WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

NOMURAบล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
 
 
“Domestic Play”
 
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ฟื้นตัวต่อ” ต้าน 1674/1679จุด รับ 1652/1649จุด ตลาดโลกปรับฐานตอบรับความเสี่ยงทางการค้าไปค่อนข้างมากแล้ว ส่งผลให้เราเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการประชุมกนง.วานนี้ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม และปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP 2018 ขึ้นสู่ 4.4% จากเดิม 4.1% และตัวเลขส่งออกปี 2018 ขึ้นสู่ 9.0% จากเดิม 7.0% สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแรง ผสานเริ่มเห็นสัญญาณต่างชาติ Long Future 2วันติดต่อกัน คาดช่วยจำกัด Downside ตลาดได้  วันนี้แนะ Theme “Domestic Play” : CPF, KKP, SCC
 
Nomura : Key Factors
 
(*) Trade: ความเสี่ยงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ยังคงกดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
(+) TH: การประชุมกนง.วานนี้ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิ่ม
(+) TH: กนง.ปรับ GDP 2018 ขึ้นสู่ 4.4% จาก 4.1% และคาด GDP 2019 ขยายตัว 4.2%
(+) TH: กนง.ปรับเพิ่มคาดการณ์ส่งออกปี 2018 สู่ 9.0% จากเดิม 7.0%
(+) TH: ต่างชาติ Long Future 2วันติด ทำให้ยอด Long Future QTD อยู่ที่ 20,080 สัญญา
(*) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.77% สู่ $66.22/bbl / BRT -0.45% สู่ $74.74/bbl
(*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-3,632ลบ.,Long Future+16,063สัญญา,ขายBond -6,843ลบ.
Nomura Daily Top Picks: CPF, KKP, SCC
 
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ฟื้นตัวต่อ” แนวต้าน 1674/1679จุด รับ 1652/1649จุด ประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน-ยุโรป ยังเป็นปัจจัยถ่วงตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโลก ที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ดี การที่ตลาดโลกปรับฐานลงมาแรงจากประเด็นดังกล่าว จนทำให้ PER และ PBV ของ SET ต่กว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 1เท่า(อ่านรายละเอียดใน บทวิเคราะห์กลยุทธ์ Fundamental of SET Index วานนี้) สะท้อนตลาดตอบรับความเสี่ยงทางการค้าไปค่อนข้างมาก ส่งผลให้วานนี้ ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงไทยและเอเชียเริ่มฟื้นตัวขึ้น สำหรับตลาดหุ้นไทย ได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการประชุมกนง.วานนี้ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิ่ม และปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ นำโดย 1) ปรับ GDP 2018 ขึ้นสู่ 4.4% จากเดิม 4.1% และคาด GDP 2019 ขยายตัว 4.2% 2) ปรับเพิ่มคาดการณ์ส่งออกปี 2018 สู่ 9.0% จากเดิม 7.0% และปี 2019 ขึ้นสู่ 5.0% จากเดิม 3.6% 3) คงคาดการณ์เงินเฟ้อพื้นฐานปี 2018 ที่ 0.7% ขณะที่ปรับเงินเฟ้อปี 2019 ขึ้นสู่ 0.9% จาก 0.8% บ่งชี้ชัดถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ เราเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากเม็ดเงินต่างชาติ แม้จะยังมีแรงขายในหุ้น แต่พบสัญญาณการ Long Future 2วันติดต่อกัน 30,962สัญญา ซึ่งทำให้ยอด Long Future QTD อยู่ที่ระดับ 20,080 สัญญา คาดช่วยจำกัด Downside ตลาดได้
 
Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
 
Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play KBANK, BBL, ROBINS, GLOBAL, CPALL, TOA, AMATA, WHA, CK, STEC, PYLON, BH, AOT, ERW และ ปิโตรเคมี(IVL, IRPC) วันนี้เน้น “Domestic Play”
 
    BRI Play : ภาครัฐย้ำ EEC จะเป็น Engine growth สำคัญผลักดันไทยไปสู่ Valued driven economy และจะเร่งโครงการเร่งด่วน EEC 6.8 แสนลบ.ให้จบทัน 1Q19F โดยวันนี้จะมีการขายซอง TOR Hispeed เชื่อมโยง 3 สนามบิน และรัฐเตรียม Roadshow (ฝรั่งเศส, อังกฤษ, เกาหลี) ปลายเดือน +  รฟม.” ชงบอร์ด 22 มิ.ย.นี้ เพื่อเปิดประมูลงานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ วงเงิน 1.3 แสนล้านบาท หนุน BANK(BBL, KBANK),รับเหมา(CK, STEC PYLON, SEAFCO), นิคม(AMATA, WHA) และกลุ่มทุน PTT-BTS-STEC-RATCH
    Rebound Play : หุ้นใน SET 100 ที่ลงแรงกว่า SET ตั้งแต่วันที่ 20 เมย -ปัจจุบัน  คือ -31% ถึง -10% ได้แก่ WORK, JWD, PTTGC, PTT, IRPC, BH, MINT, MTC, CPALL, BJC
    ICT : คาด ADVANC INTUCH และ TRUE Outperform หลังทุกค่ายไม่เข้าประมูลคลื่น 1800 MHz
    รฟท ส่งมอบพื้นที่การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีและสาย สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ได้ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ บวกต่อ STEC, BTS, PYLON
    FIFA World Cup Play 2018 SET มักให้ผลตอบแทนเฉลีย 4.4% โดยหุ้นที่มักOutperform คือ CENTEL, CPALL, MINT, KTB, SCB, BBL, KBANK, IVL, ROBINS
    การเลื่อนการใช้พรบ.ควบคุม non-bank เป็น sentiment เชิงบวกในระยะสั้นต่อ MTC
    Portfolio Top Picks JUNE 2018 แนะนำ AMATA, BBL, CPALL, IVL, PYLON, STEC, BH
 
Investment Theme:
 
2Q18 Theme Domestic : Scent of Election & Domestic Confidence
Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA,  IVL, IRPC, BH, MONO
1) Consumer & Farm Income Related : CPALL, ROBINS, GLOBAL,  MONO, JUBILE, SNC
2) Investment Related : KBANK, BBL, TMB, TOA, SCC, GLOBAL, HMPRO, STEC, CK, PYLON
3) Property : GOLD, LH, AP, SIRI, SC, BLAND
4) Tourism Internal & External Support : BH, BDMS, AOT, ERW, BTS
5) Global Play : IVL, IRPC and eye on PTL, AJ
 
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
 
CPF (Max Consensus TP18F 35):  Support 24.0/23.7 Resistant 25.25/26.0
 
Theme: FX Play
Earnings Outlook: คาดกําไรสุทธิ 2Q18F ที่ 4,184 ล้านบาท +3%y-y +37%q-q จากการขายหุ้น CPALL 2800 ล้านบาท ส่วนผลการดําเนินงานปกติ คาดยอดขายและ GPM ดีขึ้น q-q จากการฟื้นตัวของธุรกิจสุกรในเวียดนาม และปริมาณการส่งออกไก่-กุ้งในไทยเพิ่มขึ้น โดย 2H18F คาดกำไรสุทธิดีขึ้น จากปัญหา oversupply ของสุกรลดลง  และเข้าสู่ช่วงฤดูกาลของการส่งออกไก่ - กุ้ง ประเมินแนวโน้ม Norm profit ปีนี้ฟื้นตัวแรงเกือบเท่าตัว 
Valuation: มองเป็นจุดที่เริ่มทยอยสะสมได้ Downside จำกัด และกำไรมีแนวโน้มดีขึ้น โดยปัจจุบันเทรดที่ระดับ PER18F 15.3x
Catalyst: หมดแรงกดดันจากการถูกลดน้ำหนักในดัชนี FTSE แล้ว + เงินบาทอ่อนค่าตั้งแต่ต้น 2Q18 3.3% 
KKP (TP18F 86*): Support 67.0/66.0 Resistant 68.25/69.5
 
Theme:  Earnings Play
Earnings Outlook: คาดกำไร 2Q18F จะเห็นการเติบโตเด่นลำดับต้นๆในกลุ่มฯที่ 1.4 พันลบ. (+21% y-y, -6% q-q) จากทั้งสินเชื่อ +5% y-y จากขยายฐานลูกค้าไปกลุ่มอื่นๆอาทิ สินเชื่อบ้าน ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมคาด +26% y-y ทำได้ดีกว่ากลุ่มที่รับผลกระทบเรื่องลดค่าธรรมเนียมออนไลน์  สำหรับการตั้งสำรองยังใกล้เคียงกับเติบโต ตามสินเชื่อ ไม่น่ากังวล และคาด NPL 4.65% ลงจาก 4.65% ใน 1Q18
Valuation: ราคาหุ้น YTD ลงถึง 15% ถือว่าตอบรับข่าวร้ายกลุ่ม Bank ไปมากแล้ว  และคงความสามารถทำกำไรระดับดีและมีผลกระทบจากลดค่าธรรมเนียมน้อยกว่าธนาคารใหญ่ โดยราคาซื้อขาย ณ ระดับ P/BV 18F 1.5x และมี Div yield สูงถึง 7% มองเป็นโซนซื้อที่ได้เปรียบเรื่องต้นทุน รวมถึง Valuation น่าสนใจ และยัง Laggard TISCO
Catalyst: คาด Dividend yield สำหรับ 2018F สูง 7% (จ่าย 2 รอบ) + มีโอกาสสูงเลื่อน IFRS 9 คาดรู้ผลประชุมกกบ.กลางก.ค.
SCC (TP18F 589*): Support 412/408 Resistant 424/432
 
Theme: Investment related Play
Earnings Outlook: คาดธุรกิจปูนทยอยฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q18F เป็นต้นไป ตามเศรษฐกิจในประเทศและการส่งออก หนุนทั้งปริมาณขายและราคาขาย รวมถึง ธุรกิจ Packaging ฟื้นตัวเช่นกัน จะช่วยหักล้างกลุ่มปิโตรเคมีที่อาจอ่อนตัวจากจุดสูงสุด โดยรวมคาดกำไร 2018F โต +3.6%y-y สู่ระดับ 5.7 หมื่นลบ.
Valuation: ราคาหุ้นที่ปรับลงมาจากจุด Peak 17% จากการลดน้ำหนักของ MSCI และ FTSE ทำให้ upside เปิดกว้าง 41% ในขณะที่ทางพื้นฐานไม่มีปัจจัยลบที่มีนัย โดยคาดแรงขายนักลงทุนต่างชาติเหลือไม่มาก + ราคานึ้มี Div yield 4.5% มองเป็นโซนซื้อที่เริ่มน่าสนใจ ทยอยรับสำหรับการลงทุนระยะยาว
Catalyst: ทั้ง Valuation + Div yield เริ่มน่าสนใจ และรับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการก่อสร้างภาครัฐ
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)    
 
 
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO10335

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!