WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRINIบล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
Today Selections  >>  BGRIM, HMPRO, ORI
Stock          S          R         Comment
BGRIM        24.80      25.75       ซื้อโรงไฟฟ้าเวียดนาม เพิ่มกำลังผลิตอีก 420 MW
HMPRO        14.10      14.60       จัด Homepro Fair ตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านบาท
ORI          17.30      18.15       คาด 2Q61 กำไรโตกว่า 200% พร้อมโอนอีก 4 โครงการใหม่ใน 2H61
No chasing
          BANK : 3 ธนาคารขนาดใหญ่ (KBANK, SCB, BBL) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/61 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดเฉลี่ย 14% แต่ส่วนใหญ่ที่ดีขึ้น มาจากรายได้อื่น อาทิเช่น กำไรจากการขายเงินลงทุน กำไรจาก FX และเงินปันผลรับ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ส่งผลให้เรามีการปรับประมาณการของกลุ่มขึ้นแต่อย่างใด แถมในทางกลับกัน มีการปรับลงในตัวของ SCB ด้วย จากแนวโน้มค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่น่าจะอยู่ในระดับสูงต่อไปในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งล่าสุดธนาคารได้แจ้งปรับเป้าหมาย Cost-to-income ratio ขึ้น ส่งผลให้ประมาณการกำไรของเราปีนี้ถูกปรับลงราว 4% จากประมาณการเดิม กล่าวโดยสรุป ผลประกอบการกลุ่มธนาคารที่ออกมานั้นเราคาดว่าจะไม่ทำให้ประมาณการ EPS ของ SET Index ในตลาดถูกปรับขึ้น ดังนั้นตัวช่วยที่เราคาดหวังว่าจะผลักดันดัชนีให้ทะลุระดับ 1650 จุดนั้นยังไม่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
          THB : เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าทำสถิติใหม่อีกครั้งที่ระดับ 33.45 บาท/ดอลลาร์ จากแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติทั้งในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง การอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงนี้ค่อนข้างสอดคล้องกับการอ่อนค่าของเงินหยวน ซึ่งมีปัจจัยกดดันล่าสุดได้แก่การที่ PBOC ปรับอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงให้อ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 2 ปีช่วงเช้าวันนี้ มองยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของ SET Index ที่สำคัญ ถึงแม้ว่าจะเห็นแรงซื้อสุทธิของนักลงทุนสถาบันปรากฏขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาก็ตาม
          กลยุทธ์การลงทุน: ด้วยเหตุนี้ในเชิงกลยุทธ์เรายังคงไม่แนะนำให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าเก็งกำไรในตลาดช่วงนี้ อย่างไรก็ดี จาก Valuation ของตลาดหุ้นไทยที่ถือว่าไม่ได้อยู่ในระดับที่ตึงตัวแล้ว จึงแนะนำนักลงทุนระยะกลาง-ยาวสามารถถือหุ้นต่อไปได้
          Commodity : อีกหนึ่งปัจจัยที่จำกัด Upside ของดัชนีในช่วงนี้ได้แก่การย่อตัวลงของราคาน้ำมัน ภายหลังเมื่อวันก่อนสหรัฐฯรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา นอกจากนั้นการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่เกิดขึ้นภายหลังจากคำกล่าวในเชิง Hawkish ของ Jerome Powell ประธาน Fed ทำให้ราคาโภคภัณฑ์โดยรวมถูกกดดันเช่นกัน ล่าสุดราคาทองคำปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1,218 เหรียญฯ/ออนซ์ ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน
          THB Yield : เรากำลังจับตาการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของไทย ณ ขณะนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่รุ่นอายุ 5 ปีขึ้นไปที่ล่าสุดทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง สอกคล้องกับแรงตอบรับจากการประมูลพันธบัตรในตลาดที่ตอนนี้เผชิญกับอุปสงค์ในระดับต่ำ ยกตัวอย่างเช่น การประมูลพันธบัตรธปท.รุ่น 3 ปีเมื่อวานนี้มีการตอบรับ Bid เพียง 3.5 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าวงเงินตั้งประมูลที่ 4.5 หมื่นล้านบาท และมี Bid-to-Cover ratio เพียงแค่ 0.78 เท่าเท่านั้น ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี
          มุมมองของเรา : การปรับตัวขึ้นมาของ Bond yield ไทยนี้ ประกอบกับดัชนี SET ที่ปรับตัวขึ้นมา ทำให้เราประเมินว่า ความน่าสนใจของการเข้าลงทุนใหม่ในตลาดหุ้น ณ วันนี้อาจเริ่มลดลง สะท้อนผ่านการปรับตัวลงของ Earning yield gap และ Dividend yield gap เมื่อเปรียบเทียบกับ Bond ไทยนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ในเชิงกลยุทธ์ หากจะต้องมีการเข้าลงทุนใหม่ ณ ปัจจุบัน มองว่าการเข้าซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว จะเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด
          แนวรับ  1,631  แนวต้าน 1,659
บทวิเคราะห์วันนี้
BBL (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 220 บาท) กำไร 2Q61 ใกล้เคียงคาด ค่าธรรมเนียมอ่อนตัว แต่สำรองหนี้ลด
SCB (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 147 บาท) กำไร 2Q61 ยังแกร่ง แม้รายได้ค่าธรรมเนียมลด
TMB (ซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเป้าหมาย 2.60 บาท) กำไร 2Q61 อ่อนตัว รายได้ค่าธรรมเนียมสะดุด
Today's Event
1DIV  XD 0.50 บาท
TMW  XD 2.55 บาท
BJC ลูกหุ้นเข้า 299,200 หุ้น
NPP ลูกหุ้นเข้า 400,000,000 หุ้น
          
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
          E-mail: [email protected]
OO11552

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!