- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 July 2018 17:14
- Hits: 3271
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงขายเด่นในกลุ่มพลังงานนำโดย PTT, BANPU และ TISCO เผชิญกับแรงขายภายหลังรายงานตัวเลข NPL(%) สูงกว่าตลาดคาด อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อใน SCB, TMB, MTC และกลุ่มนิคมอย่าง AMATA, WHA ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,642.2 จุด (+1.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.7 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 357 ล้านบาท และเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 6,917 สัญญา
Investment theme
สัปดาห์นี้จับตาการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคาร : ในช่วงปลายสัปดาห์ (19-20 ก.ค.) จะมีการรายงานผลประกอบการไตรมาสสองกลุ่มธนาคาร โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน TISCO รายงานผลประกอบการใกล้เคียงคาด และประเด็น NPL(%) ที่สูงกว่าคาดเกิดจากลูกหนี้รายเดียว (เป็นปัญหาส่วนตัว) ซึ่งไม่น่าจะสะท้อนภาพอุตสาหกรรม SME(%) ที่ไม่ดี โดยเราคาดกำไรรวม 8 ธนาคาร (ไม่รวม TISCO) ที่ 3.86 หมื่นล้านบาท เติบโต 3%YoY , -11%QoQ ซึ่งหากรายงานผลประกอบการอกมาดีกว่าคาด เรามองว่านักวิเคราะห์มีโอกาสปรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีขึ้น เนื่องจากงบ Q1 ก็สูงกว่าคาดเช่นกัน ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อการขยับขึ้นของ EPS ของ SET ได้ (ปัจจุบันอยู่บริเวณ 108.85) โดยปัจจุบันคิดเป็น PER18 ที่ 15 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง ในขณะที่จับตาธนาคารแห่งประเทศไทย (BoT) เริ่มเข้าแทรกแทรงค่าเงินบาทไม่ให้อ่อนค่าจนเร็วเกินไป โดยการขายเงินตราต่างประเทศและซื้อเงินบาท ซึ่งเห็นได้ชัดจากทุนสำรองระหว่างประเทศเริ่มลดลงจากระดับ 2.16 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จนปัจจุบันเหลือ 2.07 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
Investment Theme: สัปดาห์นี้เราประเมินกรอบ SET บริเวณ 1,630+/- จุด โดยแนะจับตาการ Preview ผลประกอบการ 2Q18 พร้อมคงคำแนะนำเลี่ยงการลงทุนกลุ่ม Commodity หันเข้าทยอยสะสมกลุ่ม Domestic อย่างก่อสร้าง (CK, STEC) กลุ่มธนาคาร BBL กลุ่มค้าปลีก BJC กลุ่มอสังหา GOLD และสำหรับนักลงทุนระยะยาวเราคงคำแนะนำชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน-ยุโรป
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – Trump ระบุหาก Soft Brexit อาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-อังกฤษ / จีนรายงานตัวเลขการค้าเดือนมิ.ย.สูงกว่าคาดที่ 4.16 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (คาด 2.76 หมื่นล้าน) / กลุ่ม BRICS เตรียมประชุม 25 ก.ค.ค้านมาตรการภาษีหสรัฐ
บทวิเคราะห์วันนี้ : SYNTEC คาดกำไร 2Q61 จะฟื้นตัวดีขึ้น / DRT กำไร 2Q61 จะชะลอตัวเล็กน้อย ปันผลดี
Stock pick : N/A
Trading idea – ชะลอการลงทุนกลุ่มโรงแรม คาดได้รับผลกระทบจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญอีกครั้ง / เก็งกำไร CPF คาดงบ 2Q พลิกเป็นกำไร / เก็งกำไร BJC คาดผลประกอบการโตเด่น YoY เมื่อเทียบกับกลุ่ม / ทยอยสะสม BEM คาดกำไรเติบโตต่อเนื่องจนถึง Q3
Technical View
คาดแกว่ง Sideway Up ในกรอบ 1635-1665 : ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่ยังคงยืนเหนือแนวรับ 1635 ภาพหลักจึงยังคงมุมมองเดิมว่าดัชนีได้ Break Neckline ของรูปแบบ Double Bottom ประกอบกับน้ำมันดิบ Brent ดีดตัวขึ้นจากแนวรับสำคัญ จึงมองว่าดัชนีจะมีแนวโน้ม Sideway Up มองแนวต้านถัดไปที่ 1650 1665 และ 1675 ตามลำดับ แต่หากดัชนีหลุด 1630 แนะนำ Lock Profit
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1635-1665 และพิจาณาแรงขายตามแนวต้านเป็นขั้นๆ หากหลุด 1630 แนะนำ Lock Profit 2) ไม่มีหุ้น : เล่น Rebound ในกรอบ 1635-1665 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ เพื่อเล่นรอบ
แนวรับ : 1630, 1635 แนวต้าน : 1650, 1665
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Trade
ปัจจัยในประเทศ: สัปดาห์นี้ติดตามการรายงานผลประกอบการ 2Q61 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์พาณิชย์ / 17 กค. ติดตาม กกบ. หารือประเด็น IFRS9
หุ้นเทคนิค:
KKP (B 70.00-71.00, Tp 74.00// 77.00, Cut 69.00)
BDMS (B 25.00, Tp 27.25, Cut 24.80)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO11282