- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 June 2018 17:16
- Hits: 4752
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> BCH, PLANB, QH
Stock S R Comment
BCH 16.00 17.80 สัดส่วนรายได้จากคนไข้ต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น หนุน WMV เทิร์นบวก
PLANB 5.80 6.70 คาด 2Q61 เติบโตจากค่าโฆษณาและขยายลงทุนในต่างประเทศ
QH 3.14 3.40 Gross Profit Margin แกร่ง ค่าใช้จ่ายลด หนุนกำไรแกร่ง
June market outlook
June : คาดการณ์ปัจจัยต่างประเทศจะยังมีอิทธิพลหลักต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยในเดือนมิถุนายน ซึ่งน่าจะทำให้ SET Index มีความผันผวนต่อไป มองกรอบการแกว่งตัวของดัชนีในเดือนนี้ที่ระดับ 1680-1780 จุด โดยมีกรอบแนวรับที่ 1700 และ 1680 จุด ส่วนกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1750 และ 1770 จุด แนะนำถือหุ้นในพอร์ตและรอเพิ่มน้ำหนักหากดัชนีอ่อนตัวมาที่ระดับ 1700 จุดหรือใกล้เคียง
Factors : สำหรับปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในเดือนนี้ได้แก่
1) การประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 12-13 มิถุนายน ซึ่งประเด็นสำคัญของการประชุมรอบนี้ไม่ได้อยู่ที่การขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นแน่นอนแล้ว 100% แต่จะอยู่ที่ Dot Plot ที่จะสะท้อนมุมมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของกรรมการแต่ละท่าน ซึ่งล่าสุดในการประชุมเดือนมีนาคม มีกรรมการที่เห็นควรให้ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ทั้งหมด 3 ครั้งและ 4 ครั้งอย่างละเท่าๆกัน ด้วยเหตุนี้หากค่ากลางของ Dot plot มีการขยับขึ้นในรอบนี้ มีโอกาสที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond yield) และเงินดอลลาร์ฯจะปรับตัวสูงขึ้นได้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตลาดยังไม่ได้ Price in มากนัก จนอาจส่งผลกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และกระแสเงินทุนต่างชาติในท้ายที่สุด
2) ความวุ่นวายทางการเมืองในยุโรป โดยเฉพาะในอิตาลีที่ถึงแม้ล่าสุดจะมีสัญญาณเชิงบวกจากการจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรค M5S และพรรค League ได้ ซึ่งทำให้ความกังวลต่อประเด็น Italyexit ลดลงแต่อย่างไรก็ดี จำเป็นต้องติดตามนโยบายการการคลังของรัฐบาลผสมชุดใหม่นี้ หากมีการใช้จ่ายในระดับสูงจนทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะของประเทศเพิ่มขึ้น มีโอกาสที่บริษัทจัดอันดับเครดิตจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในช่วงถัดไปได้เช่นกัน แนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของ Bond yield และ CDS Spread ของอิตาลีอย่างใกล้ชิด
3) ทิศทางของราคาน้ำมันดิบ และการประชุมระหว่างกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ในกรณีฐาน ประเมินว่าที่ประชุมดังกล่าวจะยังคงยืนหยัดต่อข้อตกลงการลดกำลังการผลิตเดิมไปจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งน่าจะช่วยลดทอนความกังวลของนักลงทุนต่อกระแสข่าวที่ว่าซาอุดิอาระเบียและรัสเซียเตรียมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงถัดไป
4) การประกาศรายชื่อสมาชิกดัชนี SET50 รอบใหม่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งทรีนีตี้ประเมินว่าหุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไปได้แก่ KTC, TOA, RATCH, BGRIM, ESSO ทั้งนี้จากการศึกษาตั้งแต่ปี 2008 พบว่า หุ้นที่ถูกนำเข้ามักปรับตัวแข็งแกร่งกว่าตลาดตั้งแต่ช่วงก่อนหน้าไปจนถึงวันมีผลบังคับใช้จริง ซึ่งรอบนี้ตรงกับวันที่ 2 กรกฎาคม ในทางตรงกันข้าม คาดการณ์หุ้นที่มีแนวโน้มถูกถอดออกจากดัชนี SET50 ในรอบถัดไปได้แก่ WHA, TPIPP, BCP, PSH, KCE ทั้งนี้พบว่าหุ้นที่ถูกถอดออกมักปรับตัวอ่อนแอกว่าตลาดตั้งแต่ช่วงก่อนหน้าไปจนถึงวันมีผลบังคับใช้จริงเช่นกัน
Top pick : สำหรับหุ้นแนะนำในเดือนมิถุนายนนี้ เราเลือก PTT, IVL, CK โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) PTT: แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 64.30 บาท ราคาหุ้นปรับฐานลงมามากกว่าผลกระทบกรณีเลวร้ายสุด หากบริษัทต้องเข้าไปช่วยแบกรับภาระจากทางภาครัฐในการพยุงราคาน้ำมันดีเซลและราคา LPG ไปแล้ว ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นจริง
2) IVL: แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 70 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงมาสะท้อนประเด็นข่าวที่ EU เตรียมจะแบนผลิตภัณฑ์ที่เป็น Single-use plastics แต่ไม่ได้รวมถึงขวด PET ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท มองไม่มีผลกระทบในระยะสั้น ส่วนผลกระทบในระยะยาวนั้น ราคาหุ้น Price in ไปแล้วกว่า 50% ของกรณีแย่สุด
3) CK: แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 32 บาท มองปริมาณและคุณภาพของ Backlog อยู่ในระดับสูง ซึ่งน่าจะทำให้เป้าหมายรายได้ 3 หมื่นล้านบาทในปีนี้ทำได้ไม่ยาก นอกจากนั้นยังได้ Sentiment เชิงบวกจากภาพการเลือกตั้งที่มีความชัดเจนมากขึ้น
แนวรับ 1,713 แนวต้าน 1,741
Today's Event :
WHABT XD 0.1325 บาท
TRC ลูกหุ้นเข้า 293,472,529 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO9531