- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 June 2018 17:22
- Hits: 3524
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Domestic Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ย่อแล้วดีด” ต้าน 1659/1662จุด รับ 1626/1619จุด ความเสี่ยงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ยังคงกดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยง แต่อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยปรับฐานลงมาแรงสู่จุดที่น่าสนใจในการเข้าซื้อ จาก 1) PER18F 14.6X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี ราว 1.1 เท่า และ 2) Current PBV 1.82X เท่าฐานต่ำสุดปี 2017 ในเชิง Valuation และต่ำค่าเฉลี่ย LT 1.91 เกือบ 1 เท่าแล้ว สะท้อนความถูกในเชิงพื้นฐาน ขณะที่ พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง ดังนั้น วันนี้แนะ Theme “Domestic Play” : KBANK, BBL
Nomura : Key Factors
(*) Trade: ความเสี่ยงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ยังคงกดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
(+) TH: SET ซื้อขาย PER18F 14.6X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี ราว 1.1 เท่า
(+) TH: SET ลงมาทดสอบ Current PBV 1.82X เท่าฐานต่ำสุดปี 2017 ในเชิง Valuation
(+) TH: พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแรง GDP Nomura คาดปีนี้โต 4.3%(มี Upside Risk)
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -1.18% สู่ $65.07/bbl / BRT -0.35% สู่ $75.08/bbl
(-) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-2,644ลบ.,Long Future+14,899สัญญา,ขายBond -6,698ลบ.
Nomura Daily Top Picks: KBANK, BBL
(+) TH: SET ซื้อขาย PER18F 14.6X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี ราว 1.1 เท่า
(+) TH: SET ลงมาทดสอบ Current PBV 1.82X เท่าฐานต่ำสุดปี 2017 ในเชิง Valuation
(+) TH: พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแรง GDP Nomura คาดปีนี้โต 4.3%(มี Upside Risk)
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -1.18% สู่ $65.07/bbl / BRT -0.35% สู่ $75.08/bbl
(-) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-2,644ลบ.,Long Future+14,899สัญญา,ขายBond -6,698ลบ.
Nomura Daily Top Picks: KBANK, BBL
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ย่อแล้วดีด” แนวต้าน 1659/1662จุด รับ 1626/1619จุด ตลาดยังคงได้รับความผันผวนจากความเสี่ยงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน หลังทั้งสองประเทศออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าตอบโต้กัน ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าว ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าสู่ค่าเงินดอลล่าร์ เนื่องจากเป็น Safe Haven หนุนค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าสู่ระดับ 95.06 จุด เป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงปรับฐาน แต่อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยปรับฐานลงมาแรงรับความเสี่ยงดังกล่าวไปค่อนข้างมาก เรามองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเชิงพื้นฐาน เนื่องจาก 1) ณ ระดับ ปัจจุบัน SET ซื้อขาย PER18F 14.6X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี ราว 1.1 เท่า สะท้อนความถูกในเชิงพื้นฐานและมีส่วนลดในการลงทุนระยะยาว 2) SET ลงมาทดสอบ Current PBV 1.82X เท่าฐานต่ำสุดปี 2017 ในเชิง Valuation และต่ำค่าเฉลี่ย LT 1.91 เกือบ 1 เท่าแล้ว สะท้อน Downside จำกัด 3) พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแรง GDP Nomura คาดปีนี้โต 4.3%(มี Upside Risk) และปี 2019 3.7% โดยเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัวจากภายใน ดังนั้น ความเสี่ยงสงครามการค้าของชาติมหาอำนาจ เป็นแรงกดต่อจิตวิทยาการลงทุนใน Risk Asset แต่ผลกระทบรวมต่อไทยในเชิงพื้นฐาน ตราบที่ยังไม่นำมาตรการทางการค้ามาใช้กับสินค้าไทย ยังน่าจะจำกัดความเสี่ยงต่อภาพพื้นฐานได้ วันนี้จับตา 1) การประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% และ 2) จับตาการหารือ IFRS9 ว่าบทสรุปจะกำหนดใช้เมื่อไหร่ คาดเป็นจิตวิทบาบวกต่อ SET
Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play KBANK, BBL, ROBINS, GLOBAL, CPALL, TOA, AMATA, WHA, CK, STEC, PYLON, BH, AOT, ERW และ ปิโตรเคมี(IVL, IRPC) วันนี้เน้น “Domestic Play”
BRI Play : ภาครัฐย้ำ EEC จะเป็น Engine growth สำคัญผลักดันไทยไปสู่ Valued driven economy และจะเร่งโครงการเร่งด่วน EEC 6.8 แสนลบ.ให้จบทัน 1Q19F โดยวันนี้จะมีการขายซอง TOR Hispeed เชื่อมโยง 3 สนามบิน และรัฐเตรียม Roadshow (ฝรั่งเศส, อังกฤษ, เกาหลี) ปลายเดือน + รฟม.” ชงบอร์ด 22 มิ.ย.นี้ เพื่อเปิดประมูลงานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ วงเงิน 1.3 แสนล้านบาท หนุน BANK(BBL, KBANK),รับเหมา(CK, STEC PYLON, SEAFCO), นิคม(AMATA, WHA) และกลุ่มทุน PTT-BTS-STEC-RATCH
Rebound Play : หุ้นใน SET 100 ที่ลงแรงกว่า SET ตั้งแต่วันที่ 20 เมย -ปัจจุบัน คือ -31% ถึง -10% ได้แก่ WORK, JWD, PTTGC, PTT, IRPC, BH, MINT, MTC, CPALL, BJC
ICT : คาด ADVANC INTUCH และ TRUE Outperform หลังทุกค่ายไม่เข้าประมูลคลื่น 1800 MHz
รฟท ส่งมอบพื้นที่การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีและสาย สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ได้ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ บวกต่อ STEC, BTS, PYLON
FIFA World Cup Play 2018 SET มักให้ผลตอบแทนเฉลีย 4.4% โดยหุ้นที่มักOutperform คือ CENTEL, CPALL, MINT, KTB, SCB, BBL, KBANK, IVL, ROBINS
การเลื่อนการใช้พรบ.ควบคุม non-bank เป็น sentiment เชิงบวกในระยะสั้นต่อ MTC
Portfolio Top Picks JUNE 2018 แนะนำ AMATA, BBL, CPALL, IVL, PYLON, STEC, BH
Rebound Play : หุ้นใน SET 100 ที่ลงแรงกว่า SET ตั้งแต่วันที่ 20 เมย -ปัจจุบัน คือ -31% ถึง -10% ได้แก่ WORK, JWD, PTTGC, PTT, IRPC, BH, MINT, MTC, CPALL, BJC
ICT : คาด ADVANC INTUCH และ TRUE Outperform หลังทุกค่ายไม่เข้าประมูลคลื่น 1800 MHz
รฟท ส่งมอบพื้นที่การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีและสาย สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ได้ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ บวกต่อ STEC, BTS, PYLON
FIFA World Cup Play 2018 SET มักให้ผลตอบแทนเฉลีย 4.4% โดยหุ้นที่มักOutperform คือ CENTEL, CPALL, MINT, KTB, SCB, BBL, KBANK, IVL, ROBINS
การเลื่อนการใช้พรบ.ควบคุม non-bank เป็น sentiment เชิงบวกในระยะสั้นต่อ MTC
Portfolio Top Picks JUNE 2018 แนะนำ AMATA, BBL, CPALL, IVL, PYLON, STEC, BH
Investment Theme:
2Q18 Theme Domestic : Scent of Election & Domestic Confidence
Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA, IVL, IRPC, BH, MONO
1) Consumer & Farm Income Related : CPALL, ROBINS, GLOBAL, MONO, JUBILE, SNC
2) Investment Related : KBANK, BBL, TMB, TOA, SCC, GLOBAL, HMPRO, STEC, CK, PYLON
3) Property : GOLD, LH, AP, SIRI, SC, BLAND
4) Tourism Internal & External Support : BH, BDMS, AOT, ERW, BTS
5) Global Play : IVL, IRPC and eye on PTL, AJ
1) Consumer & Farm Income Related : CPALL, ROBINS, GLOBAL, MONO, JUBILE, SNC
2) Investment Related : KBANK, BBL, TMB, TOA, SCC, GLOBAL, HMPRO, STEC, CK, PYLON
3) Property : GOLD, LH, AP, SIRI, SC, BLAND
4) Tourism Internal & External Support : BH, BDMS, AOT, ERW, BTS
5) Global Play : IVL, IRPC and eye on PTL, AJ
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
KBANK (TP18F 223*): Support 193/190 Resistant 200/203
Theme: Event Play
Earnings outlook: คาดผลประกอบการเติบโตใน 2018F ที่ +6.3% y-y (กลุ่มอยู่ที่ 5.3%y-y) กอปรกับคาดปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารจะค่อยๆ ดีขึ้น และหากปัญหา NPL จบลงได้เราคาด KBANK จะเป็นธนาคารที่มีการเติบโตแบบยั่งยืนได้ดีที่สุด จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ทำมาอย่างต่อเนื่องสามารถเป็น main bank ของลูกค้าเกือบทุกกลุ่ม
Valuation: ราคาหุ้นลดลง 16%YTD ถือว่าตอบรับหลายปัจจัยกังวลก่อนหน้านี้ไปมากแล้ว และอยู่ในจุดที่ Valuation น่าสนใจแล้ว มี PBV ปี 2018F ต่ำเพียง 1.26x หรือคิดเป็น ค่าเฉลี่ย – 1.5SD (Mean 1.76x) เป็นจุดต่ำสุดรอบหลายไตรมาส
Catalyst: เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากภายใน และรัฐสนับสนุนลงทุนรอบใหญ่ อาทิ ลงทุน EEC มูลค่ากว่า 7 แสนลบ.ให้จบใน 1Q19F จะกระตุ้นยอดปล่อยสินเชื่อในช่วงถัดไป +วันนี้มีการประชุมกกบ.ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงในการเลื่อนการใช้ IFRS9 ออกไป 1 ปี
BBL (TP18F 222*): Support 193.5/191.5 Resistant 197.5/201
Earnings outlook: คาดผลประกอบการเติบโตใน 2018F ที่ +6.3% y-y (กลุ่มอยู่ที่ 5.3%y-y) กอปรกับคาดปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารจะค่อยๆ ดีขึ้น และหากปัญหา NPL จบลงได้เราคาด KBANK จะเป็นธนาคารที่มีการเติบโตแบบยั่งยืนได้ดีที่สุด จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ทำมาอย่างต่อเนื่องสามารถเป็น main bank ของลูกค้าเกือบทุกกลุ่ม
Valuation: ราคาหุ้นลดลง 16%YTD ถือว่าตอบรับหลายปัจจัยกังวลก่อนหน้านี้ไปมากแล้ว และอยู่ในจุดที่ Valuation น่าสนใจแล้ว มี PBV ปี 2018F ต่ำเพียง 1.26x หรือคิดเป็น ค่าเฉลี่ย – 1.5SD (Mean 1.76x) เป็นจุดต่ำสุดรอบหลายไตรมาส
Catalyst: เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากภายใน และรัฐสนับสนุนลงทุนรอบใหญ่ อาทิ ลงทุน EEC มูลค่ากว่า 7 แสนลบ.ให้จบใน 1Q19F จะกระตุ้นยอดปล่อยสินเชื่อในช่วงถัดไป +วันนี้มีการประชุมกกบ.ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงในการเลื่อนการใช้ IFRS9 ออกไป 1 ปี
BBL (TP18F 222*): Support 193.5/191.5 Resistant 197.5/201
Theme: Event Play
Earnings Outlook: เราคาดกำไรสุทธิ 2Q18F เติบโต y-y ผลักดันจากสินเชื่อยังเติบโตได้ ประกอบกับสามารถรักษา NIM ใกล้เคียงเดิมได้จากต้นทุนเงินทุนที่ลดลง ทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และคาดกำไรสุทธิ 2018F เติบโต +9% สูงกว่ากลุ่มฯ จากผลกระทบของการลดค่าธรรมเนียม น้อยกว่ากลุ่ม
Valuation: ราคาหุ้นกลุ่ม BANK ที่ YTD -12% vs SET -8% ถือว่าสะท้อนปัจจัยกดดันไปมากแล้ว มองเป็นจุดซื้อที่มี Downside ต่ำหวัง Rebound โดย BBL มีผลกระทบจากการลดค่าธรรมเนียมน้อยสุดและมี PBV18F เพียง 0.9x (ค่าเฉลี่ย – 0.5 SD) และต่ำกว่ากลุ่มมาก (1.4x)
Catalyst: วันนี้มีการประชุมกกบ. ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงในการเลื่อนการใช้ IFRS9 ออกไป 1 ปี + NPL กลุ่มผ่านจุดสูงสุดแล้ว + การลงทุนรอบใหญ่คาดจะเริ่ม 2H18F หนุนโอกาสปล่อยสินเชื่อขยายตัว
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Earnings Outlook: เราคาดกำไรสุทธิ 2Q18F เติบโต y-y ผลักดันจากสินเชื่อยังเติบโตได้ ประกอบกับสามารถรักษา NIM ใกล้เคียงเดิมได้จากต้นทุนเงินทุนที่ลดลง ทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และคาดกำไรสุทธิ 2018F เติบโต +9% สูงกว่ากลุ่มฯ จากผลกระทบของการลดค่าธรรมเนียม น้อยกว่ากลุ่ม
Valuation: ราคาหุ้นกลุ่ม BANK ที่ YTD -12% vs SET -8% ถือว่าสะท้อนปัจจัยกดดันไปมากแล้ว มองเป็นจุดซื้อที่มี Downside ต่ำหวัง Rebound โดย BBL มีผลกระทบจากการลดค่าธรรมเนียมน้อยสุดและมี PBV18F เพียง 0.9x (ค่าเฉลี่ย – 0.5 SD) และต่ำกว่ากลุ่มมาก (1.4x)
Catalyst: วันนี้มีการประชุมกกบ. ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงในการเลื่อนการใช้ IFRS9 ออกไป 1 ปี + NPL กลุ่มผ่านจุดสูงสุดแล้ว + การลงทุนรอบใหญ่คาดจะเริ่ม 2H18F หนุนโอกาสปล่อยสินเชื่อขยายตัว
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO10279