- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 July 2018 20:32
- Hits: 8090
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Sideways up ต่อ
เมื่อวานหุ้น Cosmetic อย่าง BEAUTY DDD ดีดกลับแรง ขณะที่หุ้นส่งออกเล่นตามประเด็นบาทอ่อนบวกดีกว่าตลาดเช่น TU DELTA HANA ส่วนหุ้นพลังงานลงไม่แรง...แม้ราคาน้ำมันดิบเมื่อวานจะดิ่งหนัก
ภาพตลาด ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ Sideways up ตามคาด และวันนี้ คาดดัชนีฯหุ้นไทย Sideways up ต่อ ส่วนประเด็น "Trade tension" มองว่า จะเริ่มมีอิทธิพลต่อภาพรวมการลงทุนน้อยลง
กลยุทธ์ แนะนำเน้นสะสมไปที่ ตัวหุ้น เน้นกลุ่ม Defensive ได้แก่ อสังหาฯ ค้าปลีก (สินค้าจำเป็น) โรงไฟฟ้า ประปา รถไฟฟ้า ทางด่วน โรงพยาบาล มือถือ ตลอดจนหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเป็นรายตัวไป เช่น รถยนต์, สถาบันการเงิน (เน้น พอร์ตเช่าซื้อ สินเชื่อบุคคล), ห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวกับ E-commerce และ สังคมไร้เงินสด ส่วนพวก Late cycle economy ขึ้นมารอบนี้ พิจารณาลดพอร์ตลงไปบ้าง จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัวในปีหน้า และคาดว่าจะเริ่มเห็นการปรับลดคาดการณ์ GDP โลกลง บวกกับนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นทั่วโลก
What to watch :
(+) รมต.ช่วย ก.พาณิชย์ จีน ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหรัฐร่วมแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้า ผ่านทางการเจรจาทวิภาคีรอบใหม่ และ ระบุว่า จีนไม่ต้องการทำสงครามการค้า ขณะที่มีรายงานว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมปก็เต็มใจที่จะหันหน้าเจรจากับจีนเช่นกัน (ที่มา ASPEN)
(*) ช่วงนี้ ไม่ต้องไปกังวลกับ Trade tension มากนัก...คาดรายการสินค้าที่จีนจะโต้กลับ ต่อมาตรการภาษีที่สหรัฐฯกำหนดรอบใหม่ วงเงิน US$2 แสนล้าน จะไม่ทำให้ตลาดหุ้นจีน-โลก ร่วงแรงไปกว่านี้ พิจารณาจาก (1) สินค้าที่จีนนำเข้าจากสหรัฐฯ ต่อปี อยู่ที่ US$1.5 แสนล้าน เท่านั้น จีนอาจจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มบนสินค้า ปิโตรเคมี, ยานยนต์, เลนส์-แว่น, เชื้อเพลิง แต่ไม่มีสินค้าที่จะเพิ่มภาษีมากไปกว่านี้แล้ว คาดว่าจีนต้องใช้เวลาคิดมาตรการ อย่างรอบคอบก่อนจะประกาศรอบใหม่ หรือ ไปเพิ่มอัตราภาษีบนสินค้าตัวเดิม เพื่อให้วงเงินเทียบเท่ากัน ซึ่งเรามองว่า สหรัฐฯเองก็รู้ และไม่ต้องการบีบ จีน ไปมากกว่านี้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสหรัฐฯเอง ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การกลับสู่โต๊ะเจรจาในเร็วๆนี้ และจะทำให้ตลาดหุ้น Surprise ตอบรับในเชิงบวก
(2) เศรษฐกิจจีนกระทบเล็กน้อยจากภาษีที่สหรัฐฯเรียกเก็บ ผลกระทบจากภาษีที่สหรัฐฯเรียกเก็บบนสินค้าจีนรอบใหม่นี้ (พบว่าไม่รวม มือถือ (Handset)) ซึ่งวงเงิน US$2 แสนล้าน อัตราภาษี 10% คิดเป็นผลกระทบต่อมูลค่าส่งออกสุทธิ (Net export) US$2 หมื่นล้าน กระทบ GDP จีนแค่ 0.13ppt. และถ้ารวม Multiplier effect คาดกระทบ 0.21ppt. ต่อให้รวมภาษีรอบแรก 25% จะกระทบรวมกันราว 0.34ppt. ซึ่งทางการจีนสามารถที่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเข้ามาชดเชยได้ไม่ยาก
(+/-) MS ออกรายงานกลยุทธ์ แนะลดพอร์ตหุ้น High beta พร้อมทั้งหันมาเพิ่มน้ำหนักหุ้น Defensive เช่น โทรคมนาคม, อสังหาฯ, Consumer Staple (สินค้าจำเป็น), Utilities (โรงไฟฟ้า ประปา รถไฟฟ้า ทางด่วน) โรงพยาบาล โดยมองตลาดหุ้นสหรัฐฯ ครึ่งปีหลัง จะมีความเสี่ยงเผชิญต่อภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
(+) สนช. ประชุมเมื่อวาน เลือก 5 กกต. แล้ว เหลืออีก แค่ 2 คาดใช้เวลาไม่นาน
หุ้นแนะนำ
CPF บริษัทย่อยใน HK (CPP) เปิดเผยว่ากำไรครึ่งปีแรกอาจสูง US$100 ล้าน จากธุรกิจหมูในเวียดนาม เราประเมินว่าจะหนุนให้กำไรของ CPF ใน 2Q18 สูงกว่าคาดได้ถึง 20%
SCB KTB คณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) นัดถก "เลื่อน-ไม่เลื่อน" บังคับใช้ IFRS 9 ไปอีก 2 ปี ถ้าเลื่อนจริง SCB KTB คาดจะได้ประโยชน์สูงสุด เพราะมีการตั้งสำรองสำหรับมูลหนี้ที่มีปัญหาในช่วงที่ผ่านมาเป็นจำนวนมาก
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์ : MTC SCC STEC
รายงานวันนี้
Residential Property : Performance previews: Strong 2Q18 outlook and even in 3Q18
เราคาดกำไร 2Q18 ของกลุ่มอสังหาฯจะเป็นตัวยืนยันการฟืนตัวของกำไร และยอดจองซื้อ โดย GOLD, LH, LPN, SIRI, และ SPALI คาดจะรายงานยอด Pre-sales เติบโตทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่กำไรคาด SC จะกำไรโตดีสุด 58%YoY และ 90%QoQ และ SIRI กำไรจะแย่สุด ลดลง 53%YoY เราคาดหลังงบ 2Q18 ประกาศ จะมีการประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล เบื้องต้นคาดว่า LH จะจ่ายสูงสุดถึง 3.5% (รายละเอียดเพิ่มเติมในรายงาน)
PCSGH : Key takeaways from factory visit
การไป site visit โรงงานของ PCSGH ยืนยันมุมมองเชิงบวกของเรา การผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่ม (Valueadded) จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตระยะยาว โรงงานที่ใช้ระบบ semi-automated (คน+หุ่นยนต์) ช่วยให้บริษัทมีมาร์จิ้นที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดีสำหรับระยะสั้น utilization ของโรงงานต่ำกว่าที่เราคาด และ 2Q18 เราคาดกำไร 176 ล้านบาท, เพิ่ม 10% YoY แต่ลดลง 17% QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล เราจึงปรับกำไรลงเล็กน้อยราว 4% และราคาเป้าหมายปรับเป็น 9 บาท แนะนำ ซื้อ
CPN - Field trip to three CPN malls in the Northeast
เราได้ไปเยี่ยมชมศูนย์การค้า 3 แห่งของ CPN ในภาคตะวันออกฉียงเหนือ ซึ่งทำให้เราเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคนท้องถิ่นนั้นๆมากขึ้น และมองเห็นโอกาสในการเติบโตในต่างจังหวัดของ CPN ชัดเจนขึ้น โดยเราได้ไปเยี่ยมชม เซ็นทรัล สาขา นครราชสีมา อุดรธานี และขอนแก่น เรามองว่าสาขานครราชสีมามีความท้าทายมากที่สุด ณ ปัจจุบัน เนื่องจากมีคู่แข่งอย่าง The Mall ที่ทั้งเป็นเจ้าถิ่นมานานและได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง สำหรับสาขาอุดรธานีนั้น เป็นสาขาที่ CPN ประสบความสำเร็จมากที่สุดโดยมีอัตราค่าเช่าพื้นที่สูงที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหนุนโดยกำลังซื้อจากคนท้องถิ่นและเศรษฐีชาวลาว ขณะที่สาขาขอนแก่นมีแนวโน้มขึ้นแซงสาขาอุดรธานีเนื่องจากทำเลดีตั้งดีเยี่ยม อัตราค่าเช่าฐานต่ำกว่า และไม่มีคู่แข่ง เราเชื่อว่า CPN เป็นบริษัทที่มีคุณภาพดีและควรค่าแก่การลงทุนระยะยาว คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 88 บาท
หุ้นมีข่าว
(+)คณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) นัดถก "เลื่อน-ไม่เลื่อน" บังคับใช้ IFRS 9 "จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล" เปิด 3 ทางเลือก "ใช้ทันทีปี 62-ขยับ 1 ปี หรือเลื่อนยาวใช้ปี 65" โบรกฯ มองหากเลื่อนจริง ช่วยปลดล็อกให้กลุ่มแบงก์ทันที (ที่มา ข่าวหุ้น) // ความเห็น BLS เราชอบ BBL ที่สุดในกลุ่มธนาคารใหญ่ และชอบ KKP ในมุมของปันผลสูง
(+) MTC มั่นใจ พ.ร.บ.กำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินฯ ไม่กระทบธุรกิจ เชื่อจะส่งผลดีในอนาคต ยังคงมั่นใจธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง หนุนสินเชื่อคงค้างปีนี้แตะ 4 หมื่นล้านบาท และอีก 3 ปีข้างหน้าคาดว่าแตะ 1 แสนล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO11294