- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 September 2014 16:22
- Hits: 1783
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งตัวลง
KGI มอง SET วันพุธลดลงกรอบจำกัด ภาพสั้นๆ เป็นลบมากขึ้นหลังต่างชาติซื้อสุทธิน้อยลง และทุนต่างชาติอาจไม่ต่อเนื่อง หลังหุ้นโลกกลับมากังวลต่อประเด็นสหรัฐฯ อาจขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ก่อนการรายงานเศรษฐกิจสำคัญในปลายสัปดาห์ เช่นยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ด้าน ธ.กลางอังกฤษส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต้นปี 2558 กดดันจิตวิทยาเล็กน้อย ด้านปัจจัยในประเทศยังเป็นกลาง รอการแถลงนโยบายของครม. ในวันที่ 12 ก.ย. ช่วงนี้คาดหุ้นหลักอาจไม่แข็งแกร่งนัก ตามภาพรวม SET ที่เข้าช่วงปรับฐานหลังมูลค่าหุ้นตึงตัวพอควร แนะรอติดตามปัจจัยภายนอกต่อไป และแนะให้เน้นหุ้นขนาดกลางไปก่อน
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
ซื้อเก็งกำไร CK*, NYT*
CK* (เป้าพื้นฐาน 33.6 บาท) 1) หุ้นรับเหมาตัวใหญ่รับ Sentiment บวกจากการเตรียมแถลง
นโยบายของรัฐบาลใหม่ (วันศุกร์นี้) 2) ราคาหุ้น บ.ลูก อย่าง BMCL* ปรับขึ้นแรง (เป็นบวกในด้าน
Valuation ในมุม Sum of the parts)
NYT* (เป้า Consensus 20 บาท) 1) คาดได้อานิสงค์จากโครงการอีโคคาร์ ทั้งเฟส 1 และ เฟส 2 (การส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น) 2) รับ Sentiment บวกต่อการมีรัฐบาลใหม ่ การขอขึ้นค่าบริการ + การซื้อกิจการท่าเทียบเรือใหม่ มีโอกาสเกิดขึ้นภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และสถานการณ์ทางการเมืองสงบ 3) รูปแบบราคามีโอกาสฟื้นตัว ประเมินแนวต้านเทรนไลน์ที่ 16.6 บาท และหากปิดเหนือ16.9 บาท ได้ จะเกิดสัญญาณซื้อขึ้น (Count Back Line)
... BMCL* (เป้าสูงสุด Consensus 1.94 บาท) นสพ โพสต์ทูเดย์ลงข่าว รฟม มีโอกาส เปิดเจรจาโดยตรงกับ BMCL สำหรับการเข้าบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย แทนการเปิดประมูล คาดเป็นบวกต่อ BMCL 1) ค่าบริการเดินรถ 200 – 250 ล้านบาทต่อปี 2) จำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในระบบเดิมอีก 1 แสนคน (จากปัจจุบัน ~2.5 แสนคน) แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแนวต้าน +/- 2.20 บาทแนวรับ 1.80 บาท
... JAS* (เป้า Consensus 9.25 บาท) วานนี้ ศาลตัดสินฯ ไม่คุ้มครองชั่วคราวกรณี TT&T อย่างไรก็ดียังมีความเสี่ยงเรื่องการออกกองทุน Infrastructure fund ดังนั้นเราจึงแนะนำเพียง “เก็งกำไรสั้น” ประเมินแนวต้าน +/- 7.7 บาท แนวรับ +/- 7.0 บาท
... กลุ่มยานยนต์ / นิคมฯ ประเมินได้ Sentiment บวก จากการประชุมบอร์ด บีโอไอ วันที่ 9 ก.ย.
คาดมีการพิจารณาโครงการลงทุนอีโคคาร์ 2 ... กลุ่มยานยนต์ อาทิ SAT, AH, STANLY ราคาหุ้น
Laggard ตลาดฯ + มีแนวโน้มฟื้นตัวในปีหน้า (ปีนี้เป็นจุดต่ำสุด) แนะนำ “ซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว”
... หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า พื้นฐาน + รูปแบบราคายังดี LPN* (เป้าพื้นฐาน 27 บาท) / TOG (เป้า
Consensus 6.6 บาท) / SVI (เป้า Consensus 5.15 บาท) / SST (เป้าพื้นฐาน 31 บาท) / BWG (เป้าConsensus 4.28 บาท ... มีโอกาสปรับขึ้น)
... หุ้น High yield ที่แนะนำก่อนหน้า DCON (Yield >8%) / ASK (Yield >6%) / PAP (yield >6%)
... รับเหมาฯ (ตัวใหญ่ CK* + STEC* + UNIQ* / ตัวเล็ก SCP, PYLON), กลุ่มแบงก์ (KTB*), กลุ่มวัสดุฯ (SCC*) คาดได้ Sentiment บวกจากการแถลงนโยบาย (ภายในสัปดาห์นี้)
... กลุ่มท่องเที่ยว (AAV*, AOT*, ERW*) แนะนำ “สะสม” หุ้นในกลุ่มฯ ต่อ รับ i) ฟรีวีซ่าจีน 3 เดือน ii) มีโอกาสเลิกกฏอัยการศึกเร็วๆนี้หลังมีรัฐบาล iii) เตรียมเข้า High season 1) AAV จะได้อานิสงค์จากนักท่องเที่ยวจีนสูงสุดในกลุ่มสายการบิน / 2) AOT ได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น/ 3) ERW จะได้อานิสงค์สูงสุดในกลุ่มโรงแรม จากประเด็นฟรีวีซ่าจีน
... หุ้นพลังงานทดแทน (IFEC, GUNKUL, DEMCO, SOLAR) ยังคงแนะนำ “สะสม” หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนต่อเนื่อง เลือก IFEC เป็นหุ้นเด่น ประกาศเพิ่มทุนแบบ PP ราคา 6 บาท (ไม่เกิน 300 ล้านหุ้น) และเพิ่มทุนแบบ RO 9:1 ที่ราคา 4 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มธุรกิจของ IFEC หลังการเพิ่มทุน(คาดมีการปิดดีลซื้อโซลาร์ฟาร์มเพิ่มเติมอีกเร็วๆนี้)
... กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีน (BANPU*, TTA, PSL) ฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอประเทศจีนและฮ่องกงออกบทวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือน ส.ค. (ที่จะรายงานในเดือน
ก.ย.) ชะลอตัวลงแต่เป็นโอกาสสะสมหุ้น Cyclical เพราะประเมินว่าแนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจเดือน
ก.ย. – ธ.ค. จะยังดีต่อเนื่อง ... วานนี้ศาลอุทธรณ์ตัดสิน BANPU ชนะคดีหงสา เราประเมินวานนี้มีแรงขายทำกำไร “Sell on fact” แล้ว และราคาปิดที่แนวรับเทรนไลน์ 32.25 บาท แนะนำ “เก็งกำไรสั้นลุ้นรีบาวด์” แนวต้าน +/- 34.5 บาท (กรณีเลวร้ายตัดขาดทุนหากหลุด 32 บาท)
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: BTS*, CPALL*, SCC*, BANPU*
พอร์ตเก็งกำไร: SUTHA, IFEC, TSR กลุ่มรับเหมาฯ, กลุ่มวัสดุ, กลุ่มนิคมฯ, กลุ่มบ้าน,
กลุ่มแบงก์
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
บทวิเคราะห์เศรษฐกิจ ประเมินค่าเงินบาททรงตัวในช่วง ก.ย. – ต.ค. แกว่งในกรอบแคบ 31.74 –32.12 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่จะกลับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร และ ค่าเงินเยน