- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 20 July 2018 00:16
- Hits: 6264
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Range bound
เมื่อวานหุ้น IRPC PTT PTTGC ดัน ดัชนีฯขึ้น ซึ่งผิดคาด เพราะเมื่อวาน เราคาดว่า ดัชนีฯ จะขึ้นด้วยหุ้นแบงก์ใหญ่ แต่ ตลาดเลือกซื้อหุ้นสถาบันการเงิน ที่ลงแรงก่อนหน้านี้ เช่น ECL KTC TISCO KTB และหุ้นเล็ก เช่น AU JKN UPA SPVI ฯลฯ บวกแรงกว่าดัชนีฯ
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ภาพรวมยังคงมีลุ้นดีดตัวขึ้นต่อ ตามกรอบระยะสัปดาห์ เพียงแต่การสลับกลุ่มเล่น (rotation) ดูเหมือนว่า ตลาดเลือกเล่นตัวที่ลงแรง ในช่วงที่ผ่านมาก่อน เช่น Commodity และเลือกขายหุ้นกลุ่มที่ราคา Outperform ก่อนหน้า เช่น อสังหาฯ
ดังนั้นกลยุทธ์ แนะนำ เกาะไปกับกระแสตลาด เน้นเลือกหุ้นตัวที่ราคายังกองอยู่ข้างล่าง-มีปัจจัยสนับสนุน
GULF คาดมีแรงซื้อกลับหลังไม่เกี่ยวข้องกับ คดีสินบน MHPSC คาดหุ้นโรงไฟฟ้าตัวอื่น อย่าง EGCO BGRIM GPSC น่าจะรีบาวด์ด้วย หลังจากลงไปก่อนหน้าเพราะกลัวโดนลูกหลงจากคดีสินบน / RS JKN (มีเดีย-เม็ดเงินโฆษณา เริ่มดีวันดีคืน) / ASAP (กำไร 2Q ถ้าออกมาดีตามที่เราคาด PEG ปี18-19 จะลงเหลือแค่ 0.06 เท่า ขณะที่กำไรครึ่งปีหลังโตดีกว่าครึ่งปีแรก) / SGP (กำไร หลัก 2Q Prelim คาด + เกิน 500 ลบ.โต 500% q-q และพลิกจากขาดทุน y-y) / SIMAT (กำไร หลัก 2Q Prelim คาดพลิกบวกแรงจากที่กำไรบางๆ ใน 1Q/18 และเก็ง SIMAT W4 เข้าเทรดเร็วๆนี้) / LPN (โครงการส่วนใหญ่ของปีนี้ จะเปิดตัวโครงการช่วง เดือน มิ.ย.-ก.ค.) / STEC CK (งบ 2Q ไม่แย่ และ เล่นลุ้น งานประมูลช่วง ครึ่งปีหลัง) / KCE อาจมีลุ้นเล่นต่อ หากผลหารือการค้า ยุโรป-สหรัฐฯ ปลดล็อคความเสี่ยง มาตรการภาษีรถยนต์ยุโรป แต่ต้องพร้อมขายตัดขาดทุน ถ้าผลเจรจาออกมาตรงข้าม...
ระยะสัปดาห์ คาดตลาดหุ้นไทย แกว่งไร้ทิศทาง กรอบดัชนีฯ 1,630/1,615-1,650 จุด (ปรับลงจาก 1,630-1,660) ขณะที่หุ้นรายตัว ผันผวนสูงขึ้น และหุ้นไทยยังขาดแรงซื้อจาก ต่างชาติ และกองทุนในประเทศชะลอแรงซื้อลง หลังจากสัปดาห์ก่อนไล่ซื้อสุทธิไปแล้ว (Cover short)
What to watch :
(+/-) จับตาการเจรจาการค้า ระหว่าง สหรัฐ-EU ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ แผนเก็บภาษีรถยนต์ยุโรป / ถ้ามีสัญญาณบวกจากการเจรจาครั้งนี้ เชื่อว่าตลาดหุ้นทั่วโลกพร้อมจะรีบาวด์ เพราะมองว่า กรณี สหรัฐฯ-จีน น่าจะมีการ เจรจาในระดับ ทวิภาคี ตามมา
(+/-) การประชุม ผู้ว่าธนาคารกลาง ของกลุ่ม G20 19-20 ก.ค. และต่อด้วย รมต.คลัง G20 21-22 ก.ค.
(+/-) เมื่อวาน รายงาน Beige book ที่เตรียมไว้สำหรับการประชุม FOMC ปลายเดือนนี้ ระบุพบกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายเมืองเริ่ม สะดุด จากกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐฯ-โลก โดยวัตถุดิบในการผลิตเริ่มขาดตลาด (Supply disruptive) และราคาวัตถุดิบปรับสูงขึ้น ประธานเฟดยอมรับไม่สามารถประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ในตอนนี้-ต้องรอดูการปรับตัวของผู้ประกอบการ (เรามองว่าเป็นสัญญาณเตือนการปรับเป้า GDP สหรัฐฯ-โลก ลง)
ส่วนทิศทางดอกเบี้ย ประธานเฟดยอมรับว่าการเร่งขึ้นดอกเบี้ย อาจเป็นความเสี่ยงเพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจมากกว่าเดิม ซึ่ง ตอนนี้ตลาดรับรู้ไปแล้วว่า ดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะขึ้นได้อีก 2 ครั้ง ในเดือน ก.ย.-ธ.ค. นี้ แต่ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจจากนี้ไปไม่เอื้อต่อการขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้ง ตามที่ตลาดคิด เชื่อว่าหุ้นไทย ปลายปีนี้-ต้นปีหน้า จะแรลรี่จากแรงซื้อคืน
หุ้นแนะนำ
RS LPN SGP GULF SIMAT ตาม Catalyst ด้านบน
ECL เก็งงบ 2Q18 ดีตามกลุ่มสินเชื่อ เมื่อวาน THANI รายงานกำไร 2Q18 ที่ 392 ลบ +52% y-y +8% q-q
Tactical weekly เพิ่ม RS เข้าพอร์ต ถอด AP SAT ออก
รายงานวันนี้
SCC : End of earnings down-cycle
เราเชื่อว่ากำไร 2Q18 จะเป็นไตรมาสสุดท้ายที่บริษัทจะรายงานกำไรที่อ่อนตัวลง YoY เราคาดกำไร 2Q18 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท (ลดลง 7%YoY และ ทรงตัว QoQ) และมองว่า 2H18 กำไรจะกลับมาดีได้เพราะคาดธุรกิจเคมีคอลจะมีส่วนต่างกำไรที่มากขึ้น และอุปสงค์ของปูนซีเมนต์จะเพิ่มขึ้นจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย และโครงการเอกชนขนาดใหญ่หลายโครงการ เราแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 580 บาท
PTTGC : 2Q18 core earnings--to be the best of its second-quarter history
เราคาดกำไร 2Q18 ที่ 1.01 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 53% YoY แต่ลดลง 18% QoQ กำไรสูงขึ้น YoY คาดเกิดจาก 1) ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น 2) ส่วนต่างกำไรที่ดีขึ้น สำหรับมุมมองในไตรมาสถัดไป (3Q18) เราคาดกำไรจะเติบโต YoY ต่อเนื่องจากปริมาณการขาย และมาร์จิ้นยังคงดีต่อเนื่อง ปัจจุบันหุ้นเทรด PE 8.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 11.2 เท่า แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 120 บาท
TCAP : 2Q18 profit beat on lower OPEX
รายงานกำไร 2Q18 ที่ 2.05 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%YoY และ 8%QoQ กำไรดีกว่าคาด 20% (และดีกว่าตลาดคาด 14%) เพราะค่าใช้จ่าย OPEX น้อยกว่าคาด โดยที่สินเชื่อเติบโต 1.6% QoQ และ 4.9% YoY เป็นไปตามคาด NPL อยู่ที่ 2.35% ลดลงจาด 2.48% ใน 1Q18 และ coverage ratio เพิ่มเป็น 129% จากเดิม 127% สำหรับ 3Q18 เราคาดกำไรจะ flat YoY เพราะ tax shield ที่เริ่มหมดลง เราคงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 7.1 พันล้านบาท และคงแนะนำ ถือ
DELTA : Insights into 2Q18
เราประเมินกำไรหลัก 2Q18 ที่ 1.44 พันล้านบาท ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 31% QoQ โดยเรามองว่ากำไรทรงตัว YoY จากยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งหักกลบผลกระทบของค่าเงินบาทที่แข็งค่าราว 6% เมื่อเทียบกับ USD ในขณะที่การฟื้นตัว QoQ มาจากทั้งยอดขายที่เติบโตในกลุ่ม Datacenter และพัดลม รวมถึงปัจจัยด้านฤดูกาล และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงราว 1% เมื่อเทียบกับ USD บริษัทมองว่าปัญหาด้านขาดแคลนวัตถุดิบ/วัตถุดิบมีราคาสูงจะยังคงอยู่ใน 2H18 แต่ DELTA มีการบริหารจัดการที่ดีต่อสถานการณ์ดังกล่าว เราปรับคำแนะนำจาก ขาย เป็น ถือ เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาต่ำกว่าราคาเป้าหมายของเรา แต่ Valuation ยังคงค่อนข้างตึงตัว
Food(Soybean) : Bearish July numbers factored in trade war
เรามีมุมมองเชิงลบจากรายงานเดืน ก.ค. ของ USDA จากทั้งพื้นที่การปลูกใน US ที่เพิ่มมากขึ้น และผลกระทบจากปัญหาการค้าระหว่างจีนและ US ซึ่งตัวเลขคงคลังของ US และของโลกถูกปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดในเดือน ก.ค. อย่างไรก็ตามเรามองว่าราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกสะท้อนปัจจัยดังกล่าวไปแล้ว เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ TVO จากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ค่อนข้างสูงที่ 7.6% แม้จะมีความเสี่ยงจากอัตรากำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งปีหลัง
หุ้นมีข่าว
(*) DTAC กสทช.บีบดีแทคประมูลคลื่น ย้ำหาก DTAC ไม่เข้าประมูลคลื่นจะไม่ได้รับสิทธิเข้าสู่มาตรการเยียวยาหลังคลื่น 1800/ 850 MHz หมดอายุสัมปทาน (ที่มา กสทช. ASPEN)
(+) MK (-) SPALI เปิดศึกชิงหุ้นใหญ่'มั่นคง"ประทีป' พร้อมเพิ่มราคา - กลุ่มฟินันซ่าลั่นไม่ขาย (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
(+)"ศิริ" โต้นักลงทุนญี่ปุนใต้โต๊ะเจ้าหน้าที่รัฐไทย ไม่เกี่ยวกระทรวงพลังงาน ชี้เป็นการขนส่งชิ้นส่วนที่ใช้ในโรงไฟฟ้า ไม่ใช่กระบวนการประมูลและสัญญาก่อสร้าง แต่สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและให้รายงานภายใน 2 วัน พร้อมดึงไออีเอให้คำปรึกษาพลังงาน ลั่นเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานทดแทนเป็น 30% กำหนดในแผนเออีดีพีใหม่ (ที่มา ไทยโพสต์)
(+) CPT ตั้ง บ.ร่วมทุนถือหุ้น 60% รองรับ ธุรกิจออกแบบ ก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล (ที่มา ตลท.)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO11510