- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 15 June 2018 18:55
- Hits: 1864
บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 15-06-18
Investment Strategy
กลยุทธ์ : ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวานนี้ ออกมาตามที่ตลาดคาดคือ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.000% และประกาศคงวงเงิน QE ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือนจนถึงเดือนก.ย. และจะเริ่มปรับลดวงเงิน QE ลงสู่ระดับ 1.5 หมื่นล้านยูโรในเดือนต.ค.-ธ.ค.และจะยุติมาตรการ QE ภายในสิ้นเดือนธ.ค. เมื่อบวกกับความกังวลในเรื่องที่สหรัฐจะเปิดเผยมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในวันนี้ก็ส่งผลให้นักลงทุนเลือกที่จะขายสินทรัพย์เสี่ยงแล้วมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรจึงส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี (Bond yield) ปรับตัวลดลงจาก 2.9484% เมื่อวันก่อนมาปิดที่ 2.9251% เมื่อวานนี้ทั้งๆ ที่เฟดเพิ่งจะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย0.25% และปรับคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 4 ครั้งในปีนี้ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็กลับมาแข็งค่าขึ้นมากเมื่อวานนี้โดยดัชนี dollar index พุ่งขึ้นแรงในวันเดียวจาก 93.54จุดเป็น 94.873 จุด ในวันนี้คาดว่าตลาดจะเผชิญแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศต่อเนื่องหลังจากที่เมื่อวานนี้ขายออกมาสูงถึง 9,643 ล้านบาท โดยเช้านี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงทะลุแนวต้านสำคัญที่ 32.22 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (ค่าเงินบาทไม่สามารถทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันมานานกว่า 15 เดือนแล้ว) เป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 6 เดือน และน่าจะยืนยันแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาทต่อเนื่อง (หลังเฟดปรับคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยเป็น 4 ครั้งแต่กนง. ยังไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเลย) ดังนั้นเราคาดว่าตลาดจะถูกนักลงทุนต่างประเทศขายต่อเพื่อลดความเสี่ยงผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน กลยุทธ์การลงทุนวันนี้คือเข้าซื้อเมื่อตลาดปรับลงและขายทำกำไรระยะสั้นเมื่อมีการรีบาวน์ เราให้แนวรับที่ 1700-1695 จุด และแนวต้านที่ 1715-1719 จุด หุน้ แนะนำซื้อเก็งกำไรวันนี้คือ ADVANC BJC CENTEL GPSC
Themes play :
ซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมาต่อเนื่อง โดยเช้านี้มาอยู่ที่ 32.31 บาท/ดอลลาร์ ทะลุแนวต้านสำคัญที่ 32.22 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (ค่าเงินบาทไม่สามารถทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันมานานกว่า 15 เดือนแล้ว) เป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 6 เดือนและน่าจะยืนยันแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาทต่อเนื่อง (หลังเฟดปรับคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยเป็น 4 ครั้งแต่กนง. ยังไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเลย) นอกจากนั้นการที่ดุลการค้าเดือนเมษายนกลับมาขาดดุลกว่า 1,283 ล้านเหรียญและมีแนวโน้มขาดดุลการค้าต่อในเดือนพ.ค. จากการที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นก็ช่วยสนับสนุนให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอีกด้วย โดยหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์เช่น กลุ่มอิเล็กโทรนิคส์ (DELTA HANA KCE) กลุ่มส่งออกอาหาร (CPF GFPT TU) และกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT)โดยหุ้นในกลุ่มดังกล่าวที่ CGS-CIMB แนะนำ ซื้อ ประกอบไปด้วย HANA (ราคาเป้าหมาย 43บาท), KCE (ราคาเป้าหมาย 39 บาท), CPF (ราคาเป้าหมาย 27.25 บาท), TU (ราคาเป้าหมาย 22.10 บาท), CENTEL (ราคาเป้าหมาย 55.50 บาท) และ MINT (ราคาเป้าหมาย44.50 บาท)
CGS-CIMB : Opportunity Day 1Q18
15 มิ.ย. : AGE PRM SKN SELIC
18 มิ.ย. : SKE
19 มิ.ย. : PLANB
20 มิ.ย. : PDI
21 มิ.ย. : IMPACT PREB TOA NDR
22 มิ.ย. : PJW TSC
Fundamental Stock :
AUTO : Sector Note คำแนะนำ: Overweight Top pick - SAT
กลยุทธ์ : SET Index ปรับลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่1710 จุดลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1700 และ1680 จุดตามกรอบแนวโน้มขาลง โดยมีแนวต้านในระยะสั้นที่ 1714-1720 จุด และมีแนวต้านสำคัญที่1740 จุด
Synergetic Auto Performance (ASAP TB; THB6.20) – ซื้อ
Workpoint Entertainment (WORK TB; THB 45.75)– ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - [email protected]
Uraiwan Tantisuwannakul +66(2) 761 9256 - [email protected]
Line ID : @CGS-CIMB TH Youtube : CGS-CIMB TH
OO10116
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 15-06-18
แกว่งในกรอบ 1700-1720 จุด เน้นกลุ่มเป้าหมาย Window dressing โดยเฉพาะธนาคาร
ธนาคารกลางยุโรปประกาศยุติมาตรการ QE ในสิ้นปีนี้ซึ่งเป็นการแสดงถึงภาพรวมเศรษฐกิจยูโรโซนที่ฟื้นตัวดีขึ้น แต่การปรับลดคาดการณ์อัตราขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนปี 61 จาก 2.4% สู่ระดับ 2.1% ทำให้เกิดภาพที่แตกต่างเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ตัวเลขเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง ส่งผลให้ยูโรอ่อนค่า ขณะที่เงินเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น เป็นลบต่อทิศทางกระแสเงินทุนโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging markets) นอกจากนี้ตลาดมีโอกาสกลับมากังวลมากขึ้นต่อมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ หลังล่าสุด ปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐฯได้เริ่มดำเนินมาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แม้แรงกดดันภายนอกทั้งจากกระแสเงินทุนที่ยังคงไหลออกอย่างต่อเนื่องบวกกับเสถียรภาพการค้าโลกที่ยังคงไม่แน่นอน ส่งผลให้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้นยังคงไร้ทิศทาง อย่างไรก็ตามเรามองว่า ณ ระดับดัชนีปัจจุบันหรือต่ำกว่า 1700 จุด คือระดับที่สะท้อนความเสี่ยงต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งของเฟดไปแล้ว และเป็นจุดที่เหมาะสมต่อการทยอยเข้าสะสมหุ้นพื้นฐานดีราคาไม่แพง อาทิ BBL, KBANK, ROBINS, BANPU ขณะที่กลุ่มสื่อสาร อาจได้จิตวิทยาบวกระยะสั้นจากการที่ DTAC ตัดสินใจไม่เข้าประมูลคลื่น 1800MHz ซึ่งจะบวกต่อการฟื้นตัวของกำไรและการจ่ายปันผลของหุ้นในกลุ่ม
ขณะที่ Theme การเก็งกำไร ยังอยู่กับ 1) ฟุตบอลโลก CPALL, MAKRO, BJC 2) ผลการดำเนินงานดี ได้แก่ BANPU, IVL, SAPPE, BBL 3) หุ้นที่มีโอกาสเกิด Window dressing ได้แก่ EA, MINT, CENTEL, TMB, BJC, KBANK, TU, ROBINS, CPN, TCAP, SCC, PSH, IRPC, KTB, BBL, GLOW, RATCH เน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของสถาบัน // กลุ่มกระเบื้อง มีแรงผลักดันรับข่าวกลุ่มปูนใหญ่ เตรียม IPO บริษัทในเครือที่ทำธุรกิจกระเบื้อง
Investment Theme เลือกเก็งกำไรรายตัวในหุ้นที่เป็นเป้าหมาย Window dressing // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1)) IVL 2) BANPU // กลุ่มธนาคาร ชอบได้แก่ BBL, KTB, SCB // หุ้นกลุ่มไฟฟ้า BCPG, BGRIM, GULF*, EA // ผลการดำเนินงานผ่านจุดแย่สุด BANPU, BPP*, SAPPE, GUNKUL*, MONO*
ภาพรวมกลยุทธ์: มีโอกาสฟื้นตัวกรอบแคบจาก Window dressing ความเสี่ยงทางลงจำกัด ที่ 1685-1700 ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นจุดเสี่ยงซื้อ // หุ้นแนะนำวันนี้ BANPU, BBL / เก็งกำไร ROBINS (เป้า 69 ตัดขาดทุน 63.50), AQUA* (เป้า 0.65 ตัดขาดทุน 0.54)
แนวรับ 1700 / แนวต้าน : 1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นการลงทุน
ทรัมป์เปิดศึกการค้าจีน – ปธน.ทรัมป์ อนุมัติมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน วงเงิน 50 พันล้านเหรียญฯ โดยคณะทำงานของทรัมป์เตรียมเปิดเผยรายชื่อสินค้าจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีวันนี้
ธนาคารกลางยุโรปประกาศยุติ QE สิ้นปีนี้ – ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุมวานนี้โดยระบุว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอย่างน้อยจนถึงช่วงฤดูร้อนปีหน้า พร้อมส่งสัญญาณยุติมาตรการ QE สิ้นปีนี้
ลุ้นรายใหญ่มือถือ DTAC ADVAN ประมูลคลื่น 1800MHz – กลุ่มผู้ประกอบการมือถือ DTAC ADVANC เตรียมยื่นซองประมูลคลื่น 1800MHz วันนี้ อย่างไรก็ตามล่าสุด DTAC ประกาศไม่เข้าร่วมประมูลคลื่นในครั้งนี้
กกร.เล็งปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP-ส่งออก – กกร.เผยเตรียมปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลข GDP และส่งออกปี 61 ในต้นเดือน ก.ค.นี้ อิงตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ประเด็นติดตาม: 15 มิ.ย. – ประชุมบีโอเจ/ 22 มิ.ย. – ประชุมโอเปค / 22 มิ.ย. – TH ศาลฯพิจารณารับคำฟ้องการยึดอำนาจของคสช.
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
นักกลยุทธ์: กิจพณ ไพรไพศาลกิจ
Email: [email protected]
OO10117