- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 July 2018 22:46
- Hits: 2634
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวในแดนบวกได้ตามคาดจากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายขึ้นจากถ้อยแถลงของประธาน FED ต่อหน้าสภาคองเครส ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มพลังงานและธนาคาร เป็นต้น สถาบันในประเทศกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้งเกือบ 2.6 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องอีกราว 1 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่าจะแกว่งตัว Sideways โดยคาดว่านักลงทุนจะจับตาและให้น้ำหนักกับผลประกอบการกลุ่มธนาคารที่จะประกาศออกมาหนาแน่นในช่วง 2 วันนี้ ซึ่งหากไม่ได้ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดเชื่อว่ามีโอกาสที่จะเห็นแรงซื้อเข้ามาและหนุนให้ดัชนีขยับขึ้นได้ อย่างไรก็ตามเรายังมองการบวกของดีชนียังไม่กว้างเนื่องจากประเด็นสงครามการค้ายังคง Overhang และต้องติดตามพัฒนาการของข่าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระยะสั้นหุ้นที่มีผลประกอบการ 2Q18 โดดเด่นน่าจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาและสามารถ Outperform ตลาดได้
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q18 แข็งแกร่ง //สะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือนก.ค. : BANPU, CPF, EPG, PTTEP, TISCO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$333ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$300ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$30ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค ตลาดหันกลับไปให้ความสนใจต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> THANI <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท
กำไรสุทธิ 2Q18 เป็นไปตามที่คาดที่ 392 ลบ. +7.8% Q-Q, +52% Y-Y จากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น รวมถึง Cost of fund ที่ลดลง และการตั้งสำรองฯที่ผ่อนคลายตามคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้นและสำรองฯทั่วไปที่ลดลง
คาดกำไร 2H18 จะดีกว่า 1H18 เพราะเป็นฤดูกาลที่ดีของสินเชื่อและแนวโน้มการตั้งสำรองฯที่จะยิ่งผ่อนคลายจากการเลื่อนใช้ IFRS9 และ Coverage ratio ที่ขึ้นสู่ระดับน่าพอใจ
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) TCAP รายงานกำไรสุทธิ 2Q18 ดีกว่าที่เราและตลาดคาดที่ 2.1 พันลบ. +8% Q-Q, +22% Y-Y เนื่องจากมีกำไรจากการขาย NPA ที่มากกว่าคาดซึ่งชดเชยการจ่ายภาษีในอัตราที่สูงขึ้นได้ทั้งหมด หากหักรายการดังกล่าวออก กำไรก็ยังเป็นไปตามคาด NPL ลดลงมาที่ 2.35% จาก 2.48% ใน 1Q18 ถือเป็นสัญญาณดี และ Coverage ratio อยู่ที่ 129% แข็งแกร่ง กำไร 1H18 อยู่ที่ 3.95 พันลบ. +20% Y-Y และคิดเป็น 55% ของประมาณการทั้งปี โดยคาดว่ากำไร 2H18 มีแนวโน้มลดลงจากอัตราภาษีที่มากขึ้น เราคงราคาเหมาะสมที่ 55 บาท แต่ปรับคำแนะนำขึ้นจากถือเป็นซื้อ เพราะราคาหุ้นลงจนมี Upside
(+) DELTA คาดกำไรสุทธิ 2Q18 อยู่ที่ 1,462 ลบ. +38.2% Q-Q, +73.4% Y-Y แม้ยังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ แต่บริษัทสามารถบริหารจัดการได้อย่างดี กอปรกับเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นยังขยับขึ้นได้เล็กน้อย และคาดกำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่องและอาจเป็นกำไรสูงสุดของปีนี้ใน 3Q18 เพราะเป็น High Season ก่อนจะอ่อนตัวลงใน 4Q18 เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ขึ้น 5% เป็น 5,429 ลบ. +10% Y-Y และคาดโตต่อเนื่อง +15% Y-Y อยู่ที่ 6,239 ลบ. ในปีหน้า ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2018 เป็น 74 บาท จากเดิม 71 บาท พร้อมกับปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมถือ
(0) AMATA หลังจากลูกค้าเร่งโอนที่ดินไปเป็นจำนวนมาก (107 ไร่) ใน 1Q18 การโอนที่ดินใน 2Q18 จึงชะลอเหลือเพียง 50 ไร่เศษ และส่วนใหญ่อยู่ในโครงการไทย-ไชนีสซึ่งมีอัตรากำไรไม่สูงนัก แม้รายได้จากการขายสาธารณูปโภคและรายได้ค่าเช่าโรงงาน ยังโตต่อเนื่องตามลูกค้าที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถชดเชยรายได้ขายที่ดินที่ลดลง ทำให้เราคาดกำไรปกติใน 2Q18 -54% Q-Q และ -10% Y-Y เหลือ 211 ลบ. และแม้กำไรงวด 1H18 น่าจะคิดเป็นเพียง 36% ของประมาณการทั้งปี แต่เราไม่กังวลเพราะบริษัทมีลูกค้าหลายรายที่อยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งต้องการที่ดินตั้งแต่ 20 ถึง 200 ไร่ แต่รอความชัดเจนของกม.ลูกของ EEC เรายังแนะนำซื้อลงทุน คงราคาเป้าหมาย 30 บาท
(+) SC คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q18 ที่ 440 ลบ. +70% Q-Q, +66% Y-Y จากการเริ่มโอนคอนโดใหญ่อย่าง Saladaeng One มูลค่า 4.7 พันลบ. ขณะที่โมเมนตัมกำไร และยอดขายคาดเร่งขึ้นพร้อมกันใน 2H18 จากการเริ่มโอนคอนโด Luxury อีก 1 แห่ง พร้อมรุกเปิดตัวแนวราบมากถึง 15 แห่ง และคอนโดอีก 1 แห่ง มูลค่ารวม 1.6 หมื่นลบ. ราคาหุ้นปรับลงจนซื้อขายบน PE2018-19 เพียง 7 เท่า ถูกกว่ากลุ่มอสังหาที่ 10 เท่า สวนทางกับพื้นฐานที่แข็งแกร่งจากกำไรที่จะกลับมาโตเด่นในปีนี้ +58% Y-Y เป็น 1.98 พันลบ. อีกทั้ง ยังมีปันผลในระดับสูง 5-6% ต่อปี คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท
(+) THMUI เราคาดกำไรสุทธิ 2Q18 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 14 ลบ. +249% Q-Q, +551% Y-Y จากการส่งมอบลวดสลิงให้กับลูกค้ากลุ่มท่าเรือ และกลุ่มที่ใช้ในงานก่อสร้างเช่น เสาเข็ม รวมถึงการเริ่มส่งมอบงานติดตั้งท่อปะปาในจังหวัดพังงา-ภูเก็ต ซึ่งเป็นงานขนาดใหญ่สุดที่ THMUI เคยได้รับ ส่วนแนวโน้ม 2H18 จะได้แรงหนุนจากแนวโน้มงานก่อสร้างที่จะเร่งตัวขึ้น และการส่งมอบงานท่อปะปาส่วนที่เหลือ รวมถึงงานให้บริการทดสอบแรงดึงลวดสลิง เรายังคาดกำไรสุทธิทั้งปีนี้ที่ 53 ลบ. +147% Y-Y และปีหน้า 67 ลบ. +26% Y-Y ราคาหุ้นปรับตัวลงจนทำให้ PE2018-19 เหลือเพียง 7-8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์+การก่อสร้างที่ 23-33 เท่า อีกทั้งคาดปันผลสูง 6-7% ต่อปี จึงคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19 ก.ค.- ผลประกอบการ 2Q18 ของ BBL SCB BAY TMB
20 ก.ค.- ไทย: ดุลการค้า (มิ.ย.
23 ก.ค.- สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านมือสอง (มิ.ย.)
24 ก.ค.- ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต
(+) ตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้น จากผลประกอบการในกลุ่มการเงินที่ออกมาอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงความกังวลในเรื่องสงครามทางการค้าที่ลดน้อยลง
(+) ภาพรวมตลาดยุโรปปรับตัวขึ้น จากค่าเงินที่อ่อนลง ช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
(+) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้น หลังกองทุนใหญ่ๆของโลกเริ่มมองว่าตลาดอยู่ในระดับ Valuation ที่ไม่แพง รวมถึงอาจเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อลงทุนในระยะยาว นอกจากนี้ ตลาดยังคงคาดหวังตัวเลขทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียที่คาดว่าจะออกมาแข็งแกร่ง แม้ช่วงที่ผ่านมาจะเริ่มเห็นการชะตัวลงของราคาบ้านก็ตาม
(0) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินบาท ล่าสุดยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.30-33.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.68 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 68.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขสต็อคน้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐปรับตัวลงมากกว่าคาด
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.60 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1227.90ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO11500