- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 17 July 2018 19:00
- Hits: 5292
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Consolidated
เมื่อวานหุ้นรายตัวลงหนักนำโดย KTC, กลุ่มโรงแรมท่องเที่ยว สายการบิน การท่าฯ (กระทบจาก Sentiment เรื่องทัวร์จีนยกเลิกการท่องเที่ยวไทย หลังเกิดเหตุเรือล่ม) และ กลุ่ม อาหาร-ขนม-QSR เจอข่าวลบเมื่อวาน ประกาศ พรบ. ห้ามขาย-นำเข้า ผลิตภัณฑ์ไขมันทรานส์ มีผลใน 180 วัน ส่วนใหญ่เป็นส่วนผสมใน ครีมเทียม, มาการีน, น้ำมันปาล์มที่เติมไฮโดรเจน ซึ่งกระทบตรงกับสินค้าประเภท ไก่ทอด โดนัท มากสุด ส่วน AU สินค้า 100% ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมไขมันทรานส์ อาจจะมีผลต่อ CENTEL MINT บ้างแต่น้อยมาก (พิซซ่า ไก่ทอด ไอศครีม) ซึ่งมีเวลาให้เปลึ่ยนสูตรทันแน่นอนภายใน 180 วัน ดังนั้นจึงไม่กระทบต่อต้นทุนและพื้นฐานหุ้น
วันนี้คาด หุ้นพลังงาน ปิโตรฯ จะเป็นกลุ่มที่กดดันดัชนีฯ ลงตามราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งแรงเมื่อคืนจากข่าวสหรัฐฯเตรียมระบายน้ำมันในคลังสำรองยุทธศาสตร์ และ ปธน.ทรัมป ประกาศผ่อนผันให้ประเทศต่างๆยังสามารถซื้อน้ำมันจากอิหร่านได้ต่อไป แม้จะถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร (อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันได้) ส่วนหุ้น Defensive คาด Outperform ตลาด
ระยะสัปดาห์ คาดตลาดหุ้นไทย ดัชนีฯแกว่งไร้ทิศทาง แต่หุ้นรายตัวจะผันผวนสูงขึ้น กรอบดัชนีฯ 1,630/1,615-1,650 จุด (ปรับลงจาก 1,630-1,660) จากคาดหุ้นไทยยังขาดแรงซื้อจาก ต่างชาติ ส่วนกองทุนในประเทศ คาดเน้นตั้งรับมากกว่าไล่ราคา (เพราะไล่ Cover short ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา) เพื่อรอดูผลการดำเนินงาน บจ. 2Q18 ที่จะทยอยประกาศ และ เราคงคาดการปรับกำไร-ราคาเป้าหมายลง จาก Consensus รอบนี้จบเมื่อไร จะเป็นจุด Bottom out ของตลาดหุ้นไทย
What to watch :
(+/-) MS ออกรายงานกลยุทธ์ แนะลดพอร์ตหุ้น High beta พร้อมทั้งหันมาเพิ่มน้ำหนักหุ้น Defensive เช่น โทรคมนาคม, อสังหาฯ, Consumer Staple (สินค้าจำเป็น), Utilities (โรงไฟฟ้า ประปา รถไฟฟ้า ทางด่วน) โรงพยาบาล โดยมองตลาดหุ้นสหรัฐฯ ครึ่งปีหลัง จะมีความเสี่ยงเผชิญต่อภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
(*) ดูตารางคาดการณ์งบ 2Q18 ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ Figure 1 (ส่วนเมื่อวาน DTAC กำไรต่ำกว่าคาด, KTC กำไรดีกว่าคาด) รอบนี้หุ้นส่วนใหญ่จะโดน Sell on fact หลังงบออก (TISCO DTAC KTC)
(*) นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส ในวันนี้
หุ้นแนะนำ
BTS ADVANC พักเงินในหุ้น Save haven
รายงานวันนี้
ORI : เหนือเมฆ
คาด ORI จะรายงานผลประกอบการ 2Q18 โดดเด่นที่สุดในกลุ่มทั้งการเติบโตของยอด Presales และกำไร ซึ่งจะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด และจะต้องมีการปรับกำไรขึ้น อีกทั้งช่วงครึ่งปีหลังคาดโมเมนตั้มของ Presales จะยิ่งดีขึ้นไปอีก จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการแบรนด์ Park และอีก 3 โครงการแนวราบ Britania สำหรับกำไรก็จะเติบโตก้าวกระโดดเพราะมีการโอนคอนโด Park24 เฟส 2 มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท ที่สำคัญที่สุดกำไรมีโอกาสผิดคาดน้อยมาก เพราะเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท บริษัทมี Backlog รองรับไว้แล้วถึง 90% ปัจจุบันหุ้นเทรด PE 9.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 11.7 เท่า แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 27 บาท
KTC : Big 2Q18 earnings beat--light LLPs
บริษัทรายงานกำไร 2Q18 ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 66%YoY และ 8%QoQ ผลประกอบการมากกว่าเราและตลาดคาด 34% และ 14% ตามลำดับ เพราะการตั้งสำรองน้อยกว่าคาด ในขณะที่สินเชื่อโต 7% (น้อยกว่าที่เราคาดที่ 10%) สำหรับ 3Q18 เราคาดกำไรจะเติบโต YoY อย่างไรก็ดีแนวโน้มกำไร 2H18 จะสู้ 1H18 ไม่ได้ และคาดกำไรปีหน้าจะโตน้อยลง ดังนั้นเร de-rate valuation ลงเหลือ 18 เท่า PE ได้ราคาเป้าหมาย 32 บาท แนะนำ ซื้อ
DTAC : Certain risks of bidding a 900MHz auction
บริษัทรายงานกำไร 2Q18 ที่ 179 ล้านบาท ลดลง 76%YoY และ 86%QoQ กำไรน้อยกว่าคาดเล็กน้อย สำหรับแผนการ roll out คลื่น 2300 ผู้บริหารมั้นใจว่าจะสามารถทำได้ทันก่อนคลื่น 1800 จะหมดอายุวันที่ 15 กันยายน นี้ และถึงแม้จะไม่มีช่วงเวลาการเยียวยาเกิดขึ้น เรามองว่าผลกระทบก็จะจำกัด สำหรับการประมูลคลื่น 900 ยังคงไม่แน่นอน เพราะราคาที่สูงและยังต้องมีการตั้ง guard band อย่างไรก็ดีด้วย valuation ที่ถูกเราแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 82.5 บาท
Food : Ministry of Public Heath published the ban of Trans Fatty Acids
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่าไขมันทรานส์จากน้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนส่งผลเสียต่อการเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นจึงห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนในประเทศไทย โดยข้อบังคับนี้จะเริ่มใช้หลังจากที่ตีพิมพ์ในราชกิจานุเบกษา 180 วัน (ตีพิมพ์วันที่ 13 ก.ค. 2018) ดังนั้นผู้ผลิตจะต้องเร่งเตรียมตัวรับมือกับข้อบังคับใหม่นี้ ทั้งนี้ผู้ดำเนินธุรกิจ QSR หลายรายได้เปลี่ยนวัตถุดิบและส่วนผสมหลักบางอย่างมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากพวกเขาต้องจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เราได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ AU CENTEL และ MINT โดยบริษัทชี้ว่าผลกระทบจากประเด็นนี้มีจำกัดจากวัตถุดิบรองที่ซื้อกับ supplier แต่กระบวนการผลิตโดยตรงของบริษัทนั้นปราศจากไขมันทรานส์อยู่แล้ว ขณะที่ M ดูเหมือนจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากประเด็นนี้ และผลิตภัณฑ์ของ AU เกือบจะปราศจากไขมันทรานส์ 100% เนื่องจากเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม ข่าวที่ออกมาอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อบริษัทในกลุ่มอาหาร แต่หลังจากที่เราเช็คกับบริษัทนั้น ผลกระทบด้านพื้นฐานมีจำกัด
Flow Tracker : ต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 17
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแรงขายลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ขาย 317 ล้านเหรียญ สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดู พบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดซื้อสุทธิ 218 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการซื้อสุทธิเป็นสัปดาห์แรกหลังจากที่ขายต่อเนื่องมา 4 สัปดาห์ ดัชนี Volume Flow ของตลาดหุ้นไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวจากแดน Oversold ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง โดยกลุ่มค้าปลีกมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งเป็นสัปดาห์ที่สองต่อเนื่องจากดัชนี Volume Flow ซึ่งฟื้นตัวจากแดน Oversold
หุ้นมีข่าว
(-) KTC Money channel ระบุ 1 ในเหตุผลที่ ผลสำรวจ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ มองหุ้น KTC ลงแรงเมื่อวาน คือ KTC เป็น Underlying ของสัญญาตราสารอนุพันธ์จำนวนมาก และยังเป็นที่นิยมในกลุ่มนักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะในสินค้าประเภท Derivative Warrant (DW) ซึ่งผู้ออกสินค้าคือบริษัทหลักทรัพย์ โดยในช่วง 1-2 เดือนนี้จะมี DW ของหุ้น KTC หมดอายุ จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าโดยปกติ DW ใกล้หมดอายุนักลงทุนจะขายคืนออกมาก่อน (ที่มา Money channel)
บวกกับกลุ่ม retail finance เมื่อวาน โดนลูกหลง จากข่าว ลูกหนี้รวมตัว ส่งทนายความตบเท้าเข้าร้องทุกข์ว่าบริษัท เงินติดล้อ ปล่อยกู้ผิดกฎหมาย เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา เผยพฤติกรรมมัดมือชกโขกดอกเบี้ย แถมบังคับเอาสมุดทะเบียน พร้อมโอนลอยล่วงหน้าเป็นหลักประกัน (ที่มา ข่าวหุ้น)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO11365