- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 June 2018 17:36
- Hits: 767
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง / สะสมหุ้นปันผล
Smart Pick
เก็งกำไร KTC
ราคาปิด 348.00 บาท
ราคาเหมาะสม 410.00 บาท
KTC มีปัจจัยบวกรออยู่ โอกาสถูกเลือกเข้าดัชนี SET50 ซึ่งจะประกาศกลางเดือน มิ.ย. และมีผลตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.เป็นต้นไป ส่งผลให้เม็ดเงินของกองทุนในประเทศเข้าสะสม
เราคาดกำไรปกติ 2Q61 เติบโต YoY จาก Credit Cost ที่ลดลง เนื่องจากมี Coverage Ratio สูงถึง 591% ส่งผลให้การตั้งสำรองปีนี้ลดลง ผลักดันกำไรปกติปี 2561 เติบโตถึง +58% YoY เป็น 5,227 ล้านบาท
เก็งกำไร TRUE
ราคาปิด 6.85 บาท
ราคาเหมาะสม 8.35 บาท
TRUE มางาน Corporate Day กับเราวันนี้ เพื่อแสดงจุดยืนการไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 1800MHz ครั้งนี้ ทั้งนี้ทุกบริษัทที่ต้องการประมูลจะต้องยื่นความจำนงในวันที่ 15 มิ.ย.ต่อกสทช.
TRUE ยังมีปัจจัยบวกรออยู่ คือกำไรพิเศษจากขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF สูงถึง 2.5 หมื่นลบ. ใน 2Q61 และคาดผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติลดลง QoQ ต่อเนื่อง พร้อมพลิกกลับเป็นกำไรได้ใน 2H61
สะสม SENA
ราคาปิด 3.80 บาท
ราคาเหมาะสม 4.08 บาท
SENA เป็นหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ที่มี Downside Risk จำกัด ณ ปัจจุบันซื้อขาย PER2561 เพียง 6.3 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 9.5 เท่า และผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6.3% ต่อปี
ธุรกิจที่ SENA ร่วมกับ Hankyu ในรูปแบบ JV จะหนุนผลประกอบการให้เติบโตโดดเด่นตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป ขณะที่กำไรปี 2561 และ 2562 คาดเพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ +14.4% YoY เป็น 849 ล้านบาท และ +8.0% YoY เป็น 917 ล้านบาทตามลำดับ
เก็งกำไร CPF
ราคาปิด 25.25 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 26.50 บาท
ทางเทคนิคราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นทดสอบ 26.50 บาท แนวรับ 25.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 24.70 บาท
เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q61 และฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ 2Q61 จากราคาไก่และหมูในประเทศที่ฟื้น ขณะที่ Downside Risk จำกัด ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าเงินลงทุนใน CPALL ที่คิดเป็นต่อหุ้น CPF ราว 27.50 บาท
Profit-Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยดูผ่อนคลายมากขึ้น หลัง SET INDEX กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้ แต่เรามองว่า Upside ระยะสั้นจำกัด เนื่องจากมีแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานที่ต้องเผชิญกับแรงขายทำกำไรหลังขึ้นโดดเด่น นำโดย PTTEP เมื่อราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.2%
ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัวต่อเนื่อง เพื่อรอดูการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า (12-13 มิ.ย.) ซึ่ง Bloomberg Consensus คาดโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 25bps กดดันให้ US 10-Year Bond Yield ขยับขึ้นใกล้ 3% อีกครั้ง เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ บริเวณ 1730-1745 จุด
สำหรับประเด็น MINT เข้าซื้อกิจการ NH Hotels เรามองว่าความเสี่ยงเพิ่มทุนจะลดลงในระยะสั้น แต่ยังคงอยู่ในระยะ 6 เดือนข้างหน้า หากหลังทำ Tender Offer (เสร็จสิ้นขบวนการเดือนม.ค. 2562) แล้วพบว่า MINT เข้าถือหุ้นได้เกิน 70% ทำให้ฐานะการเงินตึงตัว เชิงกลยุทธ์ เราคงแนะนำ Switch ไปลงทุนใน AOT หรือ ERW แทน (ติดตามบทวิเคราะห์ Company Update เช้านี้)
ประเด็นการลงทุนในช่วงนี้ เรายังคงให้น้ำหนักกับกลุ่ม Domestic Play ที่ราคาอ่อนตัวลงมาก่อนหน้านี้ เช่น TRUE/ BJC/ CPALL หุ้นปันผลงวด 1H61 เด่น (LH / PSH / ADVANC/ KKP) เก็งกำไรหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวและ Valuation ไม่แพง (SENA) หรือ เก็งกำไรหุ้นที่มีโอกาสได้รับเลือกเข้าคำนวณดัชนี SET50-SET100 (KTC/ ERW)
HOT Topic
1. Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯใกล้ระดับ 3% อีกครั้ง เพื่อรอดูการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า
2. TRUE มา Corporate Day กับเราวันนี้ มีประเด็นอะไรที่ต้องติดตาม
3. บทวิเคราะห์เชิงลึก MINT เรามองอย่างไรกับดีล NH Hotel
4. ตัวเลขส่งออกจีน เดือน พ.ค. คาด +11.1% YoY จะรายงานในวันที่ 8 มิ.ย.
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX แกว่งตัวในกรอบบริเวณ 1730-1745 จุด ก่อนมาปิดที่ 1738.7 จุด เพิ่มขึ้นอีก 5.99 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 5.9 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีกราว 941 ล้านบาท รวม 3 วันขายสุทธิทั้งสิ้นราว 1.3 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 9 อีกราว 2.8 พันล้านบาท รวม 9 วันซื้อสุทธิสะสมกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 9.6 พันสัญญา รวม 3 วันทำการ มีสถานะ Long สุทธิสะสมกว่า 1.4 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิราว 1.3 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 4.3 พันสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Long สุทธิราว 9.1 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 10 อีก 1.47 หมื่นล้านบาท รวม 10 วันทำการซื้อสุทธิหนาแน่นถึง 5.8 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่ระดับ 31.88 บาท/เหรียญฯ
ปัจจัยสำคัญวันนี้
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ขอให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯยกเว้นการจัดเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมต่อประเทศแคนาดา
แหล่งข่าวเผยบริษัท ZTE ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับสหรัฐฯในการจ่ายค่าปรับจำนวน 1.7 พันล้านเหรียญฯ ชดเชยการถูกกีดกันทางการค้า
World Bank ปรับประมาณการ GDP ไทยปี 2561 ขึ้นเป็น 4.1% จาก 3.6% และปรับประมาณการ GDP สหรัฐฯ ขึ้นเป็น 2.7% จาก 2.5%
EU เริ่มเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าสหรัฐฯในเดือน ก.ค. เป็นมูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้มาตรการภาษีเหล็ก และอลูมิเนียม
อิหร่านเตรียมเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ หากข้อตกลงนิวเคลียร์ถูกยกเลิก อย่างไรก็ตาม อิหร่านอยู่ระหว่างเจรจากับสหภาพยุโรปเพื่อหาทางรักษาข้อตกลงดังกล่าว
คณะกรรมการ ECB เผยเตรียมหารือการลดวงเงิน QE ในการประชุมสัปดาห์หน้า
EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล
นายกฯเผยเตรียมนัดหารือพรรคการเมือง เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
ติดตามการรายงาน GDP 1Q61 ของ EU ตลาดคาดขยายตัว 2.5% YoY วันที่ 7 มิ.ย.
ติดตามรายงานการนำเข้า-ส่งออกจีน เดือนพ.ค. และการรายงาน GDP ญี่ปุ่น 1Q61 ในวันที่ 8 มิ.ย.
ติดตามการประชุมผู้นำ G7 ณ ประเทศแคนาดา ในวันที่ 8-9 มิ.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist 662-009-8059
OO9762