บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 14-06-18

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Thursday, 14 June 2018 17:52; Hits: 1341

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้

เน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัว / Window Dressing

Smart Pick

เก็งกำไร ADVANC

ราคาปิด 189.50 บาท

ราคาเหมาะสม 250.00 บาท

การยื่นเจตจำนงการประมูลคลื่น 1800MHz จะมีขึ้นในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ ADVANC จะไม่ร่วมในครั้งนี้ เพราะคลื่น ณ ปัจจุบัน 55MHz มากเพียงพอต่อการให้บริการไปอีก 2-3ปีข้างหน้า หากเป็นไปตามคาด ราคาหุ้น ADVANC มีโอกาสฟื้นตัวเด่น อีกทั้ง ADVANC เป็นอีกหุ้นที่ได้อานิสงค์จาก Window Dressing ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้

เก็งกำไร BANPU

ราคาปิด 21.80 บาท

ราคาเหมาะสม 32.00 บาท

ราคาถ่านหินล่วงหน้านิวคาสเซิลวานนี้ปิดที่ US$116.00/ตัน ทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบเกือบ 6 ปี คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นถ่านหินในวันนี้

คาดกำไรสุทธิ 2Q61 ที่ 3.3 พันล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุน 3.9 พันล้านบาท ใน 1Q61 และ Valuation น่าสนใจที่ระดับ PER2561 เพียง 7.6 เท่า และ Downside Risk จำกัด เนื่องจากมูลค่าตลาดอิงส่วนลด 10% ของ BPP และ ITMG คิดเป็นมูลค่าต่อหุ้น BANPU ที่ 10.30 บาท และ 8.40 บาท ตามลำดับ

เก็งกำไร CPN

ราคาปิด 73.25 บาท

ราคาเหมาะสม 86.50 บาท

ราคาหุ้นลงถึง 5.5% ใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนความกังวลของแผนร่วมทุนระหว่างสยามพิวรรธน์ และ Simon เพื่อพัฒนาโครงการ Luxury Premium Outlet และโอกาสเลื่อนเปิดห้างใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ตเฟส 2 และเซ็นทรัล ไอซิตี้

เราคาดกำไรปกติ 2Q61 เติบโต YoY จากแรงหนุนของการรับรู้รายได้โครงการคอนโดมิเนียม และเพิ่มขึ้น YoY ต่อเนื่องใน 3Q61 จากการกลับมาให้บริการเต็มรูปแบบอีกครั้งของห้าง CTW

เก็งกำไร LPN

ราคาปิด 10.20 บาท

แนวต้านทางเทคนิค 10.50-11.00 บาท

สัญญาณทางเทคนิคราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นทดสอบ 10.50-11.00 บาท แนวรับ 10.10 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 9.90 บาท

LPN เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดการณ์ปันผล 1H61 หุ้นละ 0.17 บาท คิดเป็น Dividend Yield 1.6% และทั้งปี 2561 หุ้นละ 0.57 บาท คิดเป็น Dividend Yield 5.6%

Pair Trade : N.A.

กลยุทธ์วันนี้

เราคาด SET INDEX เปิดลงตามตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ แต่เรามองว่าผลกระทบดังกล่าวต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทยจำกัด ดังจะเห็นได้จากดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กลับมาอ่อนค่า / ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีขยับขึ้นเพียง 1.7bps เท่านั้น ขณะที่ปัจจัยบวกสำคัญในช่วงที่เหลือของเดือนนี้คือ การทำ Window dressing ทำให้เรามองว่าหุ้นขนาดใหญ่จะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในวันนี้ และส่งผลให้ SET INDEX ปิดบวกได้ในท้ายที่สุด ประเมินกรอบแกว่งวันนี้ 1711-1725 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่น่าจะต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท

บทวิเคราะห์พื้นฐานวันนี้ เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" BANPU เนื่องจาก (1) ราคาถ่านหิน Newcastle ทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี (2) แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q61 จะพลิกจากขาดทุนสุทธิใน 1Q61 เป็นกำไรสุทธิ 3.3 พันล้านบาท เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษคดีหงสาเหมือนใน 1Q61 และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสนี้ และ (3) มูลค่าหุ้น BANPU ยังถูก เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดของบริษัทลูกอย่าง BPP และ ITMG

ตลาดหุ้นไทยยังขาดสีสันในระยะสั้น เชิงกลยุทธ์ เราแนะนำสะสมหุ้นปันผลเด่นเช่นเดิม (Dividend Play) ได้แก่ LH/ KKP/ TTW/ QH/ PSH/ INTUCH ส่วนการเก็งกำไรในกรอบ 1-2 สัปดาห์ เลือกหุ้นที่มีโอกาสในการเป็นเป้าหมายของการทำ Window Dressing ช่วงปลายเดือนนี้อย่าง AOT / ADVANC / BJC/ CPN/ ROBINS เป็นต้น

HOT Topic

1. เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.75-2.00% ตามคาด แต่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปี 2561 เราประเมินอย่างไร?

2. ฟุตบอลโลก Kick-off วันนี้ เป็นแรงหนุนต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก

3. ติดตามการประชุม ECB คาดส่งสัญญาณชะลอ QE

4. Scenario การยื่นประมูลคลื่น 1800MHz พรุ่งนี้ นักลงทุนควรรับมืออย่างไร?

ตลาดหุ้นไทยวานนี้

วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลง 8.95 จุด ปิดที่ 1718.34 จุด โดนกดดันของหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก สะท้อนจากดัชนี SET50 (-0.58%) และ SET100 (-0.61%) ขณะที่ sSET (+0.7%) มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบางเพียง 4.3 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 8 อีกราว 4.3 พันล้านบาท รวม 8 วันทำการขายสุทธิทั้งสิ้นกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ยังคงซื้อสุทธิเป็นวันที่ 14 ติดต่อกันอีกราว 686 ล้านบาท รวม 14 วันทำการซื้อสุทธิสะสมกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 9.3 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 3 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 8.3 พันสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Long สุทธิราว 1.3 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อยราว 764 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้

เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25 bps เป็น 1.75%-2.00% โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และปรับคาดการณ์ GDP สหรัฐฯปี 2561 ขึ้นเป็น 2.8% จาก 2.7% พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้

ประธานเฟด Jerome Powell กำลังพิจารณาให้มีการตอบคำถามสื่อ หรือ Press Conference หลังจบการประชุมเฟดทุกครั้งในปีหน้า

ประธานาธิบดีสหรัฐฯเตรียมประกาศรายชื่อสินค้าจากจีนที่จะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% วันศุกร์นี้

EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลง 4.1 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.7 ล้านบาร์เรล

อังกฤษรายงานเงินเฟ้อเดือนพ.ค. ขยายตัว 2.4% YoY เท่ากับที่ตลาดคาด

รัฐสภาอังกฤษกำหนดวันถอนตัวจากสหภาพยุโรป (EU) เป็นวันที่ 29 มี.ค. 2562

ติดตามการประชุม ECB วันที่ 14 มิ.ย.

ติดตามการประชุม BOJ และการรายงานเงินเฟ้อยุโรป วันที่ 15 มิ.ย.

ติดตามการยื่นซองประมูลคลื่น 1800MHz วันที่ 15 มิ.ย.

ติดตามประกาศหลักทรัพย์เพื่อใช้คำนวณดัชนี SET50/ SET100/ SETHD รอบเดือน ก.ค.-ธ.ค.2561 คาดตลท.ประกาศช่วงวันที่ 14-15 มิ.ย.

ติดตามการปรับดัชนี FTSE วันที่ 15 มิ.ย.

Strategist Team

Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050