- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 July 2018 22:30
- Hits: 2673
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นเด่น โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, SCB, TISCO และ KTC ในขณะที่โรงกลั่นอย่าง IRPC, BCP เกิด Technical rebound อย่างไรก็ตามกลุ่มที่อิงกับการท่องเที่ยวยังเผชิญกับแรงขายอย่าง AOT, CENTEL, MINT ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,635.8 จุด (+9.7 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.6 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.7 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยที่ 1,011 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 12,947 สัญญา
Investment theme
Upgrade กลุ่มธนาคาร : ใน 1-2 วันนี้ จะมีการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคาร 7 ตัวหลัก (ไม่นับ TISCO, BAY) ภาพรวมเราคาดกำไรรวม 3.86 หมื่นล้านบาท เติบโต 3%YoY, -11%QoQ อย่างไรก็ตาม ทีมงานวิจัยได้มีการปรับเพิ่มคำแนะนำกลุ่มธนาคารเป็น “Positive” สนับสนุนจากเราคาดธนาคารแห่งประเทศไทย มีโอกาสมีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วกว่าคาดเป็นในเดือนพ.ย.นี้ (สมมติฐานเดิมเราคาด 1Q19) เป็น 1.75% ส่งผลให้เราปรับเพิ่ม NIM ประมาณ 2-7bps พร้อมปรับกำไรปี 61/62 กลุ่มธนาคาร 8 บริษัทหลักขึ้น เฉลี่ย 2-5% เป็น 2.07 แสนล้านบาท ตามลำดับ และมองว่าธนาคารใหญ่อย่าง BBL, KTB จะได้ประโยชน์สูงสุดในขณะที่ธนาคารขนาดกลางมองว่า TISCO กลับมามี Upside สูงกว่า 30% และปันผลสูงกว่า 6% น่าสนใจเข้าลงทุนอีกครั้ง กลับไปที่ภาพต่างประเทศ เมื่อคืนที่ผ่านมาประธาน FED ได้แถลงต่อกรรมาธิการธนาคารประจำวุฒิสภา ยืนมุมมอง Hawkish ต่อการขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี (คาดในเดือนกันยายนและธันวาคม) ภายหลังยืนกรานเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง และภาคการจ้างงาน, เงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ดี และสำหรับประเด็นสงครามการค้า ล่าสุดนาย Kudlow ที่ปรึกษาเศรษฐกิจสหรัฐออกมาระบุยังมีท่าทีการเจรจากับประเทศจีน แต่กำลังเจรจาเป็นรายประเทศกับแคนาดาแม็กซิโกและยุโรป
Investment Theme: สัปดาห์นี้เราประเมินกรอบ SET บริเวณ 1,620+/- จุด โดยแนะจับตาการ Preview ผลประกอบการ 2Q18 พร้อมคงคำแนะนำ เลี่ยงการลงทุนกลุ่ม Commodity หันเข้าทยอยสะสมกลุ่ม Domestic อย่างก่อสร้าง (CK, STEC) กลุ่มธนาคาร BBL กลุ่มค้าปลีก BJC และสำหรับนักลงทุนระยะยาว เราคงคำแนะนำ ชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน-ยุโรป
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ส.อ.ท.เผยดัชนีส่งออกรถยนต์ มิ.ย. โต 2.36% ที่ 9.52 หมื่นคัน และรายงานดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม มิ.ย.ที่ 91.7 สูงสุดในรอบ 42 เดือน / Dollar ยืนในระดับสูงที่ 95 / ททท.ระบุ วันที่ 1-15ก.ค. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงเหลือเติบโต 2-3% (จาก 15%)
Stock pick : N/A
Trading idea – ชะลอการลงทุนกลุ่มโรงแรม คาดได้รับผลกระทบจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญอีกครั้ง / ชะลอการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับไขมันทรานส์ (Bakery, Cake, Donut) /ชะลอการลงทุนใน DDD ส่งออกจีนชะลอตัว / เก็งกำไร PSL คาดกำไรQ2 เติบโตกว่า 62%QoQ / เก็งกำไร BJC คาดผลประกอบการโตเด่น 26% YoY เมื่อเทียบกับกลุ่ม / ทยอยสะสม BEM คาดกำไรเติบโตต่อเนื่องจนถึง Q3 / เก็งกำไร JKN เด่นในช่วงครึ่งปีหลัง
Technical View
ยืนเหนือ 1630 มอง Sideway Up กรอบ 1630-1650 : แรงซื้อหลักจากกลุ่มธนาคารและพลังงาน ทำให้ในช่วงเช้าดัชนีเปิดโดดและสามารถยืนเหนือ Neckline 1630 ได้ตลอดทั้งวัน แม้ระหว่างวันมีแรงขายสลับ แต่ก็มีแรงซื้อกลับได้ทันที จึงมองว่าตราบใดที่ดัชนียังยืนเหนือ 1630 ยังคาดหวังการแกว่งตัว Sideway Up ในกรอบ 1630-1650 ภาพแกว่งขึ้นต่อจะดูชัดเจนมากขึ้นหากดัชนียืนเหนือ 1650 โดยมองแนวต้านถัดไปที่ 1665
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : หากยังยืนเหนือ 1630 แนะนำ Trading กรอบ 1630-1650 เน้นขายแนวต้าน เพื่อเล่นรอบ 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับ 1630 หากไม่หลุดมองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่นรอบในกรอบ 1630-1650
แนวรับ : 1620, 1630 แนวต้าน : 1650, 1665
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Tradewar
ปัจจัยในประเทศ: สัปดาห์นี้ติดตามการรายงานผลประกอบการ 2Q61 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์
หุ้นเทคนิค:
TISCO (B 74.00-75.00, Tp 78.00// 80.00, Cut 73.00)
PTT (B 49.00, Tp 51.00, Cut 48.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO11497