- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 June 2018 19:49
- Hits: 3158
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“อาจรีบาวด์ต่อ แต่ไปไม่ได้ไกล”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : ตลาดวานนี้ – SET Index ปรับขึ้นบาง 1.47 จุด ปิดที่ 1721.29 จุด สอดคล้องกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน แต่ปรับขึ้นในอัตราน้อยกว่า มูลค่าซื้อขายปานกลาง 53.4 พันล้านบาท ดัชนีฯรีบาวด์หลังลงลึก ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นลบในเรื่องกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยประชุม 12-13 มิ.ย.61 นี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังร้อนแรง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทยอยปรับขึ้น การประชุม G7 บ่งชี้สงครามการค้า หุ้นกลุ่มหลักช่วยค้ำจุน SUPER กลับมาบวกได้หลังชี้แจง แต่กลุ่มพาณิชย์ถูกขายหนัก โดยเฉพาะ BEUTY ด้านผู้ขายสุทธิหลักคือ หลักทรัพย์ 1.8 พันลบ. รายย่อย 0.6 พันลบ. และต่างประเทศ 0.1 พันลบ. ด้านผู้ซื้อสุทธิรายเดียวคือ สถาบัน 2.5 พันลบ.
แนวโน้มและกลยุทธ์–SET มีโอกาสจะรีบาวด์ต่อ หลังปรับตัวลงลึก 70 จุด ตั้งแต่ต้น พ.ค.61 ดาวโจนส์บวก กอปรกับสถานการณ์การเมืองอิตาลี สเปนดีขึ้น หุ้นกลุ่มพลังงานซึมซับข่าวราคาในตลาดโลกปรับลงไปพอควร แต่ปัจจัยต่างประเทศเป็นลบยังกดดัน ไม่ให้ไปได้ไกลในเรื่องกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่สองปีนี้ โดยจะประชุม 12-13 มิ.ย.61 นี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจการจ้างงานยังร้อนแรง สะท้อนด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทยอยปรับขึ้น
ส่วนปัจจัยในประเทศเป็นบวกเรื่องเศรษฐกิจไทยดีเช่นเคย เงินเฟ้อ พ.ค.61 แม้สูง แต่ 2H61 มีโอกาสผ่อนลง คาดว่าดัชนีฯมีโอกาสอยู่ในลักษณะแกว่งแคบ เพราะปัจจัยต่างประเทศกดดัน แนวโน้มใหญ่ดอลลาร์ที่แข็งค่า ทำให้เงินไหลออก ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้แกว่งตัวแคบๆสลับบวกลบ ส่วนดาวโจนส์ล่วงหน้า -5 จุด ส่วนระยะกลาง-ยาวยังต้องติดตามเรื่องการกีดกันทางการค้าที่ไม่แน่นอน ทรัมป์กลับมาประชุมกับเกาหลี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ค่าเงินบาทมีความผันผวนเทียบกับดอลลาร์มาก กระทบเงินไหลเข้า-ออก การประชุมโอเป็ก 22 มิ.ย.นี้ กลยุทธ์ในสัปดาห์นี้ ยังคงเน้นหุ้นรายตัว (Selective Buy) ที่มีพื้นฐานดี และมีประเด็นที่น่าสนใจในระยะนี้ มีแรงกระตุ้น (Catalyst) เฉพาะตัว ตามบทวิเคราะห์ DBS ได้ นักลงทุนระยะสั้นควรเล่นรอบสั้นๆ ระยะกลาง-ยาวควรตั้งเป้าผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรม และทยอยขายทำกำไรเมื่อได้ตามเป้าหมาย เพือล็อคกำไร ลดความเสี่ยง ระยะนี้คาดว่า SET จะซื้อขายอยู่ในกรอบเป็น 1710-1740 จุด
Update หุ้นเด่น : ORI- คาดว่ากำไรไตรมาสถัดๆมาคือ 2Q-3Q61 ก็ยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง และไปสูงสุดใน 3Q61 ตามโปรแกรมการโอนคอนโดที่มีมากได้แก่ Park 24 เฟส 2 คาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรหลักปีนี้และปีหน้าอยู่ในเกณฑ์สูงเป็น 129%/15% ตามลำดับ ด้านคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลiถือว่าดีเป็น 3.9%/4.3% ตามลำดับ คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐานที่ 23.40 บาท ประเมินด้วย SOP มี upside 17%
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น Candlestick & Indicators เป็นลบ ความน่าจะเป็นของตลาดฯมีน้ำหนักเป็นการลง แต่มีสภาวะ Oversold & Divergence มีค่าบวก จึงอาจมีรีบาวด์สั้นๆก่อนแล้วจึงปรับลง ซื้อเน้นค่าบวก แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1730-1735, 1740 โดยมีแนวรับ 1710-1700 แนวตัดขาดทุนต่ำกว่า 1719 จุด
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สถานการณ์การเมืองอิตาลี สเปน ดีขึ้น
# ความคืบหน้าทางการเมืองในอิตาลีนั้น นายจูเซปเป คอนเต ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายของอิตาลี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นผู้นำรัฐบาลผสม หลังจากสองพรรคการเมืองใหญ่ของอิตาลีได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งจะช่วยให้อิตาลีสามารถปลดล็อกทางการเมืองที่ดำเนินมานาน 3 เดือน หลังการเลือกตั้งในวันที่ 4 มี.ค. ที่ไม่มีพรรคการเมืองใดครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
# ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในสเปนนั้น นายเปโดร ซานเชส ผู้นำพรรคสังคมนิยม ได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสเปน หลังจากนายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรี ได้พ่ายแพ้การลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
-การกีดกันการค้า ยังเป็นประเด็นร้อนแรง
#รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของกลุ่มประเทศ G7 ออกโรงวิพากษ์วิจารณ์มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐอย่างหนัก ในที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G7 ที่ประเทศแคนาดา โดยสหภาพยุโรป (EU) และรัฐบาลแคนาดา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวต่างให้คำมั่นว่าจะดำเนินการตอบโต้ด้านนายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศสเตือนว่า สงครามการค้าอาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า (Aspen)
#นอกจากนี้ผลการประชุมระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐและรองนายกรัฐมนตรีจีนเมื่อสุดสัปดาห์ จีนได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมในเชิงตักเตือนว่า ผลการเจรจาหารือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศจะกลายเป็นโมฆะในทันทีหากสหรัฐยังคงดำเนินมาตรการเรียกเก็บภาษีและมาตรการกีดดันทางการค้าอื่นๆ
+/- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุด คำสั่งซื้อภาคโรงงานลดลงมากกว่าคาด
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.8% ในเดือนเม.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.5% โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของคำสั่งซื้อเครื่องบิน ปกติเป็นบวก ลดแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยเฟด แต่เฟดพิจารณาตัวเลขหลักอื่นๆที่เป็นตัวตัดสินที่สำคัญกว่า
#นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 12-13 มิ.ย. โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 2 ในปีนี้
+/• ภาวะตลาดหุ้น : ดาวโจนส์สหรัฐปรับเพิ่มเป็นวันที่สอง หุ้นเทคโนปรับขึ้น
#ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,813.69 จุด เพิ่มขึ้น 178.48 จุด หรือ +0.72% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,746.87 จุด เพิ่มขึ้น 12.25 จุด หรือ +0.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,606.46 จุด เพิ่มขึ้น 52.13 จุด หรือ +0.69%
#ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นแอปเปิลที่ได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุนอย่างคึกคัก หลังจากบริษัทประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 12 ในงานประชุมผู้พัฒนาทั่วโลก (WWDC) ซึ่งแอปเปิลได้จัดขึ้นเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนพ.ค.
- น้ำมันปรับลง กังวลสหรัฐฯผลิตน้ำมันเพิ่ม โอเป็กประชุม 22 มิ.ย.61
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 64.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 75.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 22 มิ.ย.นี้ เพื่อสกัดความร้อนแรงของราคาน้ำมัน และชดเชยการผลิตที่ลดลงของอิหร่านและเวเนซุเอลา อันเนื่องมาจากการถูกสหรัฐคว่ำบาตร
+/• สหรัฐฯกลับมาพร้อมประชุมกับเกาหลีเหนือ
# นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการจัดการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่การจัดการประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ ตามที่มีการกำหนดไว้
# เรื่องนี้มีผลกับ SET เพราะหากการประชุมมีความคืบหน้าที่จะบ่งชี้ว่า การเมืองระหว่างประเทศคลี่คลายไปในทางที่ดีก็จะเป็นบวกได้นั่นเอง แต่หลาบชาติก็กดดันเกาหลีเหนือในเรื่องปลดอาวุธนิวเคลียร์ก่อนประชุม
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับขึ้นอีก ดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อย
# อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับขึ้นอีกเป็น 2.9419%
# แต่ดอลลาร์สหรัฐกลับมาอ่อนค่า ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเป็น 94.039 จุด ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเป็น 31.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
# ดัชนีความกลัว (VIX) ล่าสุดลดลง 5.3% จากวันก่อนหน้าเป็น 12.74
• ทองคำปรับลง หันไปสนใจตลาดหุ้นสหรัฐแทน
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1297.30 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงในกรอบจำกัดเพราะได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
• ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะประกาศต่อไปในสัปดาห์นี้
# นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย., ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 1/2561, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย.
ปัจจัยในประเทศ และข่าวเด่นหลักทรัพย์
+/- ตลท.เผยผลคัดเลือกหลักทรัพย์ในดัชนี FTSE SET Index Series มีผล 18 มิ.ย.
# ดัชนี FTSE SET Large Cap Index ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
# ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มี 4 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ GOLD, GULF, MBK และ THG
# ดัชนี FTSE SET Shariah Index มี 24 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ ADVANC, AH, AJA, DDD, EGCO, ESSO, GLANDRT, GLOW, HUMAN, IRPC, IVL, JWD, LALIN, QHPF, SITHAI, SKN, SKR, SPCG, SQ, SVI,THG, TR, WHA และ WP
# อย่างไรก็ตามกองทุนประเภท Passive ที่ลงทุนตาม FTSE SET Index Series จะยังไม่มากเท่า SET และ SET50
• ความเคลื่อนไหวหุ้น SUPER
#นายประเดช กิตติอิสรานนท์ กลุ่มผู้ถือหุ้นของบมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อขอให้สอบสวนข้อเท็จจริงกรณีหุ้น SUPER ราคาต่ำผิดปกติเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางการปล่อยข่าวลือว่าตนเองเป็นผู้ทำการเทขายหุ้น ทำให้ราคาหุ้นตกผิดปกติ (SET)
#ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ นายจอมทรัพย์ โลจายะ แจ้งตลาดฯว่า ณ 30 พ.ค.61ถือหุ้นที่สัดส่วน 18.4% เพิ่มขึ้นจากตอน XM 15 มี.ค.61 ถือในสัดส่วน 7.91% ขณะที่นาย ประเดช กิตติอิสรานนท์ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว ณ 30 พ.ค.61
+/• DTAC ราคาหุ้นปรับขึ้นหลังแจ้งการเตรียมความพร้อมใช้คลื่น 2300 MHz
#นายโรจน์ เดโชดมพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจโพสต์เพด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือดีแทคกล่าวว่าดีแทค กำลังเตรียมพร้อมเปิดให้บริการคลื่นใหม่ 2300 MHz ที่ล้ำหน้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ลื่นขึ้น เนื่องจากกระแสความนิยมบริโภคเนื้อหาแบบสตรีมมิ่งออนไลน์ ได้ช่วยให้จำนวนผู้ใช้บริการ 4G เพิ่มขึ้น ผู้ใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฟนในโครงข่ายมีมากถึง 75% เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าในการใช้งานอินเทอร์เน็ต และคาดว่าคลื่นใหม่ จะกระตุ้นการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ให้เติบโตได้รวดเร็วขึ้น (Aspen)
# ผลกระทบ: เป็นผลดีจากความสำเร็จในการเช่าคลื่นมาจากทีโอที ช่วยเสริมธุรกิจให้แข็งแกร่งและลดความเสี่ยงจากการประมูลคลื่น 1800 MHz ลงได้บ้างหากประมูลกลับมาได้ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามตัวโทรศัพท์ที่จะรองรับส่วนใหญ่จะค่อนไปทาง Hi End จึงไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% จากผู้ใช้บริการทั้งหมดของ DTAC จึงจำเป็นที่จะต้องประมูลคลื่น 1800 MHz ต่อไป เพื่อใช้งานได้ทั่วถึง คงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาพื้นฐาน 58.30 บาท
-GL: บริษัทย่อย ศาลอุทธรณ์สิงคโปร์สั่งคุ้มครองชั่วคราว กระทบบ.ย่อยทำธุรกรรมไม่ได้ตามปกติ
# ในวันที่ 1 มิถุนายน 2561 ศาลอุทธรณ์แห่งประเทศสิงคโปร์ได้มีคำสั่งให้คำสั่งขอคุ้มครองชั่วคราวกลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้ง และได้ขยายเป็นคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวทั่วโลก โดยคำสั่งของศาลดังกล่าวส่งผลให้บริษัทย่อย Group Lease Holdings Pte.Ltd (GLH) ไม่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินเกี่ยวกับการจำหน่าย จ่าย โอน ทรัพย์สินของ GLH เฉพาะในจำนวนมูลค่าไม่เกิน 180 ล้านเหรียญสหรัฐ
# อย่างไรก็ตาม คำสั่งนี้ไม่ได้ห้าม GLH ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน หรือจำหน่าย จ่าย โอน ทรัพย์สินในทางที่เป็นทางการค้าอันปกติและโดยสมควรแต่อย่างใด นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบต่อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของทาง GLH
# ผลกระทบ: แม้จากคำตัดสินดูมีความขัดแย้งกันในเรื่องบริษัทย่อยจะยังดำเนินธุรกิจต่อไปได้หรือไม่ แต่ในมูลค่า 180 ล้านเหรียญสหรัฐถือว่ามากถึง 5.8 พันล้านบาท โทนจึงดูเป็นไปในทางลบมากกว่า คาดว่าทางบริษัทจะมีการชี้แจงข้อมูลอีกครั้ง
-/• SEAFCO หุ้นปันผลเข้าซื้อขายวันนี้
# จำนวน 61.1 ล้านหุ้น เกิดจากการจ่ายปันผลเป็นหุ้น 10:1 สำหรับปันผลงวดสุดท้ายปี 60
# ผลกระทบ: ระยะสั้นอาจเกิดแรงขาย เพราะนักลงทุนบางรายเห็นว่าได้มาแบบไม่คิดมูลค่า แต่หากราคาหุ้นปรับลงเป็นจังหวะซื้อ เพราะพื้นฐานมีความแข็งแกร่งมาก ให้ราคาพื้นฐานที่ 9.88 บาท (ติดตามบทวิเคราะห์ Compay Guide ล่าสุด)
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
OO9646