- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 July 2018 17:49
- Hits: 3800
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary 09/07/2018
Close 1,622.96 Volume Bt42,277M
Change 8.20 P/E 16.54
%Change 0.51% P/BV 1.86
หุ้นแนะนำพิเศษ
CHAYO Company Visit (ราคาปิด 3.80 อยู่ระหว่างการจัดทำประมาณการ )
ประกอบ 3 ธุรกิจหลัก ธุรกิจลงทุนและบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ธุรกิจให้บริการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้ และธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลลูกค้ามีสัดส่วนรายได้ 78% 19% และ 3% ตามลำดับ ด้านผลการดำเนินงานใน 1Q61 บริษัทมีรายได้รวม 50 ลบ. -7%YoY และมีกำไรสุทธิ 14.5 ลบ. -14%YoY เนื่องจากรายได้หลักของบริษัทมาจากพอร์ทหนี้ด้อยคุณภาพชุดเดิมที่จัดเก็บมาแล้ว 3-4 ปี ประกอบกับไม่มีพอร์ทหนี้เข้ามาใหม่ ทำให้จัดเก็บหนี้ได้น้อยลง
บริษัทซื้อหนี้มูลค่า 8.6 พันล้าบาทซึ่งเป็นหนี้ที่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท และหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน 7.9 พันล้านบานทจาก UOB ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาหนุนรายได้ใน 3Q61 โดยบริษัทปรับเป้าการซื้อหนี้เพิ่มจาก 8 พันล้านบาทสู่ 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ธุรกิจให้บริการเจรจาติดตามทวงหนี้ของบริษัทได้ลูกค้าเพิ่มเข้ามา 2 รายได้แก่ DTAC และ KBANK ซึ่งคาดจะทำให้รายได้ปี 61 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
ความเห็น หลังจากบริษัทระดมทุนเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้บริษัทมีความพร้อมทางด้านเงินทุนซึ่งเป็นปัญหาหลักของบริษัทก่อนเข้ามาในตลท. และสามารถกู้เงินด้วยต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง เพื่อใช้ในการประมูลสินทรัพย์ด้อยคุณภาพซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้และการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
Market View : ปรับตัวขึ้นต่อ
หุ้นแนะนำพิเศษ : CHAYO
หุ้นมีข่าว : กลุ่มธนาคาร ASAP
Technical Insight : CPF QH
SET Index วานนีปรับตัวขึ้นต่อมาทรงตัวแดนบวก ตามตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากสะท้อนประเด็นลบจากสงครามการค้าไปมากแล้ว โดยกลุ่ม ENERG บวกมากสุดตามราคาน้ำมัน ตามมาด้วย COMM และ CONMT อีกบางส่วน ขณะที่กลุ่ม BANK มากดดันบางส่วนจากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q61 ที่น่าจะอ่อนตัวเป็นส่วนใหญ่จากการยกเลิกค่าธรรมเนียม และยังมีแรงกดดันจากหุ้นขนาดกลาง อาทิ BEAUTY หลังจากจำนวนหุ้นซื้อคืนน้อยกว่าคาด ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,622.96 จุด (+8.20 จุด) Volume 4.23 หมื่นลบ. มาจาก Foreign Net -2,545.40 ลบ. TFEX Net +3,903 สัญญา ตราสารหนี้ -120.13 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปิดพุ่งโดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ดีดตัวขึ้น ก่อนที่ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐจะทยอยเปิดเผยผลประกอบการ
+น้ำมันดิบขยับขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการผลิตน้ำมันของลิเบียที่ปรับตัวลดลง รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ตลาดน้ำมันจะประสบภาวะตึงตัวหากสหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน
+สนง.สถิติจีนเผยดัชนี CPI เดือนมิ.ย.ขยายตัว 1.9%
-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.93 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 33.08 บาท/US
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังขาดปัจจัยมาสนับสนุน โดยค่าเงินบาทที่ริ่มแข็งค่าเป็นสัญญาณของการหยุดไหลออกของ Fund Flow ในระยะสั้นทำให้อาจมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาได้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,616-1,638 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 13 วันทำการสู่ 116.1$/Ton +8%
- CPALL ROBINS HMPRO BEM ครม.คง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี
- หุ้น Beta <0.5 Dividend > 5% DIF DRT MC LH GLOW
- หุ้น Beta <1.0 Dividend > 3.8% TCAP SCB KTB SAT
- KCE CPF GFPT กลุ่มส่งออก ค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ 33.08 บาท/US
หุ้นมีข่าว
ประเด็นลบกลุ่มธนาคาร : นักลงทุนกังวลงบการเงินงวด 2Q61 โดนผลกระทบจากบริการฟรีค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิตอลตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.
ความเห็น Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรของแบงก์ที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนได้แก่ BBL ราว 8 พันลบ. -11.3% KTB 6.6พันลบ. -3% SCB 9.9 พันลบ. -12.6% TCAP 1.8 พันลบ. -4.7% TISCO 1.7 พันลบ. -4% TMB 2.2 พันลบ. -2.7% (ปกติฟรีค่าธรรมเนียม) ส่วนแบงก์ที่คาดกำไรเพิ่มขึ้น ได้แก่ BAY 6.9 พันลบ. +11.3% KKP 1.5 พันลบ. +1% ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของสินเชื่อในช่วงปลายปีที่เป็นช่วงไฮซีซั่น ให้น้ำหนัก neutral โดยเราชอบหุ้นแบงก์เช่าซื้อที่มี yield ดี KKP TISCO
PLE-CPN” มาโค้งสุดท้าย เข้าซื้อซองรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน การรถไฟฯ ปิดขายเอกสารแล้ว สรุปมียอดเอกชนแห่เข้าซื้อ 31 ราย ทั้งนี้ ผู้บริหารยอมรับข้าซื้อ TOR เนื่องจากสนใจศักยภาพพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟ (ที่มา ข่าวหุ้น)
+S ได้สิทธิพัฒนาโครงการ Crossroads Phase 2 ในมัลดีฟส์ของกลุ่มบุญรอดฯ ระยะเวลา 1 ปี
+COMAN จ่อปิดดีลเทกโอเวอร์ไตรมาส 3/61 ฟากผู้บริหารแย้มไฮซีซันหนุนผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก พร้อมดันรายได้โต 15-20%(ที่มาทันหุ้น)
+/-BEAUTY เผยจะซื้อหุ้นคืน 64 ล้านหุ้น หรือ 2.13% วงเงิน 950 ลบ.ช่วง 24 ก.ค.61-23 ม.ค.62
ASAP (ราคาปิด 5.15 บาท Bloomberg Consensus 9.86) ผู้บริหารเปิดเผยว่า เตรียมเปิดศูนย์ “ASAP Auto Park” ย่านบางนา-ตราด” อย่างไม่เป็นทางการ (เฟสแรก) ในวันที่ 20 ก.ค. 61 โดยได้ลงทุนไปกว่า 160 ล้านบาท โดยจะเป็นพื้นที่สำหรับให้เช่ารถระยะสั้น และจุดจำหน่ายรถยนต์ที่ครบกำหนดสัญญาเช่า และมีพื้นที่ให้เช่าสำหรับบริการเสริมอื่น ๆ เกี่ยวกับยานยนต์ โดยคาดวาจะเปิดให้บริการ 100% ในต้นปี 62 ด้านการจำหน่ายรถยนต์ปี 61 อยู่ที่ 1.2 พันคัน โดยรวมยังคาดผลการดำเนินงานทั้งปีของ ASAP น่าจะยังเติบโตได้ตามเป้าที่ระหว่าง 20 – 30%YoY (ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)
ความเห็น แผนงานของ ASAP Auto Park เป็นประเด็นสำคัญที่น่าจะส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้นในการจำหน่ายรถหมดสัญญา ที่จะเปลี่ยนจากการจำหน่ายแบบประมูลมาเป็นการจำหน่ายตรงแก่ลูกค้า (อัตรากำไรขั้นต้นมากกว่าปัจจุบันที่ 8 – 10% ราวเท่าตัว) แต่คาดว่ายังไม่เห็นผลลัพธ์ในปีนี้ โดยคาดว่าปัจจัยหนุนปี 61 น่าจะเป็นการส่งมอบรถจาก Backlog ในปัจจุบันที่ 4 พันคัน (จากกองรถปัจจุบันที่ 1.17 หมื่นคัน) ส่วนการจำหน่ายรถ น่าจะเห็นปี 62 – 63 เนื่องจากมีรถที่เตรียมครบกำหนดอายุในปีดังกล่าวสูงถึง 4 พันคัน ซึ่งต้องติดตามความสำเร็จในการนำรถออกจำหน่ายแบบ B2C ว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งขนาดไหน ก่อน “ทยอยสะสม”
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
OO11023