- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 19 June 2018 19:26
- Hits: 1569
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งลงต่อ ปัจจัยต่างประเทศแย่กว่าคาด
KGI คาด SET Index วันอังคารลงต่อ... มีข่าวลบเพิ่มในฝั่งต่างประเทศ (แย่กว่าคาด) ได้แก่การที่โดนัลด์ ทรัมป์สั่งการให้ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเติม...จากปัจจุบันที่เพดานของมาตรการจำกัดอยู่ที่สินค้ามูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญฯ (ภาษีนำเข้า 25%) อาจเพิ่มมาอีก 2 แสนล้านเหรียญ (ภาษีนำเข้า 10%) ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเกิดจริงหรือไม่ แต่น่าจะกดดันจิตวิทยาหุ้นเอเชียวันนี้ ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยรอบนี้ลงแรงกว่าที่เราประเมินค่อนข้างมากแต่เรามองว่า valuations ของ SET Index ณ ปัจจุบันรับรู้ปัจจัยเสี่ยงในต่างประเทศไปมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็น i) ดอกเบี้ยขาขึ้นทั่วโลก ii) สภาพคล่องในตลาดการเงินโลกที่จะลดลงในปลายปีนี้ต่อเนื่องปี 2561 โดย SET Index เทรดที่ fwd PE2561 เพียง 14.8 เท่า และ fwd PE2562 เพียง 13.8 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของ PE band ช่วง 7 ปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่สูงถึง 16.7 เท่า กอปรกับปัจจัยภายในประเทศยังแข็งแกร่งและถนนสู่การเลือกตั้งชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับ ล่าสุด นสพ.หลายฉบับรายงานตรงกันว่านายกฯ ได้ทูลเกล้าฯ กฎหมายเลือกตั้ง 2 ฉบับแล้วตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา น่าจะทำให้ความมั่นใจต่อโรดแมปเลือกตั้งสูงขึ้นอีก ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนยังคงเป็น "ถือพอร์ตหุ้น และทยอยซื้อสะสม" เช่นเดิม
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร AH, MTC*, ASAP
AH (เป้า Consensus 43.0 บาท) 1) สอท รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ค. เติบโต 13.9% YoY (ผลิตเพื่อส่งออกโต 17.8% YoY และผลิตเพื่อขายในประเทศโต 9.7% YoY) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มยานยนต์ 2Q61 จะมีแนวโน้มเติบโตในทิศทางเดียวกับยอดผลิตรถยนต์ 2) PE ปี 2561 = 10.5 เท่า ไม่แพง เทียบกำไรปีนี้ Consensus คาดจะเติบโตถึง 3.8% YoY 3) ประเมินแนวรับ 36 บาท / แนวต้าน 39 – 40 บาท (Stop loss 36 บาท)
MTC* (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) 1) คาดรับ Sentiment บวกจากการที่อาจมีการเลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินนอกกำกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ Non-Bank (อาจไม่ทันปีนี้ และต้องรอรัฐบาลใหม่ตัดสินใจ) 2) PE ปี 2561 ล่าสุดลดลงเหลือ 21.5 เท่า (อิงประมาณการฯปัจจุบันของฝ่ายวิจัยฯที่คาด EPS 1.66 บาท/หุ้น) เทียบกับอัตราการเติบโตของ EPS ปี 2560 – 2563 ที่เฉลี่ย 36% CAGR 3) ประเมินแนวรับ 34.5 บาท / แนวต้าน 38 - 40 บาท (Stop loss 34 บาท)
ASAP (เป้า Consensus 10.09 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นปรับลงมาก ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน PE ปี 2561 ±23.5 เท่า เทียบอัตราการเติบโตของกำไร 3 ปี เฉลี่ย 30% ต่อปี ทำให้ PEG ลงมาต่ำกว่า 1 เท่าแล้ว ... ข้อมูลประมาณการ Bloomberg consensus 2) ประเมิน Consensus มีโอกาสปรับประมาณการฯขึ้นหลังจำนวนรถให้เช่าในพอร์ตตอนนี้เพิ่มขึ้น +4 พันคันแล้ว ลุ้นทะลุเป้าหมายปีนี้ที่ +5 พันคัน (สิ้น 1Q61 มีจำนวนรถรวม 1.2 หมื่นคัน) 3) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H61 จะเติบโตและมี Upside จากการเปิด Asap auto park (เปิดเดือน มิ.ย. และคาดเปิดตัวระบบธุรกิจแฟรนไชส์เดือน ก.ค.) โดยการขายรถที่หมดอายุสัญญาเช่าเองผ่าน Asap auto park จะหนุนอัตรากำไร (จากเดิมโยนเข้าลานประมูล 100% ซึ่งมีอัตรากำไรต่ำ) 4) ประเมินแนวรับ 6.10 บาท / แนวต้าน 6.5 – 6.9 บาท (Stop loss 6.05 บาท)
เก็งกำไร AH, MTC*, ASAP
AH (เป้า Consensus 43.0 บาท) 1) สอท รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ค. เติบโต 13.9% YoY (ผลิตเพื่อส่งออกโต 17.8% YoY และผลิตเพื่อขายในประเทศโต 9.7% YoY) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มยานยนต์ 2Q61 จะมีแนวโน้มเติบโตในทิศทางเดียวกับยอดผลิตรถยนต์ 2) PE ปี 2561 = 10.5 เท่า ไม่แพง เทียบกำไรปีนี้ Consensus คาดจะเติบโตถึง 3.8% YoY 3) ประเมินแนวรับ 36 บาท / แนวต้าน 39 – 40 บาท (Stop loss 36 บาท)
MTC* (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) 1) คาดรับ Sentiment บวกจากการที่อาจมีการเลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินนอกกำกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ Non-Bank (อาจไม่ทันปีนี้ และต้องรอรัฐบาลใหม่ตัดสินใจ) 2) PE ปี 2561 ล่าสุดลดลงเหลือ 21.5 เท่า (อิงประมาณการฯปัจจุบันของฝ่ายวิจัยฯที่คาด EPS 1.66 บาท/หุ้น) เทียบกับอัตราการเติบโตของ EPS ปี 2560 – 2563 ที่เฉลี่ย 36% CAGR 3) ประเมินแนวรับ 34.5 บาท / แนวต้าน 38 - 40 บาท (Stop loss 34 บาท)
ASAP (เป้า Consensus 10.09 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นปรับลงมาก ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน PE ปี 2561 ±23.5 เท่า เทียบอัตราการเติบโตของกำไร 3 ปี เฉลี่ย 30% ต่อปี ทำให้ PEG ลงมาต่ำกว่า 1 เท่าแล้ว ... ข้อมูลประมาณการ Bloomberg consensus 2) ประเมิน Consensus มีโอกาสปรับประมาณการฯขึ้นหลังจำนวนรถให้เช่าในพอร์ตตอนนี้เพิ่มขึ้น +4 พันคันแล้ว ลุ้นทะลุเป้าหมายปีนี้ที่ +5 พันคัน (สิ้น 1Q61 มีจำนวนรถรวม 1.2 หมื่นคัน) 3) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H61 จะเติบโตและมี Upside จากการเปิด Asap auto park (เปิดเดือน มิ.ย. และคาดเปิดตัวระบบธุรกิจแฟรนไชส์เดือน ก.ค.) โดยการขายรถที่หมดอายุสัญญาเช่าเองผ่าน Asap auto park จะหนุนอัตรากำไร (จากเดิมโยนเข้าลานประมูล 100% ซึ่งมีอัตรากำไรต่ำ) 4) ประเมินแนวรับ 6.10 บาท / แนวต้าน 6.5 – 6.9 บาท (Stop loss 6.05 บาท)
หุ้นในกระแส
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (KBANK*, BBL*) และกลุ่มลีสซิ่ง (MTC*, ECL) วันที่ 20 มิ.ย.ที่ประชุม กกบ จะพิจารณาการเลื่อนบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 หากมีการเลื่อนบังคับใช้ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ (แต่ถ้าพลิกล๊อกไม่เลื่อน ประเมินเป็นกลางเพราะราคาหุ้นลงมาจากประเด็นมาตรฐานบัญชีใหม่แล้วก่อนหน้า)
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (KBANK*, BBL*) และกลุ่มลีสซิ่ง (MTC*, ECL) วันที่ 20 มิ.ย.ที่ประชุม กกบ จะพิจารณาการเลื่อนบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 หากมีการเลื่อนบังคับใช้ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ (แต่ถ้าพลิกล๊อกไม่เลื่อน ประเมินเป็นกลางเพราะราคาหุ้นลงมาจากประเด็นมาตรฐานบัญชีใหม่แล้วก่อนหน้า)
หุ้นมีข่าว
(+) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้เปิดขายเอกสารประกวดราคาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (สนามบบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงิน 224 แสนล้านบาท โดยมีผู้เข้าซื้อเอกสารรวม 7 รายในวันแรก (บางกอกโพสต์) เรามีมุมมองที่ดีต่อการเกิดขึ้นของโครงการดังกล่าว ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการคมนาคมขนส่งและการเกิดขึ้นของ EEC ในอนาคต ทั้งนี้ BTS* ได้เข้าซื้อเอกสารโครงการดังกล่าว เพื่อเตรียมเข้าร่วมการประมูลงานต่อไป (โดยผ่าน BSR Joint Venture ได้แก่ BTS*, STEC* และ RATCH*) ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองเมื่อปีก่อน อย่างไรก็ตาม อาจมีโอกาสที่จะมีผู้เข้าร่วมกลุ่ม BSR เพิ่มเติมในอนาคต เนื่องจากเป็นโครงการที่มีมูลค่าการลงทุนสูงมาก เรายังคงแนะนำซื้อ BTS โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 11.20 บาท
(+) กลุ่มทุนไทย-เทศ ซื้อซองไฮสปีดคึก (โพสต์ทูเดย์) ยักษ์ใหญ่ตบเท้าซื้อซอง ไฮสปีดอีอีซี 2 แสนล้าน ปตท.-บีทีเอส- ซีพี-อิตัลไทย พ่วงจีน-ญี่ปุ่น แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การขายซองเอกสาร เงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน อีอีซี วงเงิน 2.15 แสนล้านบาท วันแรก มีบริษัทเอกชนกลุ่มทุนรายใหญ่ยื่นเสนอ เข้าซื้อซองทีโออาร์รวมกัน 7 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ 2.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง 3.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ 4.บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น 5.บริษัท ปตท. 6.บริษัท อิโตชู คอร์ปอเรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น และ 7.บริษัท ชิโนไฮโดร จากประเทศจีน
(+GLOW / -TRC) ปตท.หั่นลงทุน 2.5 หมื่นล.ธุรกิจ'น้ำมัน-ท่อส่งก๊าซ'โดนหางเลข (กรุงเทพธุรกิจ) จ่อเทนเดอร์"โกลว์" หากจีพีเอสซีซื้อสำเร็จ บอร์ด ปตท.หั่นงบลงทุนปีนี้ 2.5 หมื่นล้านบาท เน้นปรับลดในธุรกิจน้ำมันและท่อส่งก๊าซ อ้างเพื่อให้สอดคล้องสถานการณ์ พร้อมอนุมัติ "จีพีเอสซี" ซื้อหุ้นโกลว์พลังงาน 69% จากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ จากนั้นทำเทนเดอร์ ส่วนที่เหลือจากรายย่อยต่อทันที ขณะที่ราคาหุ้นร่วงต่ออีก 2%
(+) ANAN* โอนแล้ว 'แอชตัน อโศก’ ลูกบ้านยังเสี่ยง (ข่าวหุ้น) “ANAN*” แจ้งโอนห้องชุดโครงการ แอชตัน อโศก ให้แก่ลูกค้าตั้งแต่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังยืนยัน กทม.ออกใบอนุญาตเปิดใช้อาคาร (อ.6) ให้แล้ว ฟาก “ศรีสุวรรณ” ชี้ลูกบ้านรับโอนโครงการแอชตัน อโศกรับความเสี่ยงในอนาคต เหตุคดีฟ้อง กทม.-รฟม.ต่อศาลปกครองยังไม่สิ้นสุด
(+) BGRIM* เซ็นเวียดนาม ลุยโซลาร์ฟาร์ม 420 MW (ข่าวหุ้น) “BGRIM*” เซ็นสัญญาพันธมิตรเวียดนาม ร่วมลงทุนพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มใหญ่ที่สุดในอาเซียน ขนาดกำลังผลิต 420 เมกะวัตต์ คาดเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบปี 62 โดย “บิ๊กตู่” ร่วมเป็นสักขีพยาน
(+ RS) ช่อง 8 ขยับค่าโฆษณา กางแผนครึ่งปีหลังลุยปรับผังใหม่ขยายฐานผู้ชม หวังเรตติ้งเพิ่ม (โพสต์ทูเดย์) ช่อง 8 ประกาศปรับค่าโฆษณาเฉลี่ย 30-40% จาก 6 หมื่น/นาที เป็น 9.5 หมื่น/นาที พร้อมปรับครึ่งปีหลังเพิ่มรายได้ นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส เปิดเผยว่า จากความนิยมในรายการต่างๆ ของช่อง 8 ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันบริษัทได้มีการปรับราคาโฆษณาเพิ่มขึ้นจาก 6 หมื่นบาท/นาที เป็น 9.5 หมื่นบาท/นาที หรือปรับขึ้นเฉลี่ยที่ประมาณ 30-40% เพื่อให้สอดคล้องกับความนิยมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าว บริษัทจึงได้มีการต่อยอดความสำเร็จด้วยการปรับผังรายการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการนำคอนเทนต์ที่ผู้ชมให้ความสนใจมาออกอากาศเพิ่มเติม
(+) BCPG* ทุ่มงบลงทุน 825 ล้าน ซื้อโรงไฟฟ้าลมลิกอร์ จากอดีตผู้บริหาร IFEC (ข่าวหุ้น) BCPG* ทุ่มลงทุน 825 ล้านบาท ซื้อโรงไฟฟ้าลมลิกอร์ ขนาดกำลังการผลิต 10 MW ที่อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จาก “สุเมธ สุทธภักติ” อดีตผู้บริหาร IFEC คาดเริ่ม COD ภายในสิ้นปีนี้
(+) TCMC ปี 61 รายได้โต 1 หมื่นล้าน ส่งพรม “รอยัลไทย” ตีตลาดญี่ปุ่น (ข่าวหุ้น) TCMC มั่นใจฟันรายได้ปี 2561 ทะยานแตะ 10,000 ล้านบาท ผลบวกปรับโครงสร้างบริหาร-ความต้องการใช้สินค้าโต แต่งตั้ง “โทริ คอร์ปอเรชั่น” จำหน่ายพรมแบรนด์ “รอยัลไทย” ตีตลาดโรงแรมญี่ปุ่น
(+) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้เปิดขายเอกสารประกวดราคาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (สนามบบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงิน 224 แสนล้านบาท โดยมีผู้เข้าซื้อเอกสารรวม 7 รายในวันแรก (บางกอกโพสต์) เรามีมุมมองที่ดีต่อการเกิดขึ้นของโครงการดังกล่าว ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการคมนาคมขนส่งและการเกิดขึ้นของ EEC ในอนาคต ทั้งนี้ BTS* ได้เข้าซื้อเอกสารโครงการดังกล่าว เพื่อเตรียมเข้าร่วมการประมูลงานต่อไป (โดยผ่าน BSR Joint Venture ได้แก่ BTS*, STEC* และ RATCH*) ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองเมื่อปีก่อน อย่างไรก็ตาม อาจมีโอกาสที่จะมีผู้เข้าร่วมกลุ่ม BSR เพิ่มเติมในอนาคต เนื่องจากเป็นโครงการที่มีมูลค่าการลงทุนสูงมาก เรายังคงแนะนำซื้อ BTS โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 11.20 บาท
(+) กลุ่มทุนไทย-เทศ ซื้อซองไฮสปีดคึก (โพสต์ทูเดย์) ยักษ์ใหญ่ตบเท้าซื้อซอง ไฮสปีดอีอีซี 2 แสนล้าน ปตท.-บีทีเอส- ซีพี-อิตัลไทย พ่วงจีน-ญี่ปุ่น แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การขายซองเอกสาร เงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน อีอีซี วงเงิน 2.15 แสนล้านบาท วันแรก มีบริษัทเอกชนกลุ่มทุนรายใหญ่ยื่นเสนอ เข้าซื้อซองทีโออาร์รวมกัน 7 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ 2.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง 3.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ 4.บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น 5.บริษัท ปตท. 6.บริษัท อิโตชู คอร์ปอเรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น และ 7.บริษัท ชิโนไฮโดร จากประเทศจีน
(+GLOW / -TRC) ปตท.หั่นลงทุน 2.5 หมื่นล.ธุรกิจ'น้ำมัน-ท่อส่งก๊าซ'โดนหางเลข (กรุงเทพธุรกิจ) จ่อเทนเดอร์"โกลว์" หากจีพีเอสซีซื้อสำเร็จ บอร์ด ปตท.หั่นงบลงทุนปีนี้ 2.5 หมื่นล้านบาท เน้นปรับลดในธุรกิจน้ำมันและท่อส่งก๊าซ อ้างเพื่อให้สอดคล้องสถานการณ์ พร้อมอนุมัติ "จีพีเอสซี" ซื้อหุ้นโกลว์พลังงาน 69% จากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ จากนั้นทำเทนเดอร์ ส่วนที่เหลือจากรายย่อยต่อทันที ขณะที่ราคาหุ้นร่วงต่ออีก 2%
(+) ANAN* โอนแล้ว 'แอชตัน อโศก’ ลูกบ้านยังเสี่ยง (ข่าวหุ้น) “ANAN*” แจ้งโอนห้องชุดโครงการ แอชตัน อโศก ให้แก่ลูกค้าตั้งแต่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังยืนยัน กทม.ออกใบอนุญาตเปิดใช้อาคาร (อ.6) ให้แล้ว ฟาก “ศรีสุวรรณ” ชี้ลูกบ้านรับโอนโครงการแอชตัน อโศกรับความเสี่ยงในอนาคต เหตุคดีฟ้อง กทม.-รฟม.ต่อศาลปกครองยังไม่สิ้นสุด
(+) BGRIM* เซ็นเวียดนาม ลุยโซลาร์ฟาร์ม 420 MW (ข่าวหุ้น) “BGRIM*” เซ็นสัญญาพันธมิตรเวียดนาม ร่วมลงทุนพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มใหญ่ที่สุดในอาเซียน ขนาดกำลังผลิต 420 เมกะวัตต์ คาดเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบปี 62 โดย “บิ๊กตู่” ร่วมเป็นสักขีพยาน
(+ RS) ช่อง 8 ขยับค่าโฆษณา กางแผนครึ่งปีหลังลุยปรับผังใหม่ขยายฐานผู้ชม หวังเรตติ้งเพิ่ม (โพสต์ทูเดย์) ช่อง 8 ประกาศปรับค่าโฆษณาเฉลี่ย 30-40% จาก 6 หมื่น/นาที เป็น 9.5 หมื่น/นาที พร้อมปรับครึ่งปีหลังเพิ่มรายได้ นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส เปิดเผยว่า จากความนิยมในรายการต่างๆ ของช่อง 8 ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันบริษัทได้มีการปรับราคาโฆษณาเพิ่มขึ้นจาก 6 หมื่นบาท/นาที เป็น 9.5 หมื่นบาท/นาที หรือปรับขึ้นเฉลี่ยที่ประมาณ 30-40% เพื่อให้สอดคล้องกับความนิยมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าว บริษัทจึงได้มีการต่อยอดความสำเร็จด้วยการปรับผังรายการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการนำคอนเทนต์ที่ผู้ชมให้ความสนใจมาออกอากาศเพิ่มเติม
(+) BCPG* ทุ่มงบลงทุน 825 ล้าน ซื้อโรงไฟฟ้าลมลิกอร์ จากอดีตผู้บริหาร IFEC (ข่าวหุ้น) BCPG* ทุ่มลงทุน 825 ล้านบาท ซื้อโรงไฟฟ้าลมลิกอร์ ขนาดกำลังการผลิต 10 MW ที่อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จาก “สุเมธ สุทธภักติ” อดีตผู้บริหาร IFEC คาดเริ่ม COD ภายในสิ้นปีนี้
(+) TCMC ปี 61 รายได้โต 1 หมื่นล้าน ส่งพรม “รอยัลไทย” ตีตลาดญี่ปุ่น (ข่าวหุ้น) TCMC มั่นใจฟันรายได้ปี 2561 ทะยานแตะ 10,000 ล้านบาท ผลบวกปรับโครงสร้างบริหาร-ความต้องการใช้สินค้าโต แต่งตั้ง “โทริ คอร์ปอเรชั่น” จำหน่ายพรมแบรนด์ “รอยัลไทย” ตีตลาดโรงแรมญี่ปุ่น
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
COM7* (เป้า Consensus 21.07 บาท) ประเมินแนวรับ 17.6 บาท / แนวต้าน 18.5 บาท (Stop loss 17.2 บาท)
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 7.95 บาท) ประเมินแนวรับ 6.15 บาท / แนวต้าน 6.6 บาท (Stop loss 6.0 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 21.07 บาท) ประเมินแนวรับ 17.6 บาท / แนวต้าน 18.5 บาท (Stop loss 17.2 บาท)
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 7.95 บาท) ประเมินแนวรับ 6.15 บาท / แนวต้าน 6.6 บาท (Stop loss 6.0 บาท)
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
BANPU* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 26 บาท โดยมีสาเหตุสำคัญมาจาก 1) ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ 2.5 พันล้านบาทจากคดีหงสาเหมือนใน 1Q61 และ 2) มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักก่อนภาษี (EBT) ใน 2Q61 จะเพิ่มขึ้นแค่ 53% QoQ เป็น 6.9 พันล้านบาทเนื่องจาก 1) ปริมาณการผลิตถ่านหินเพิ่มขึ้น 2) ต้นทุนการผลิตถ่านหินในออสเตรเลียลดลง และ 3) รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Banpu Power (BPP.BK/BPP TB)* เพิ่มขึ้น เรายังคงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมาย SoTP เอาไว้ที่ 26.00 บาท
BANPU* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 26 บาท โดยมีสาเหตุสำคัญมาจาก 1) ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ 2.5 พันล้านบาทจากคดีหงสาเหมือนใน 1Q61 และ 2) มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักก่อนภาษี (EBT) ใน 2Q61 จะเพิ่มขึ้นแค่ 53% QoQ เป็น 6.9 พันล้านบาทเนื่องจาก 1) ปริมาณการผลิตถ่านหินเพิ่มขึ้น 2) ต้นทุนการผลิตถ่านหินในออสเตรเลียลดลง และ 3) รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Banpu Power (BPP.BK/BPP TB)* เพิ่มขึ้น เรายังคงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมาย SoTP เอาไว้ที่ 26.00 บาท
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยต้าน 1686 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1686 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1686-1699 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1686 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1686-1669 จุด
แนวรับวันนี้: 1678/1670 แนวต้านวันนี้: 1686/1696
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยต้าน 1686 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1686 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1686-1699 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1686 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1686-1669 จุด
แนวรับวันนี้: 1678/1670 แนวต้านวันนี้: 1686/1696
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ