -1S.D. เฉลี่ย PER 5 ปีย้อนหลัง) ใกล้เคียงกับ Dividend yield ที่สูงกว่า 6% ซึ่งจะมีการจ่ายระหว่างกาล คาดขึ้นเครื่องหมายในเดือนสิงหาคม 2.25บาท/หุ้น หรือคิดเป็นปันผล 3%
Trading idea – กลุ่มธนาคารรายงานงบดีกว่าคาดแนะซื้อ BBL 246.0 บาท / เก็งกำไร STEC 25.0 บาท คาดครึ่งปีหลังเด่น / เก็งกำไร BJC คาดผลประกอบการโตเด่น 26% YoY เมื่อเทียบกับกลุ่ม/ ทยอยสะสม BCP เราประเมิน Downside จำกัด / คงแนะนำขายกลุ่มท่องเที่ยว CENTEL, AOT, AAV
Technical View
ผ่าน 1650 ได้ Upside เปิด ลุ้นปิด Gap และทดสอบ 1700 : แรงซื้อหลักจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและพลังงาน ทำให้ดัชนี Break แนวต้าน 1650 ได้อย่างเด็ดขาด พร้อม MACD ที่เกิดสัญญาณซื้ออีกครั้ง ระยะสั้นภายในวันมองว่าดัชนีลุ้นปิด Gap ที่ 1680 ส่วนระยะกลางถึงยาวคาดลุ้นทดสอบแนวต้านโซน 1700-1710 (EMA200วัน) ฉะนั้นจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันมองว่ายังน่าสะสมตามแนวรับ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Let Profit Run โดยใช้จุด Lock Profit ที่ 1660 และพิจารณาแรงขายที่ Gap 1680 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันมองเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับ มองกรอบการ Trading 1660-1680
แนวรับ : 1650, 1660 แนวต้าน : 1680, 1700
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: สหรัฐ-จีนเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าอีก 1.6 หมื่นล้านเหรียญปลายเดือนนี้ / 25 ก.ค. สหรัฐ-ยุโรปเตรียมเจรจาปัญหาสงครามการค้า / 26 ก.ค. การประชุม ECB / 27 ก.ค. สหรัฐรายงาน GDP ไตรมาส2
ปัจจัยในประเทศ: SCC, PTTEP รายงานผลประกอบการสัปดาห์นี้
หุ้นเทคนิค:
PTT (B 49.50-50.50, Tp 53.00// 57.00, Cut 49.00)
KBANK (B 207.00, Tp 215.00, Cut 204.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO11602