- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 July 2018 20:24
- Hits: 7990
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> DTAC, KCE, WHA
Stock S R Comment
DTAC 38.50 41.50 3 มือถือรับใบประมูลคลื่นวันนี้
KCE 40.00 41.50 เงินดอลล์แข็ง ฉุดสัญญาทองแดงปิดลบ
WHA 3.96 4.12 ญี่ปุ่นวางแผนลุยอีอีซีเพิ่ม เจโทรพบสมคิดเผยความเชื่อมั่นพุ่งต่อเนื่อง
After touching1650, then what?
Factors : ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่
1) การรายงานตัวเลข GDP ของจีนประจำไตรมาส 2/61 ซึ่งล่าสุดออกมาขยายตัวที่ระดับ 6.7% ตรงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนตัวเลขอื่นที่ออกมามีทิศทางที่ผสมผสาน โดยยอดค้าปลีกเดือนมิถุนายนขยายตัวดีกว่าที่คาดเล็กน้อย แต่ยอดผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนเดียวกันขยายตัวต่ำกว่าคาด
2) การประชุมสุดยอดระหว่างปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียในวันนี้
3) การแถลงของนาย Jerome Powell ต่อหน้าทั้งสภาสูงและสภาล่างของสหรัฐฯในวันที่ 17-18 กรกฎาคม โดยประเด็นที่เราเฝ้าติดตามได้แก่ ความเห็นของ Fed ต่อประเด็นสงครามการค้า ว่าจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่
4) ความคืบหน้าของประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ภายหลังจากเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนรายงานยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯในเดือนมิถุนายนที่ระดับ 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลในปี 1999 (ดูรูป) ทำให้นักลงทุนบางส่วนมีความกังวลต่อมาตรการตอบโต้ที่มากขึ้นในอนาคต
5) การรายงานตัวเลขนำเข้า-ส่งออกของไทยประจำเดือนมิถุนายนในวันที่ 20 กรกฎาคม ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์การขยายตัวที่ระดับ 14.5% และ 9.5% ตามลำดับ และคาดว่าจะมีการเกินดุลการค้าสูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากเป็นจริ ง จะเป็นการเกินดุลสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา
SET : คาดตลาดหุ้นไทยจะเริ่มปรับตัวอิงกับปัจจัยในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการ Preview ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงผลการดำเนินงานจริงที่ประกาศออกมา โดยล่าสุดเริ่มมีสัญญาณที่ดีอีกครั้ง หลังประมาณการ EPS ปีนี้ถูกปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 108.95 บาท ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หุ้นที่มีการถูกปรับประมาณการมากที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ ITD, CPF, AEONTS, KTC, TFG, BANPU
กลยุทธ์การลงทุน : SET Index ปรับตัวสู่ระดับเป้าหมายของเราในเดือนนี้ที่ 1650 จุดเป็นที่เรียบร้อย โดยหากต่อจากนี้ดัชนีจะขึ้นต่อได้ ต้องอาศัยตัวช่วยที่สำคัญ นั่นก็คือผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังจะทยอยประกาศออกมา ซึ่งจะต้องออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หรือทำให้นักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการขึ้น ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Wait & See หลังจากขายทำกำไรที่ระดับดัชนี 1650 จุดไปแล้ว ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว อาจเลือกถือหุ้นต่อไปได้ เนื่องด้วยระดับ Forward PE ปัจจุบันนั้นยังคงอยู่เพียงแค่ 13.6 เท่า ต่ำกว่าระดับ 14.1 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เราย้ำมาตลอดว่าเป็นบริเวณการซื้อขายที่ตลาดหุ้นไทยมักมีเสถียรภาพมากที่สุด
แนวรับ 1,634 แนวต้าน 1,654
Today's Event :
VGI XD 0.054 บาท
BLAND ลูกหุ้นเข้า 185,731 หุ้น
EFORL ลูกหุ้นเข้า 2,200,000,000 หุ้น
DIMET ลูกหุ้นเข้า 268,953,447 หุ้น
TASCO ลูกหุ้นเข้า 4,870,000 หุ้น
TFG ลูกหุ้นเข้า 400,000 หุ้น
TTCL-W1 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (111.9mn sh 1:1 @ Bt18.00)
UAC-W2 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (66.7mn sh 1:1 @ Bt5.55)
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO11292