- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 June 2018 19:46
- Hits: 752
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic and Laggard Play//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาดและอ่อนแอกว่าภูมิภาคที่บวกเฉลี่ยกว่า 1% โดยกรอบการบวกของ SET ยังจำกัดตามที่เราประเมินเนื่องจากยังมีประเด็นเรื่องการค้าโลกที่ต้องจับตา นักลงทุนต่างชาติไม่ได้มี Position ในตลาดหุ้นและฟิวเจอร์สอย่างมีนัยยะวานนี้ แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 8.1 พันลบ. ส่วนสถาบันในประเทศเป็นฝ่ายซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 2.5 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะยังคงแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่องโดยระยะสั้นยังขาดปัจจัยบวกใหม่ ราคาน้ำมันดิบยังปรับลงและต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์จาก Supply ในสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นซึ่งยังถ่วงหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมถึงยังต้องติดตามประเด็นสำคัญเรื่องการค้าโลกในการประชุมสุดยอดระดับผู้นำ G7 ในวันที่ 8-9 มิ.ย.นี้ว่าจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นหรือไม่ เราจึงยังมองกรอบการบวกของ SET จำกัด โดยหุ้นในกลุ่ม Domestic Play ยังดูน่าสนใจมากกว่า และประเมินระดับของดัชนีที่น่าสนใจในการสะสมหุ้นพื้นฐานรอบใหม่ที่บริเวณ 1,700 จุดบวกลบ
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้น Domestic และ Laggard//Accumulate on Dip
หุ้นเด่นเดือนมิ.ย. : BGRIM, GLOBAL, MTC, PCSGH, TVO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$219ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$270ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$32ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$3ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออก ติดตามผลประชุม G7 ซึ่งน่าจะมีการประชุมกันถึงเรื่องสงครามการค้า
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> EPG <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 12 บาท
ทุกธุรกิจผ่าน Bottom และกำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะ EPP ที่ดูชะลอมากสุดในปีก่อนจะดีขึ้นตามการบริโภคในประเทศ ขณะที่ Aeroflex (ฉนวนยาง) จะได้แรงหนุนจากการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน และ Aeroklas (ชิ้นส่วนรถยนต์) จะมีการออกสินค้าใหม่เพิ่มเติม
คาดกำไรปี 2019 (เม.ย. 18 – มี.ค. 19) ที่ 1,251 ลบ. +26% Y-Y และคาด +17% Y-Y ทำจุดสูงสุดใหม่ในปี 2020 ที่ 1,460 ลบ.
ยอด Short sales กลับเข้าสู่ระดับปกติ และ NVDR เร่งซื้อมากขึ้น ถือเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวก
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ฟุตบอลโลกหนุนค้าปลีกและสินค้าไอที จากการศึกษาข้อมูลการแข่งขันฟุตบอลโลก 5 ครั้งที่ผ่านมากับการเคลื่อนไหวของ SET Index พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กันโดยตรง ทั้งในแง่ของทิศทางดัชนีและปริมาณการซื้อขาย เพราะช่วงจัดบอลโลกมักเป็นกลางปีที่ตลาดหุ้นทั่วโลกซบเซาอยู่แล้ว ส่วนธุรกิจที่ได้ประโยชน์ในทุกครั้งคือ ผู้ขายสินค้าไอทีโดยเฉพาะทีวีขนาดใหญ่ ค้าปลีก อาหารเครื่องดื่ม และเดลิเวอรี่ เราชอบ IT (TP 6.90 บ.) เพราะเป็นผู้ขายทีวีให้กับผู้บริโภคโดยตรง, SYNEX (TP 20 บ.) เป็นผู้ค้าส่งทีวีและเครื่องฉายภาพ LCD, และ CPALL (TP 98 บ.) ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์ฯ ม.หอการค้า คาดว่าเม็ดเงินจะสะพัดในช่วง 14 มิ.ย.-15 ก.ค. ราว 6 หมื่นลบ. +7-10% Y-Y ส่งผลบวกต่อ GDP ราว 0.2-0.3%
(0) คาดหุ้นเข้าออก SET50/SET100 หุ้นที่เราคาดว่าจะเข้าคำนวณใน SET50 รอบ 2H18 คือ BGRIM DELTA GLOW KTC TOA RATCH หุ้นที่คาดว่าจะออกจาก SET50 คือ BCP KCE PSH SAWAD TPIPP WHA ส่วนหุ้นที่คาดเข้า SET100 คือ BLA VGI JAS RS PRM ERW และหุ้นที่คาดออกจาก SET100 คือ ANAN BA BIG JMART JWD STA UNIQ MC THCOM MONO หุ้นที่น่าสนใจเมื่อพิจารณาจากการเติบโตและ Upside จากราคาเป้าหมายคือ BGRIM ERW และ RS
(0) TMB เราคาดว่าแนวโน้มกำไร 2Q18 ของ TMB น่าจะดูดีกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่น เนื่องจากคาดว่า NIM และ Fee ยังไม่เปลี่ยนแปลงเชิงลบจากผลกระทบของการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่าน mobile อย่างไรก็ตามเราได้ปรับลดประมาณการกำไรทั้งปี 2018 ลง 8.5% มาอยู่ที่ 9.2 พันลบ. (+5.8%Y-Y) โดยส่วนใหญ่เป็นการปรับลดการเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียมจาก Loan-related fee ที่น่าจะชะลอตามการปล่อยกู้ฝั่งธุรกิจที่ชะลอตัวเช่นกัน รวมถึงปรับเพิ่ม Credit cost เพื่อสะท้อนความอนุรักษ์นิยมของคุณภาพหนี้ เราปรับลดราคาเหมาะสมลงเป็น 2.86 บาท (เดิม 3.30 บาท) แต่คงคำแนะนำซื้อ
(+) ORI จาก Opp Day ข่าวดีคือ เริ่มโอน 2 คอนโดใหม่ได้เร็วกว่าคาดใน 2Q18 ทั้ง Kensington Kaset Campus (มูลค่า 1 พันลบ., Sold 93%) และ Park 24 Phase 2 (มูลค่า 1.1 หมื่นลบ., Sold 59%) ส่วนการเร่งระบายสต็อก 11 โครงการผ่าน 'โปรเหนือเมฆ' ทำให้ Inventory ลดลงราว 1.5 พันลบ. เหลือ 3 พันลบ. โดยไม่กดดันอัตรากำไรขั้นต้น ขณะที่โมเมนตัมกำไร 2Q18 คาดเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง จาก Strong Backlog ที่ Secured รายได้ปีนี้แล้วถึง 79% คงคำแนะนำซื้อ และเป็น Top Pick ของกลุ่ม ราคาเหมาะสม 25.40 บาท
(0) DDD แจ้งตั้งบริษัท สกิน เมด สไมส์ จำกัด เป็นบริษัทย่อยเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวระดับพรีเมี่ยม โดยถือหุ้น 69.996% เราไม่ได้มองบวกกับดีลนี้ เพราะยังเล็กและต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์อีกพอควร ขณะที่ ธุรกิจหลักยังเผชิญการแข่งขันรุนแรง ดังจะเห็นได้จากยอดนำเข้าเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากจีนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ DDD ต้องมีค่าใช้จ่ายในการทำตลาดมากขึ้นใน 2Q-3Q18 และด้วยราคาปัจจุบันที่ยังคิดเป็น PE2018-19 ราว 40-45 เท่า ซึ่งแพงเกินไปเมื่อเทียบกับการเติบโตเฉลี่ยที่ราว 20% ต่อปี จึงแนะนำขาย ราคาเป้าหมาย 59 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
7 มิ.ย.- ยูโรโซน: 1Q18 GDP (ครั้งที่ 3)
8 มิ.ย.- จีน: ดุลการค้า (พ.ค.)
- ออสเตรเลีย: 1Q18 GDP
12 มิ.ย.- ประชุมผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ
13 มิ.ย.- สหรัฐฯ: ประชุม FOMC
14 มิ.ย.- ยูโรโซน: ประชุม ECB
15 มิ.ย.- ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ
20 มิ.ย.- ไทย: ประชุม กนง.
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างแอปเปิ้ล หลังจากเปิดตัวระบบ iOS ใหม่ รวมไปถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังความกังวลในเรื่องสถานการทางการเมืองที่คลีคลายลง รวมไปถึงข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน
(0) ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมผสาน โดยตลาดคาดว่าธนาคารกลางออสเตรเลียจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ในขณะที่ธนาคารกลางอินเดียเริ่มออกมาส่งสัญญาณว่าอยากให้ FED ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดความผันผวนในสินทรัพย์ในประเทศตลาดเกิดใหม่
() ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินบาทยังคงทรงตัวอยู่บริเวณ 31.90-32.00 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ปรับตัวลงอีก 1.06 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 64.75 ดอลลาร์/บาเรลล์ หลังตลาดคาดว่าการประชุมในกลุ่ม OPEC ครั้งนี้ จะหารือกันเรื่องเพิ่มกำลังการผลิตในครึ่งปีหลัง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 2.00 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,297.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังความกังวลทางการเมืองที่ผ่อนคลายลง
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO9636
