WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
Sideways
          วันนี้ คาดแรงซื้อคืนหุ้นไทย จากกองทุนในประเทศจะเริ่มแผ่วลงระยะสั้น หลังจากโหมซื้อหนักเกือบ 1.3 หมื่นล้านบาท ในช่วง 3 วันทำการ คาดตลาด Sideways และ วอลุ่มเริ่มลดลงไปถึงวันพรุ่งนี้ เพราะตลาดคงชะลอเพื่อ รอดูท่าที Trade tension ระหว่าง สหรัฐฯ-จีน คงแนะนำ เลือกลงทุน หุ้นในกลุ่ม SMID Cap ที่เราศึกษา และ ชุดหุ้นที่เติบโตไปกับเศรษฐกิจในประเทศ (อสังหา, สื่อโฆษณา, รถยนต์ สินเชื่อรถยนต์, ร้านอาหาร, ค้าปลีก) ส่วนหุ้นที่มีความไม่แน่นอนจาก Trade tension (พลังงาน โรงกลั่น ปิโตร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์) แนะนำ รอความชัดเจน-ยอมซื้อแพง   
What to watch :  
          (+/-) การเรียกเก็บภาษีบนสินค้าหลายร้อยรายการ ระหว่าง จีน-สหรัฐฯ ล๊อตแรกวงเงินราว US$3.5 หมื่นล้าน จะมีผล 6 กค.นี้ / ต้องตามดูต่อไปว่าจะมี รายชื่อสินค้าเพิ่มเติมอีกหรือไม่หลังจากวันที่ 6 กค.นี้ไป ทั้งนี้วงเงินที่ตั้งกันไว้ในตอนแรก อยู่ที่ US$5 หมื่นล้าน ซึ่งถ้าไม่มีสินค้าถูกเก็บภาษี ตอบโต้ กันเพิ่ม เชื่อว่า ตลาดหุ้นส่วนใหญ่จะปรับขึ้น รับข่าวเชิงบวก นี้ แต่เรายังไม่วางใจ แนะนำ ยอมซื้อแพงสำหรับ "หุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก" เมื่อ Trade tension คลี่คลายลงจริง 
          (*/+) 40 ประเทศ ร่วมคัดค้านมาตรการของสหรัฐที่จะตั้งภาษีเพิ่มเติมกับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้าจากต่างชาติ ในที่ประชุมสภาการค้าของ WTO     
หุ้นแนะนำ 
          BGRIM  เมื่อวานมีประชุม กพช. รอลุ้นผลประชุม 1-2 วันนี้ เรื่องขยายสัญญาซื้อขายไฟ SPP 10 ปี   
รายงานวันนี้    
BEAUTY : Share price drops on weak 2Q; now too cheap to be true 
          ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงตั้งแต่การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ เรามองว่าหุ้นลงมากเกินไป ถึงแม้ว่าจะมีประเด็น 1) เรื่อง อ.ย. เครื่องสำอาง เข้ามากระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค 2) กำไร 2Q18 น่าจะออกมาราว 264 ล้านบาท (ลดลง 3%YoY) ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดก่อนหน้านี้ 3) 3Q18 น่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ซึ่งเรามีการปรับประมาณการกำไรลง 16% จากกำไร 2Q18 ที่น้อยกว่าคาดการณ์เดิม และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 15.50 บาท หุ้นเทรด PE 19x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 28.4 เท่า 
KKP : Anticipate 2Q18 profit jump! 
          เราประเมินกำไรใน 2Q18 ที่ 1.45 พันล้านบาท เติบโต 22% YoY หนุนโดยอัตราการเติบโตของสินเชื่อที่คาดไว้ที่ 16% YoY และ 4% QoQ หลักๆมาจากกลุ่ม Retail และ SME ขนาดเล็ก สำหรับตัวเลขยอดเติบโตสินเชื่อสุทธิ 5M18 เติบโตไป 9.6% YTD  เราประเมิน NIM ที่ 4.4% ลดลง 57bps YoY และ 18bps QoQ จากการแข่งขันและ Funding cost ที่สูงขึ้น เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 85 บาท หนุนโดยอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่คาดสูงถึง 7.6% ในปีนี้
DTAC : Marginal impact even without remedy period
          เราประเมินกำไรสุทธิ 2Q18 ที่ 200 ล้านบาท ลดลง 73% YoY และ 85% QoQ หากไม่รวม FX gain กำไรหลักคาดไว้ที่ 150 ล้านบาท ลดลง 80% YoY และ 86% QoQ โดยคาดกำไรปรับตัวลดลง YoY จากการรับรู้ OPEX คลื่น 2.3GHz ที่จ่ายให้กับ TOT มูลค่าราว 12.4 ล้านบาท/วัน อย่างไรก็ตามเราคาดกำไรจะพลิกกลับมาเติบโตแข็งแกร่งใน 4Q18 และ 2019 จาก ค่าใช้จ่าย 2G network amortization ที่หายไป เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 82.50 บาท
Quick Take 
SAWAD : Adding share stake in BFIT to 45%
          วันอังคารที่ผ่านมา SAWAD ประกาศจะถือหุ้น BFIT เพิ่มขึ้นเป็น 45.3% จากเดิม 36.4% เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SAWAD มากขึ้น ทั้งนี้ข่าวที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับเราเนื่องจากบริษัทเคยกล่าวว่าต้องการถือหุ้น BFIT 60-70% (หรือมากเท่าที่จะเป็นไปได้) ในปีที่แล้ว เราคาด SAWAD จะซื้อหุ้น BFIT เพิ่มในปีหน้าโดยซื้อหุ้นบนกระดาน อีกทั้งเรามองว่ามีโอกาสที่บริษัทจะทำ tender offer การเพิ่มสัดส่วนการถือ BFIT เป็น 45% จะหนุนกำไรปี 2018 ของบริษัท 2% (สำหรับ 2H18) แม้ข่าวนี้เป็นบวก เรามองว่ายังมีความเสี่ยงหาก SAWAD ไม่สามารถถือ BFIT ได้ 60-70% ตามแผน อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรตั้งแต่ 3Q18 เป็นต้นไปของบริษัท หนุนโดยสินเชื่อที่เติบโตดีคาดจะกลบผลกระทบจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ทั้งนี้เราขออัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ก่อนที่จะปรับคำแนะนำ ณ ปัจจุบันคงคำแนะนำ ถือ  
RS : Key Takeaways from Investor Meeting@3Jul2018 
ประเด็นจากการประชุมระหว่างนักลงทุนกับบริษัทออกมาในเชิงบวก 
          - ผลกระทบของ อ.ย. ตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา 
          * ในส่วนของ RS ได้รับผลกระทบของรายได้ในช่วง พ.ค.-กลางเดือน มิ.ย. เท่านั้น (เป็นผลจากความ panic ของผู้บริโภคในตลาดรวมเท่านั้น) อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นการฟื้นตัวของรายได้ของผลิตภัณฑ์ H&B ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 ของเดือน มิ.ย. แล้ว 
          * ข้อดีของการจัดการของ อ.ย. คือ ในตลาดผู้ผลิตที่ผิดกฎหมายถูกกวาดล้างไปหมด ส่วนที่เหลือจะเป็นผู้ผลิตที่มีศักยภาพ และผู้บริโภคจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เป็นปัจจัยบวกต่อบริษัทฯ    
          - รายได้ในไตรมาส 1 และ 2 จะไม่สามารถนำมาใช้เป็นฐานในการคิดรายได้ของ MPC ในไตรมาส 3 และ 4 ได้ เนื่องจาก 1) เห็น momentum ของตลาด H&B กลับมาเป็นปกติแล้วในช่วงปลายเดือน มิ.ย. 2) การเพิ่มจำนวนสินค้าของ H&B เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับช่องทางการขายอื่น ทั้งในส่วน outbound และ online ที่เติบโตขึ้นมากเช่นกัน 3) รายได้สินค้า Home and Lifestyle จะเทียบไม่ได้เลยกับไตรมาส 1 และ 2 ที่ผ่านมา ที่อยู่ในช่วงทดสอบตลาด ตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นมา บริษัทเตรียมสินค้าใน stock ไว้แล้วเพียงพอ และมีความแม่นยำ รู้ความต้องการของผู้บริโภคดีขึ้นมาก ทำให้รายได้ในไตรมาส 3 และ 4 จะกระโดดขึ้นสูงมาก 
          - ผลกระทบบอลโลก/เอเชี่ยนเกมส์ นั้น จะเห็นว่าช่อง 8 มี segment ของคนดูชัดเจน ผลกระทบน้อยมากจากช่วงที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่มีละครดังๆ รายการเพลงจากช่องอื่นที่ดังๆ ช่อง 8 แทบไม่ได้รับผลกระทบจากการฉายบอลโลกจนถึง ณ ปัจจุบัน ยกเว้น มีรายการพิเศษอื่นๆ ที่ได้รับความสนใจเป็นวงกว้าง เช่น ข่าวการติดตามเด็ก 13 คน 
          - เงินปันผลระหว่างกาล รอพิจารณา ส่วนเงินปันผลประจำปี คาดว่ามีการจ่ายแน่นอน 
          เรามองว่าราคาหุ้นปรับตัวลงมาจาก Sentiment ของกลุ่มและประเด็นข่าวการกวาดล้างเครื่องสำอางค์ผิดกฏหมาย แต่ผู้บริหารยืนยันว่าผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวค่อนข้างจำกัด และเห็นการฟื้นตัวกลับมาในระดับปกติแล้ว เพราะฉะนั้นราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ
หุ้นมีข่าว 
(+) SAWAD  ซื้อ บง.ศรีสวัสดิ์ (BFIT) อีก 8.39% จาก 36.35% เป็น 45.34% (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
(+) BTS  นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะมีการกู้เงินกว่า 1 แสนล้านบาท เพื่อนำไปให้ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) กู้ต่อ สำหรับใช้ชำระค่าโครงสร้างพื้นฐานและดอกเบี้ย ในการรับโอนทรัพย์สินโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทั้งเส้นทางแบริ่-สมุทรปราการ และ หมอชิตสะพานใหม่-คูคต จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มาให้ กทม.เป็นเจ้าของและบริหารรถไฟฟ้าสายนี้ทั้งเส้น (ที่มา เดลินิวส์)
(*) BEAUTY  บุกตลาด ปั๊มยอดขาย 4.2 พันล้าน นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) เปิดเผยว่าแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกเครื่องสำอางช่วงครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ดี กำลังซื้อยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง บริษัทมีแผนจะขยายสาขาของทุก Shop Brand โดยเน้นต่างจังหวัด หัวเมืองท่องเที่ยว และในกรุงเทพฯ รวมทั้งพัฒนาสินค้าและขยายช่องทางจำหน่ายเข้าสู่ตลาดคอนซูเมอร์ที่เป็น Mass Market เพิ่มขึ้น (ที่มา แนวหน้า)
 (*) สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ชาติสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) กว่า 40 ประเทศ ทั้งกลุ่มอียู จีน และญี่ปุน ร่วมคัดค้านมาตรการของสหรัฐที่จะตั้งภาษีเพิ่มเติมกับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้าจากต่างชาติ ระหว่างการประชุมสภาการค้าของ WTO โดยระบุว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับตลาดโลก และบั่นทอนกลไกระบบการค้าของ WTO (ที่มา โพสต์ทูเดย์) 
          
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ 
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO10855

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!