- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 27 June 2018 16:24
- Hits: 1835
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Stay in Domestic and Defensive Play//Speculate Energy Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index อ่อนตัวลงรีบาวด์ได้ในช่วงเปิดตลาดลงมาทดสอบระดับ 1,610 จุดจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบจากประเด็นสงครามการค้าโลก ก่อนที่จะค่อยๆรีบาวด์ขึ้นและพลิกมาปิดบวกได้เล็กน้อย ณ สิ้นวัน โดยสถานะของนักลงทุนรายกลุ่มวานนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways สร้างฐาน โดยกลุ่มพลังงานคาดว่าจะนำตลาดจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น 3.6% อย่างไรก็ตามเรายังมองกรอบการบวกตลาดยังคงจำกัดเนื่องจากปัจจัยสำคัญที่ยัง Overhang ดัชนีคือเรื่องของสงครามการค้าโลกซึ่งคาดว่ายังยืดเยื้อไปอีกพักใหญ่ และกดดันให้กระแสเงินทุนยังอยู่ในทิศทางไหลออก เราจึงยังเน้นพักเงินในหุ้น Domestic และ Defensive ส่วนระยะสั้นเก็งกำไรตามปัจจัยบวกเฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะตัว
กลยุทธ์ : พักเงินในหุ้น Domestic และ Defensive//เก็งกำไรกลุ่มพลังงาน
หุ้นเด่นเดือนมิ.ย. : BGRIM, GLOBAL, MTC, PCSGH, TVO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$575ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$339ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ US$2ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคแต่น่าจะบรรเทาลงด้วยแรงซื้อจากกลุ่มพลังงานที่ได้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> KCE <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2019 เท่ากับ 45 บาท
คาดกำไรผ่านจดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q18 และจะเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q18 จากราคาทองแดงที่เริ่มอ่อนตัว, เงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า, และปัญหาคอขวดที่คลี่คลายตั้งแต่ พ.ค. 18 อีกทั้ง ยังเป็นบริษัทเดียวในกลุ่มที่ไม่เผชิญกับปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ โดยคาดกำไรจะเร่งตัวขึ้นอีกใน 2H18 เพราะมีขยายกำลังการผลิตและเป็น High Season ของการส่งออก
คาดกำไรสุทธิปีนี้ +8% Y-Y อยู่ที่ 2.7 พันลบ. และ +14% Y-Y อยู่ที่ 3.1 พันลบ. ในปีหน้า
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง โดย WTI ขึ้นแรงกว่า 3% หลังจากสหรัฐฯสั่งห้ามบริษัทน้ำมันไม่ให้ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านภายใน 4 พ.ย. 18 และลิเบียยังมีความไม่แน่นอนในการส่งออกน้ำมัน จากผลของปัญหาการเมืองในประเทศ แนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่ดีดขึ้นระยะสั้นเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTTEP ที่ได้รับผลดีโดยตรง
(+) จีนเพิ่มสภาพคล่องในตลาดเงินต่อเนื่อง หลังจากถูกกีดกันทางการค้า PBOC ได้เพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดเงินโดยการลด RRR ลงเป็นครั้งที่ 3 อีก 0.5% เพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง ซึ่งตลาดคาดว่าจะเพิ่มปริมาณเงินในระบบราว 1 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และได้อัดฉีดเงินเข้าระบบสถาบันการเงินผ่าน Reserve Repo อีก 1.4 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยช่วง 2 วันทำการที่ PBOC ผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทำให้เงินหยวนอ่อนค่า 1.2% และตั้งแต่ต้นเดือนอ่อนค่ามาแล้ว 3% ซึ่งน่าจะเป็นความตั้งใจของจีนที่ต้องการลดผลกระทบมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงเริ่มชะลอการปรับลง แต่ประเด็นการค้ายังเปราะบางจนถึงปลายสัปดาห์หน้าที่มาตรการภาษีจะเริ่มใช้อย่างจริงจัง
(0) กลุ่มธนาคาร เราคาดว่ากลุ่มธนาคารจะมีกำไร 2Q18 ที่ 4.85 หมื่นลบ. -6% Q-Q,+9% Y-Y โดยคาดว่า TISCO และ BAY น่าจะมีกำไร 2Q18 ดีที่สุดโดยเพิ่มขึ้นทั้ง Q-Q, Y-Y ส่วน SCB คาดการณ์กำไรจะลดลงทั้ง Q-Q, Y-Y จากค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงเทคโนโลยี ด้านสินเชื่อมีแนวโน้มดีขึ้น 1-1.5%Q-Q ซึ่งดีสำหรับช่วง Low season ของกลุ่ม ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อธุรกิจ ขณะที่ NPL คาดว่าจะเห็นการปรับตัวขึ้นในกลุ่มลูกค้า SME คงคำแนะนำ Neutral ยังไม่ใช่โอกาสสำหรับแบงก์ใหญ่ แนะนำ TISCO ธนาคารเดียว
(+) ADVANC เราคาดกำไรปกติ 2Q18 ยังโตดี 1.9% Q-Q และ 15.5% Y-Y โดยภาพรวมการแข่งขันในธุรกิจมือถือไม่ได้รุนแรงขึ้น ขณะที่เกณฑ์ประมูลคลื่น 1800 MHz ที่ผ่อนคลายมากขึ้น เรามองว่ามีโอกาสที่จะทำให้ ADVANC เข้าประมูลอีก 1 ใบอนุญาต (5 MHz) เพื่อให้ประสิทธิภาพโครงข่าย 4G แตะจุดสูงสุด ซึ่งเราประเมินผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มจะไม่กดดันผลการดำเนินงานอย่างมีนัยยะโดยคิดเป็น 2.5% ของกำไรทั้งปีที่ 3.26 หมื่นลบ. +9.1% Y-Y ราคาหุ้นที่ปรับลงมาในช่วง 2 เดือนล่าสุดทำให้ Upside เปิดกว้าง รวมถึง Dividend Yield ที่กลับมาเหนือ 4% เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อลงทุน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
27 มิ.ย.- สหรัฐฯ: ดุลการค้าสหรัฐฯ (พ.ค.), ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ค.)
28 มิ.ย.- สหรัฐฯ: 1Q18 GDP ขั้นสุดท้าย ตลาดคาดลดลงเหลือ 2.2% จาก 2.9%
29 มิ.ย.- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.)
- สหรัฐฯ: PCE Price Index (พ.ค.)
30 มิ.ย.- จีน: PMI ภาคการผลิต (มิ.ย.)
5-6 ก.ค.- สหรัฐฯ: เริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 818 รายการ 3.4 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
12 ก.ค.- ไทย: สนช.นัดลงมติเลือก กกต. ชุดใหม่
(+) ตลาดสหรัฐเพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ WTI
(0) ตลาดยุโรปปรับตัวผสมผสาน เนื่องจากแรงกดดันจากสหรัฐที่ต้องการให้ชาติพันธมิตรหยุดซื้อน้ำมันจากอิหร่าน อาจทำให้ต้นทุนพลังงานจากยุโรปเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
(0) ตลาดเอเชียเช้านี้ยังคงปรับตัวผสมผสาน แม้ว่าหุ้นในกลุ่มพลังงานอาจช่วยหนุนตลาดได้ แต่ตลาดส่วนใหญ่ในเอเชียเริ่มเข้าสู่ช่วง Bear Market ในทางเทคนิค รวมไปถึงแรงกดดันจากตลาดหุ้นจีนที่ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา
() แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้น ล่าสุดปรับขึ้นมาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 2.45 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 70.53 ดอลลาร์/บาเรลล์ หลังสหรัฐขู่ว่าจะยกระดับสงครามการค้าหากชาติพันธมิตรยังซื้อน้ำมันจากอิหร่าน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 9.00 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,259.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO10505