- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 September 2014 15:57
- Hits: 2002
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
ขาย และ รอดู
หลังเปิดตลาดภาคเช้า SET ปรับตัวขึ้นได้ +7.8 จุด สูงสุดที่ 1589.93 จุดและปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1579.01 หรือ -3.12 จุด และปิดที่ 1580.87 จุด (-1.26 จุด) เป็นทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคและกลุ่ม TIPs และในรายกลุ่มมีการขึ้นลงคละกัน นําตลาดเช่น สื่อสาร พลังงาน อาหาร ขนส่ง โรงพยาบาล และยานยนต์ มูลค่าตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและมีนัยสําคัญที่ 66,576 ล้านบาทราคาน้ำมันเบรนท์และทองคํามีทิศทางทรงตัวลงเช่นกันขณะที่เงินบาททรงตัวแข็งค่าปิดที่ 32.163 บาท/US$ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 175 ล้านบาท กองทุนในประเทศสลับซื้อสุทธิ 443 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้น 2%YoY ลดลงจาก 2.3% ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2.2% หากเทียบรายเดือน CPI เดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.2%MoM ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ CPI เพิ่มขึ้น 2.2%YoY
รฟม.จะเปิดรับซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ(หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) วงเงิน 29,225 ล้านบาท ทั้งหมด 4 สัญญา สัญญาที่ 1 เป็นงานโยธา ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ มูลค่างาน 14,021 ล้านบาท, สัญญาที่ 2 งานโยธา ช่วงสะพานใหม่-คูคต มูลค่างาน 6,126 ล้านบาท, สัญญาที่ 3 ก่อสร้างงานโยธา ศูนย์ซ่อมบํารุงรักษาและอาคารจอดรถ มูลค่างาน 3,709 ล้านบาท และสัญญาที่ 4 งานออกแบบ จัดหาและติดตั้ง งานระบบรางรถไฟฟ้า มูลค่างาน 2,609 ล้านบาท ในวันที่ 30 ก.ย.นี้
ศูนย์วิจัยทองคํารายงานดัชนีความเชื่อมั่นทองคําเดือน ก.ย. ปรับตัวลดลงจากเดือนส.ค.ที่ 42.61 จุดสวนทางตลาดทุน สะท้อนทัศนคติในเชิงลบต่อราคาทองคําระหว่างเดือน สอดคล้องกันทั้งกลุ่มผู้ลงทุนทองคําและกลุ่มผู้ค้าทองคํา ซึ่งได้รับแรงกดดันมาจากการส่งสัญญาณด้านนโยบายการเงินและการตอบรับต่อความเสี่ยงในการสู้รบในตะวันออกกลาง-ยูเครนที่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ขณะที่เงินบาทยังคงผันผวนตามปัจจัยภายนอกหลังดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวแข็งค่าขึ้น
วันนี้เรากลับมาอยู่ฝั่งขายอีกครั้ง หลังจากที่ SET ดีดตัวขึ้นแต่ไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งว่าด้วยมูลค่าการซื้อขายของตลาดที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 6.65 หมื่นล้านบาท แต่ราคาหุ้นนั้นเกิดความยากลําบากที่จะถูกผลักดันให้สูงขึ้นโดยภาพรวม เนื่องด้วย SET ยังปลอดทั้งข่าวร้ายที่จะส่งผลให้เกิดแรงขายกดราคาทางลงอย่างมีนัยสําคัญ แต่การปรับตัวขึ้นมีขอบเขตที่จํากัด ในสภาวะตลาดที่เปราะบางเช่นนี้ เราแนะนําให้ขายหุ้น หรือ รอดู หุ้นแนะนําขาย เชิงเทคนิค: SCB, VIBHA, TTA,
PSL, RCL, DELTA, SVI, HMPRO
แนวโน้มการลงทุนสําหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตลงทุนเหลือ 50%
ถือครองหุ้น 50% และถือเงินสด 50%
Accumulate : -- รอจังหวะสะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกําไรเหนือ 1585 จุด ต่ำกว่า รอ
เปรียบเทียบดัชนี
สถานะพอร์ตจําลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 50% ถือเงินสด 50%
ผลตอบแทนพอร์ตจําลอง (50%) = +9.1%
ผลตอบแทนถือเงินสด (50%) = +1.0%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +10.1%
ผลตอบแทนตลาด SET = +16.9%
ผลรวมพอร์ตจําลองสุทธิ < SET
พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กําไรจากการลดพอร์ต 2 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% และวันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% ในปัจจุบัน โดยมีส่วนต่างกําไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักรวมคิดเป็น 3.3% จากการลดพอร์ต
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130