WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน  

 
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
Sideways up ต่อ 
          เมื่อวานหุ้น Cosmetic อย่าง BEAUTY DDD ดีดกลับแรง ขณะที่หุ้นส่งออกเล่นตามประเด็นบาทอ่อนบวกดีกว่าตลาดเช่น TU DELTA HANA ส่วนหุ้นพลังงานลงไม่แรง...แม้ราคาน้ำมันดิบเมื่อวานจะดิ่งหนัก                    
          ภาพตลาด ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ Sideways up ตามคาด และวันนี้ คาดดัชนีฯหุ้นไทย Sideways up ต่อ ส่วนประเด็น "Trade tension" มองว่า จะเริ่มมีอิทธิพลต่อภาพรวมการลงทุนน้อยลง    
          กลยุทธ์ แนะนำเน้นสะสมไปที่ ตัวหุ้น เน้นกลุ่ม Defensive ได้แก่ อสังหาฯ ค้าปลีก (สินค้าจำเป็น) โรงไฟฟ้า ประปา รถไฟฟ้า ทางด่วน โรงพยาบาล มือถือ ตลอดจนหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเป็นรายตัวไป เช่น รถยนต์, สถาบันการเงิน (เน้น พอร์ตเช่าซื้อ สินเชื่อบุคคล), ห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวกับ E-commerce และ สังคมไร้เงินสด ส่วนพวก Late cycle economy ขึ้นมารอบนี้ พิจารณาลดพอร์ตลงไปบ้าง จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัวในปีหน้า และคาดว่าจะเริ่มเห็นการปรับลดคาดการณ์ GDP โลกลง บวกกับนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นทั่วโลก               
 
What to watch : 
          (+) รมต.ช่วย ก.พาณิชย์ จีน ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหรัฐร่วมแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้า ผ่านทางการเจรจาทวิภาคีรอบใหม่ และ ระบุว่า จีนไม่ต้องการทำสงครามการค้า ขณะที่มีรายงานว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมปก็เต็มใจที่จะหันหน้าเจรจากับจีนเช่นกัน (ที่มา ASPEN)  
          (*) ช่วงนี้ ไม่ต้องไปกังวลกับ Trade tension มากนัก...คาดรายการสินค้าที่จีนจะโต้กลับ ต่อมาตรการภาษีที่สหรัฐฯกำหนดรอบใหม่ วงเงิน US$2 แสนล้าน จะไม่ทำให้ตลาดหุ้นจีน-โลก ร่วงแรงไปกว่านี้ พิจารณาจาก (1) สินค้าที่จีนนำเข้าจากสหรัฐฯ ต่อปี อยู่ที่ US$1.5 แสนล้าน เท่านั้น จีนอาจจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มบนสินค้า ปิโตรเคมี, ยานยนต์, เลนส์-แว่น, เชื้อเพลิง แต่ไม่มีสินค้าที่จะเพิ่มภาษีมากไปกว่านี้แล้ว คาดว่าจีนต้องใช้เวลาคิดมาตรการ อย่างรอบคอบก่อนจะประกาศรอบใหม่ หรือ ไปเพิ่มอัตราภาษีบนสินค้าตัวเดิม เพื่อให้วงเงินเทียบเท่ากัน ซึ่งเรามองว่า สหรัฐฯเองก็รู้ และไม่ต้องการบีบ จีน ไปมากกว่านี้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสหรัฐฯเอง ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การกลับสู่โต๊ะเจรจาในเร็วๆนี้ และจะทำให้ตลาดหุ้น Surprise ตอบรับในเชิงบวก        
          (2) เศรษฐกิจจีนกระทบเล็กน้อยจากภาษีที่สหรัฐฯเรียกเก็บ ผลกระทบจากภาษีที่สหรัฐฯเรียกเก็บบนสินค้าจีนรอบใหม่นี้ (พบว่าไม่รวม มือถือ (Handset)) ซึ่งวงเงิน US$2 แสนล้าน อัตราภาษี 10% คิดเป็นผลกระทบต่อมูลค่าส่งออกสุทธิ (Net export) US$2 หมื่นล้าน กระทบ GDP จีนแค่ 0.13ppt. และถ้ารวม Multiplier effect คาดกระทบ 0.21ppt. ต่อให้รวมภาษีรอบแรก 25% จะกระทบรวมกันราว 0.34ppt. ซึ่งทางการจีนสามารถที่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเข้ามาชดเชยได้ไม่ยาก      
          (+/-) MS ออกรายงานกลยุทธ์ แนะลดพอร์ตหุ้น High beta พร้อมทั้งหันมาเพิ่มน้ำหนักหุ้น Defensive เช่น โทรคมนาคม, อสังหาฯ, Consumer Staple (สินค้าจำเป็น), Utilities (โรงไฟฟ้า ประปา รถไฟฟ้า ทางด่วน) โรงพยาบาล โดยมองตลาดหุ้นสหรัฐฯ ครึ่งปีหลัง จะมีความเสี่ยงเผชิญต่อภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ  
          (+) สนช. ประชุมเมื่อวาน เลือก 5 กกต. แล้ว เหลืออีก แค่ 2 คาดใช้เวลาไม่นาน
 
หุ้นแนะนำ 
          NETBAY IVL  ดูรายงานวันนี้  
          Weekly tactical port แนะถอด BBL AH LH STANLY เพิ่ม GPSC GULF  
 
รายงานวันนี้  
AU : 2Q18 earnings hiccup forecast, recovery ahead   
          เราคาดกำไร 2Q18 จะได้อ่อนตัวลงเป็น 27 ล้านบาท (จาก 31 ล้านบาท ใน 2Q17 และ 1Q18) เพราะการฟื้นตัวของการบริโภคที่ช้ากว่าคาด และฝนที่ตกเร็วกว่าปกติฉุด SSS ภาพคล้ายกับอุตสาหกรรม บริษัทหาพันธมิตรเพิ่มอย่างต่อเนื่อง นอกจาก Starbucks ที่ทำไปแล้ว 10 สาขา และยังมีสายการบิน Thai Smile และ AirAsia และยังมีการขยายสาขาต่างจังหวัดและต่างประเทศด้วย อย่างไรก็ดีจากกำไร 2Q18 ที่คาดอ่อนแอ เราปรับกำไรปี 2018 ลง 6% เปน 165 ล้านบาท และปรับราคาเป้าหมายเป็น 11 บาท แนะนำ ซื้อเก็งกำไร 
 
IVL : Now riding an up-cycle!     
          คาดกำไร 2Q18 ที่ 7.76 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 164%YoY และ 34%QoQ ได้รับแรงหนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และส่วนต่างกำไรที่กว้างขึ้น ของ PET และ PTA ถึงแม้ 3Q18 จะเป็น low season แต่เราคาดกำไรของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่ง เพราะอุปทานที่ตึงตัวน่าจะหนุนส่วนต่างกำไรได้ และปริมาณขายคาดเพิ่มขึ้นจากกิจการที่บริษัทซื้อเข้ามาก่อนหน้านี้ ปัจจุบันหุ้นเทรด PE 13.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 17 เท่า แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 71 บาท
 
NETBAY : The boiling frog theory 
          ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมากว่า 30% หลังจากปรับตัวขึ้นชนราคาเป้าหมายของเราที่ 47 บาท เป็นโอกาสในการเข้าซื้ออีกครั้ง โดยเรามองว่าผลกระทบจากประเด็นกรมทะเบียนราษฎ์เปิดให้เอกชนหลายรายมีส่วนร่วมในการทำระบบ E-KYC ส่งผลกระทบต่อบริษัทค่อนข้างจำกัด โดยปีที่แล้วรายได้จากส่วนนี้มีสัดส่วนน้อยมากไม่กี่แสนบาท อีกทั้งหากดูถึงยอดการส่งออกและนำเข้ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลถึงรายได้จากธุรกรรมดังกล่าวของบริษัทที่จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 47 บาท            
 
หุ้นมีข่าว 
          (+) EA เซ็น MOU2 ยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้ KEPCO KDN และ ILJIN Power ลุยลงทุนพลังงานหมุนเวียนอาเซียน (ที่มา เดลินิวส์) 
          (0) BCP  มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อยของบริษัท จำหน่ายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ของ Nido Production (Galoc) Pty. Ltd. (NPG) ที่ถือครองแหล่งน้ำมันดิบ Galoc ในฟิลิปปินส์อยู่ 55.8% ต่อมาเมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) บริษัทย่อยของบริษัทได้ลงนามซื้อขายหุ้นกับ Tamarind Galoc Pte Ltd มูลค่าประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 660 ล้านบาท โดยแบ่งชำระส่วนหนึ่งเมื่อการโอนหุ้นแล้วเสร็จและส่วนที่เหลือชำระตามที่ได้ตกลงกัน  
          อย่างไรก็ตามการจำหน่ายดังกล่าวนี้เป็นการจำหน่ายเฉพาะแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Galoc เท่านั้น ไม่นับรวมแหล่งปิโตรเลียมที่อยู่ในระหว่างการสำรวจและพัฒนาอื่น ๆ ในประเทศฟิลิปปินส์ที่ยังถือครองโดยบริษัทย่อยของบริษัท (ที่มา ตลท.) 
          (0) วันนี้ KTC เทรดพาร์ใหม่ (พาร์ 1 บ.) 
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ 
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO11235

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!