- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 July 2018 17:48
- Hits: 1618
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> CK, COM7, ROBINS
Stock S R Comment
CK 25.00 26.25 มูลค่าลงทุนบริษัทลูกสูง ซื้อแม่แถมลูก
COM7 17.30 18.10 รอ Macbook Pro 2018 เปิดตัวใหม่ หนุนยอดขาย 2H61
ROBINS 57.00 60.00 ขยายช่องทาง Online แถมเพิ่มสัดส่วน Private Brand หนุนกำไรขั้นต้น
Too panic in oil
Oil : ราคาน้ำมันปรับตัวลงแรงเมื่อคืนนี้ โดยมีสาเหตุหลักได้แก่
1) ความกังวลของนักลงทุนต่อประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซึ่งมีประเด็นใหม่ล่าสุดได้แก่การที่สหรัฐฯเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนล้าน ดอลลาร์ฯ โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจีนก็เตรียมที่จะตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเช่นเดียวกัน
2) รายงาน OPEC ฉบับล่าสุดที่ระบุว่าซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิถุนายนสู่ระดับ 10.5 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2016
3) รายงาน OPEC ฉบับล่าสุดที่ระบุว่า อุปทานน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่ม OPEC เตรียมที่จะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2019 นี้ นำโดยการผลิตน้ำมันจากสหรัฐฯ
มุมมองของเรา : ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ ไม่ได้สะท้อนตัวเลขหนึ่งที่ออกมามีทิศทางน่าสนใจ นั่นก็คือระดับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯในสัปดาห์ล่าสุดที่ปรับตัวลดลงไปถึง 12.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดอย่างมีนัยสำคัญ และถือเป็นการปรับลดลงมากสุดนับตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งเรามองว่าน่าจะเป็นปัจจัยช่วยประคับประคองราคาน้ำมันได้ หลังจากที่ความกังวลต่อประเด็นสงครามการค้าเริ่มลดทอนลง
1650 : ถึงแม้ว่า SET Index อาจเปิดมาอ่อนตัวในช่วงเช้าวันนี้ตามหลังราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง แต่ด้วยดัชนี Dow Jones ที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น บวกกับราคาน้ำมันที่เริ่มยืนได้บ้างแล้ว คาดว่าอาจเห็นดัชนีปรับขึ้นมาแกว่งตัวในแดนบวกได้เช่นกัน ทั้งนี้ ยังคงคาดหวังการรีบาวด์ของ SET Index ในเดือนนี้สู่เป้าหมายในกรณีฐานที่ 1650 จุด และกรณีดีสุดที่ 1700 จุด (หากผลประกอบการบจ.ออกมามี Positive surprise) โดยดัชนียังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการเข้าซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศเป็นสำคัญ
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือหุ้นในกลุ่ม Blue chip ต่อไปจนกว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นถึงเป้าหมายของเราในเดือนนี้ที่ 1650 จุด ซึ่งนักลงทุนระยะสั้นอาจใช้เป็นจังหวะในการ Take profit ออกมาก่อนหนึ่งรอบ เนื่องจากประมาณการกำไรของบจ.เริ่มที่จะถูกหั่นลงอีกครั้ง ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว อาจเลือกถือหุ้นต่อไปได้ เนื่องด้วยระดับ Forward PE ปัจจุบันนั้นยังคงอยู่พียงแค่ 13.6 เท่า ต่ำกว่าระดับ 14.1 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เราย้ำมาตลอดว่าเป็นบริเวณการซื้อขายที่ตลาดหุ้นไทยมักมีเสถียรภาพมากที่สุด
"หุ้นดีดกลับ" : จากการที่เราประเมินว่า SET Index มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นในเดือนนี้ เราจึงได้วิเคราะห์และคัดกรองหุ้นที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดในรอบนี้ ซึ่งเราประเมินว่าจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 เป็นสำคัญ เนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มนี้มีการปรับฐานลงมามาก ไม่สอดคล้องกับประมาณการกำไรที่ถูกปรับลดทอนเพียงแค่เล็กน้อย โดยในมุมมองของเรา หุ้นขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะปรับตัวได้ดีกว่าตลาดในรอบนี้จะต้องมีคุณสมบัติหลายประการ (แนะนำติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์วันที่ 11 กรกฎาคม) ซึ่งจากการคัดกรองของเราพบว่ามีหุ้นอยู่ 14 บริษัทที่เข้าเกณฑ์ และมองเป็นกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการถือในพอร์ต เพื่อรองรับการปรับตัวรีบาวด์ของดัชนีในช่วงถัดไป ได้แก่
1) กลุ่มพลังงาน ได้แก่ BANPU, PTT, PTTEP, SPRC, TOP
2) กลุ่มปิโตรเคมี ได้แก่ IVL, PTTGC
3) กลุ่มธนาคาร ได้แก่ SCB, TMB
4) กลุ่มสื่อสาร ได้แก่ TRUE, DTAC
5) กลุ่มอื่นๆ ได้แก่ ROBINS, SCC, TU
แนวรับ 1,629 แนวต้าน 1,649
บทวิเคราะห์วันนี้ :
TISCO (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 102 บาท) กำไร 2Q61 ใกล้เคียงคาด สำรองหนี้ต่ำ แม้ NPL เพิ่ม
Today's Event :
STANLY XD 7.00 บาท
RWI ลูกหุ้นเข้า 20,050,447 หุ้น
SENA ลูกหุ้นเข้า 3,548,922 หุ้น
TPOLY ลูกหุ้นเข้า 5,053,877 หุ้น
TVD ลูกหุ้นเข้า 21,915 หุ้น
TEAMG เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (680mn sh @ Bt2.42) หมวดบริการเฉพาะกิจ
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO11152