- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 July 2018 17:28
- Hits: 1613
Investment Strategy
กลยุทธ์ : ดัชนี SET ขึ้นมายืนเหนือ 1640 จุด จากแรงหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน เรายังมองว่าจะมีการรีบาวน์ขึ้นไปต่อในสัปดาห์นี้ หลังความกังวลเรื่องการตั้งกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐกับจีน คลายตัวลง แต่ยังต้องเฝ้าระวัง ปัจจัยหนุนในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นการดีดกลับของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ ราคาน้ำมันและการเก็งงบ Q2/18 หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ นอกจากนั้นเริ่มเห็นแรงซื้อที่เข้ามาในตลาดหุ้นเอเชียในบางตลาด หลังดัชนีลงไปลึกจนเป็นที่น่าสนใจ ช่วงสั้นๆ นี้ เรายังมองว่า มีความเป็นไปได้ที่น่าจะมีเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาซื้อหุ้นในเอเชียที่ลงไปลึกทั้งผลของการ Valuation และการเก็งงบช่วงสั้น นอกจากนั้นในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐเอง แม้จะยังมีความกังวลเรื่องผลของการตั้งกำแพงภาษี ที่จะส่งผลต่องบของบริษัทและการเติบโตของเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง แต่ดูเหมือนโบรกเกอร์ใหญ่ๆ ในสหรัฐ กลับมีมุมมองต่ออัตราการทำกำไรและการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2018 ไม่แย่ลง โดยหลายโบรกเกอร์ มองตลาดหุ้นสหรัฐจะดีดตัวกลับได้ดีมากๆ ในช่วง ต.ค. ตลาดหุ้นไทย เองจะเป็นอย่างไร ยังต้องอิงกับความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นใหญ่ๆ งบ Q2/18 และราคาน้ำมัน การดีดตัวในช่วงสั้นน่าจะยังคงดำเนินไปได้ต่อ อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อคืนนี้ทางสหรัฐได้มีการตั้งกำแพงภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 200 พันล้านดอลลาร์ในอัตรา10% ซึ่งน่าจะส่งผลต่อตลาดหุน้ เอเชียในวันนี้ แต่การที่ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้น น่าจะยังพยุงตลาดได้ วันนี้มองแนวโน้มดัชนีอาจผันผวนตามข่าวที่ออกมา โดยมองแนวต้านที่ 1650-1655 จุดและแนวรับที่ 1635-1630 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร PTTGC TRUE TISCO BBL
Themes play :
ซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมาต่อเนื่อง โดยเช้านี้มาอยู่ที่ 33.23 บาท/ดอลลาร์ ทะลุแนวต้านสำคัญที่ 33.22 บาท/ดอลลาร์ เป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบเกือบ 10 เดือน และน่าจะยืนยันแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาทต่อเนื่อง หลังจากที่เฟดปรับคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยเป็น 4 ครั้งแต่กนง. ยังไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเลย บวกกับตลาดฯกลับมากังวลปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนอีกครั้ง โดยเมื่อคืนนี้ทางสหรัฐได้มีการตั้งกำแพงภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 10% หลังจากที่วันที่ 6 ก.ค. ได้เริ่มใช้ภาษี 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3.4 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์เช่น กลุ่มอิเล็กโทรนิคส์ (DELTA HANA KCE) กลุ่มส่งออกอาหาร (CPFGFPT TU) และกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) โดยหุ้นในกลุ่มดังกล่าวที่ CGS-CIMB แนะนำ ซื้อ ประกอบไปด้วย HANA (ราคาเป้าหมาย 43 บาท), KCE(ราคาเป้าหมาย 39 บาท), CPF (ราคาเป้าหมาย 28.25 บาท), TU (ราคาเป้าหมาย 20.60บาท), AOT (ราคาเป้าหมาย 83.00 บาท), CENTEL (ราคาเป้าหมาย 55.50 บาท) และ MINT(ราคาเป้าหมาย 44.50 บาท)
ประเด็นในสัปดาห์
11 ก.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Wholesale Inventories MoM เดือนพ.ค.
11 ก.ค. : คาด TISCO ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/18 โดยเราคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ1,708 ล้านบาท (+13.5% yoy, -3.3% qoq)
12 ก.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI YoY เดือนมิ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 2.8%
13 ก.ค. : จีนประกาศตัวเลข Export YoY เดือนมิ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 12.6%
16 ก.ค. : จีนประกาศตัวเลข GDP YoY ไตรมาส 2/61 โดยตลาดคาด 6.7% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 6.8%
16 ก.ค. : จีนประกาศตัวเลข Industrial Production YoY เดือนมิ.ย. โดยตลาดคาด 6.5% จากเดือนก่อนหน้าที่ 6.8%
18 ก.ค. : คาด TMB ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/18 โดยเราคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ2,304 ล้านบาท (-1.1% yoy, +1.1% qoq)
Fundamental Stock :
EA : Company Note คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย 44.00 บาท
BPP : Company Note คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย 25.00 บาท
Technical Pick
กลยุทธ์ : SET Index มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะสั้นหลังจากทะลุผ่านแนวต้านที่ 1630 จุดขึ้นโดยมีแนวต้านที่ 1650 จุดเป็นจังหวะขายทำกำไรในระยะสั้น เพื่อรอการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่1630 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ 1690 จุด
Italian-Thai Development (ITD TB; THB 2.82) –ซื้อ
Eastern Polymer Group (EPG TB; THB 7.65) –ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - [email protected]
Uraiwan Tantisuwannakul +66(2) 761 9256 - [email protected]
Line ID : @CGS-CIMB TH Youtube : CGS-CIMB TH
OO11078