WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRINIบล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
  
 
Today Selections   >>   BTS, ROBINS, TOP
Stock          S          R        Comment
BTS           9.10       9.50      ตัวเต็งประมูล High Speed เชื่อมสนามบิน
ROBINS        56.25     59.00      คาดไตรมาส 2/2561 เติบโต YoY ราคาตลาดซื้อขายบน PE ต่ำกว่าอุตสาหกรรม
TOP           77.50     80.00      ราคาต่ำว่า Replacement Value ราคานี้ Dividend 5-6%
When the going gets tough, the tough get going
          SET : ตลาดหุ้นไทยยังคงถูกกดดันต่อเนื่องจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ปรากฏออกมาเป็นวันที่ 14 ติดต่อกัน โดยปัจจัยที่เรากำลังจับตาอย่างใกล้ชิดได้แก่การปรับตัวอ่อนค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถึงแม้จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แต่การอ่อนค่าดังกล่าวถือว่ามีระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆใน Emerging Market ซึ่งเราประเมินว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการที่กนง.ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันก่อน การคงดอกเบี้ยของกนง.นี้ทำให้ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นของไทยเมื่อเทียบกับสหรัฐฯยังคงอยู่ในระดับติดลบต่อไป ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มที่จะขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้นของไทยต่อไปด้วยเช่นกัน
          Institutes : ปัจจัยบวกประการหนึ่งได้แก่การที่เราเริ่มเห็นนักลงทุนสถาบันในประเทศเป็นฝ่ายผู้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอีกครั้ง ซึ่งเราคาดว่าส่วนหนึ่งเป็นเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากกองทุนลดหย่อนภาษีจำพวก LTF และ RMF คาดแรงซื้อสุทธิดังกล่าวจะช่วยประคับประคองตลาดได้บ้าง หากดัชนีมีการปรับตัวลงอีก
          BANK : เราออกบทวิเคราะห์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยยังคงคำแนะนำ "Neutral" หรือ "เท่ากับตลาด" เนื่องจากประเมินว่าการปรับตัวลงของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมานั้นได้สะท้อนประเด็นการยกเลิกค่าธรรมเนียมธุรกรรม Digital ไปพอสมควรแล้ว สำหรับประเด็นมาตรฐานบัญชีใหม่หรือ IFRS9 นั้น ประเมินว่ามีโอกาสเลื่อนการบังคับใช้สูง เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจ โดยหากเลื่อนจริงมองว่าจะส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร ส่วน Upside risk ต่อผลประกอบการในไตรมาส 2/61 ได้แก่ ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ของกลุ่มที่อาจลดลง หลังจากที่แนวโน้มคุณภาพหนี้ส่งสัญญาณดีขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ NPL ใหม่นั้นลดลง เลือก Top pick ของกลุ่มได้แก่ BBL (ราคาเป้าหมาย 220 บาท) และ KBANK (205 บาท) สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ และ TCAP (64 บาท) กับ TISCO (102 บาท) สำหรับธนาคารขนาดกลาง-เล็ก
          กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือหุ้น Blue chip ขนาดใหญ่ภายหลังจากที่เข้าสะสมไปที่ระดับดัชนี 1640 จุด มองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการเข้าลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ยังคงถือเงินสดในระดับมากกว่าปกติ ได้แก่ กลุ่มหุ้น Blue chip ที่ปรับตัวลงมาแรงและมีระดับ Dividend yield ที่ 4% ขึ้นไป ได้แก่ BCP, TOP, SCC, PTTGC, BANPU, PTT, IRPC, SPRC, TCAP ประเมินว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในช่วงถัดไปจะเริ่มลดลง เนื่องจากระดับ Earning yield gap และ Dividend yield gap ของตลาดหุ้นไทยนั้นปรับตัวสูงขึ้นจนมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจแล้ว
          แนวรับ  1,607  แนวต้าน 1,678
บทวิเคราะห์วันนี้ :
Bank Sector Update: แนวโน้มสินเชื่อเดือน มิ.ย. ดีขึ้นต่อเนื่อง
Energy Sector Update: OPEC Meeting Today
Today's Event :
NKI ลูกหุ้นเข้า 1,000,000 หุ้น
        
นักวิเคราะห์ :   ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
          E-mail: [email protected]
OO10382

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!